ตำรวจบุกรวบตัว ผีน้อยเกาหลี ที่แอบไปทำงานในร้านตัดผมชื่อดังย่านสุขุมวิท ซึ่งเป็นอาชีพต้องห้ามกับชาวต่างชาติ
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมาในวันนี้ (15 มกราคม 2568) หลังจาก พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 รับเบาะแสของร้านทำผมชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้ง บนถนนสุขุมวิท มีช่างตัดผมเป็นชาวต่างชาติให้บริการลูกค้า ซึ่งอาชีพการทำผม ตัดผม เสริมสวย เป็นหนึ่งในงานต้องห้ามทำโดยเด็ดขาด จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน พร้อมชุดปฏิบัติงานลงพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบริเวณสถานประกอบการตามที่ได้รับเบาะแส เมื่อขึ้นไปชั้น 2 มีห้องสำหรับทำผม
เมื่อเปิดประตูเข้าไป พบทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติกำลังรับบริการตัดแต่งและจัดทรงผมเป็นจำนวนมาก ลูกค้าบางส่วนยังเข้าคิวรอรับบริการอยู่ โดยมีช่างตัดแต่งทรงผมทั้งที่เป็นชาวไทยและที่มีลักษณะรูปพรรณคล้ายชาวต่างชาติเอเชียตะวันออกอีกหลายราย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตนและเจ้าพนักงาน ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวและใบอนุญาตทำงานของช่างทำผมที่กำลังทำหน้าที่อยู่ทั้งหมด ผลการตรวจสอบจึงพบว่า
ช่างทำผมมีสัญชาติเกาหลี 4 คน เป็นชาย 2 และหญิง 2 และยังพบหญิงสัญชาติเมียนมา 1 คน คือ น.ส.ทินทิน สัญชาติเมียนมา อายุ 33 ปี โดยชาวเกาหลีใต้ทั้ง 4 รายเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการผ่อนผันการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว 90 วันซึ่งจะไม่สามารถทำงานได้ ส่วนชาวเมียนมามีใบอนุญาตทำงาน แต่ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกำลังทำผมให้กับลูกค้า
ซึ่งอาชีพการทำผม ตัดผม เสริมสวย เป็นหนึ่งในงานต้องห้ามทำโดยเด็ดขาด ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ เช่นเดียวกับ งานเร่ขายสินค้า และงานนวดไทย เป็นต้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ทำงาน ทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะกระทำได้ ควบคุมตัวส่ง พงส.สน.คลองตัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับการประกอบอาชีพสงวนที่ต้องห้ามเด็ดขาดตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว หากถูกจับกุม นอกจากจะมีโทษปรับตามกฎหมายคือตั้งแต่ 5,000-50,000 บาทแล้วจะมีผลไปถึงการถูกบันทึกรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและผลักดันออกไปนอกราชอาณาจักร