ไม่ทนแล้ว!พี่สาวทรานส์ถูกเหยียดกลางร้านอาหาร ซัดคนปากแจ๋วนัวจนไวรัลไปทั่วจีน
เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่ร้านอาหาร Haidilao ในเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน โดยเหตุการณ์นี้กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็น "ทนายความฮ่องกง" กับผู้หญิงที่โกรธจัดจนเกิดการปะทะกัน ซึ่งภายหลังมีการเปิดเผยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอินฟลูเอนเซอร์สาวข้ามเพศชื่อ "เจียงเหยียน"
เหตุการณ์เริ่มต้นจากชายชาวฮ่องกงที่รู้จักในชื่อ "นายเอ" ซึ่งระหว่างรับประทานอาหารได้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยเริ่มต้นด้วยการลวนลามผู้หญิงที่โต๊ะข้าง ๆ และพยายามชวนเธอคุย แต่เมื่อไม่สำเร็จ เขากลับใช้คำพูดหยาบคายและเริ่มด่าทอชาวหูหนาน โดยกล่าวหาว่าพวกเขายากจนและไม่มีความสำคัญ หลังจากนั้น นายเอยังหยิบอาหารปาใส่ผู้หญิงคนนั้น ซึ่งเป็นชนวนที่ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท
ในคลิปจากเว็บไซต์ของจีนแผ่นดินใหญ่ จะเห็นได้ว่าชายคนหนึ่งและหญิงสาวกำลังต่อสู้กัน ผู้หญิงที่สวมชุดคอลึกเกือบจะเผยส่วนบนของร่างกาย ระหว่างการต่อสู้ ชายคนนั้นพยายามสู้กลับ แต่สุดท้ายก็โดนผู้หญิงตบไปหลายครั้ง และยังถูกใช้วัตถุแข็งนั่นก็คือรองเท้าส้นสูงตีที่ศีรษะจนฝ่ายชายเสียเปรียบอย่างมาก หลังจากมีคนเข้ามาห้ามปรามเธอจึงหยุดลงมือ
เหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามบนโซเชียลมีเดียจีน โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม Weibo ชาวเน็ตหลายคนยกย่องผู้หญิงคนดังกล่าวว่าเป็น "เทพแห่งสงคราม" และเปรียบเธอว่าเหมือนกับ “อู่ซงปราบเสือ” ตัวละครในตำนานจีนที่มีความแข็งแกร่งและกล้าหาญ
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว กลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้เปิดเผยว่าผู้หญิงในคลิปคือ "เจียงเหยียน" อินฟลูเอนเซอร์สาวข้ามเพศที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เธอออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านบัญชี Weibo ของเธอว่า สาเหตุที่เธอตอบโต้ชายคนดังกล่าวเป็นเพราะเขาใช้คำพูดดูถูกชาวหูหนาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ เธอระบุว่า “คุณมาจากฮ่องกง เราเคารพคุณ แต่ถ้าคุณคิดจะดูถูกพวกเราในฉางซา ขอโทษด้วย นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับ”
เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแค่ในจีน แต่ยังลุกลามไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในต่างประเทศ รวมถึง X (หรือที่เคยรู้จักในชื่อ Twitter) ที่มีชาวไทยรีโพสต์คลิปและแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก หลายคนชื่นชมในความเด็ดเดี่ยวของเจียงเหยียน และประณามพฤติกรรมของชายชาวฮ่องกงที่แสดงออกอย่างไม่เหมาะสม
อ้างอิงจาก: Weibo