จับแก๊งใจโหด!ใช้แรงงาน-ทารุณเด็กชาวเมียนมาวัย8ขวบ!
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปฏิบัติการsave กระรอกน้อย รวบ 3 ผู้ต้องหาซื้อเด็กจากเมียนมา บังคับใช้แรงงาน ทุบตีและไม่ให้อาหารหากไม่พอใจ จนเด็กหนีออกจากบ้าน ซึ่งเคยออกรายการโหนกระแสเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ร่วมกันจับกุม
1.น.ส.พรทิพย์ฯ
2.นายสมานฯ
3.น.ส.นาว ทา ทา ยี่ สัญชาติเมียนมาร์
ในฐานความผิด “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หรือรับไว้ซึ่งบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีฯ”
สืบเนื่องจาก ตามที่ได้ปรากฏในภาพข่าว “สะเทือนใจ เด็กหญิง 8 ขวบ ถูกแม่ตี-ไล่ออกจากบ้านหอบตุ๊กตาคู่ใจนอนตากยุงในสุสานเพียงลำพัง” ซึ่งได้ออกอากาศเผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2567 ซึ่ง พม.จังหวัดชลบุรี ไปรับตัวเด็กหญิงเอคนดังกล่าวไปคุ้มครองสวัสดิภาพไว้และจากการซักถามเบื้องต้นเชื่อว่าเด็กหญิงเอ คนดังกล่าวเป็นบุคคลต่างด้าว แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ กับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากความบอบช้ำทาง ร่างกาย จิตใจ โดยมีการตรวจพบบาดแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็งไม่มีคมบริเวณเล็บมือ นิ้วมือ และแขนขา ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
หลังได้รับการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ เด็กหญิงเอเริ่มให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ทางสหวิชาชีพ ประกอบด้วย พม.จังหวัดชลบุรี แรงงานจังหวัดชลบุรี และพนักงานสอบสวนหญิง กก.2 บก.ปคม. ร่วมกันสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์พบว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยถูกแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน และทราบว่าเด็กหญิงเอ เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ต่อมานักสังคมสงเคราะห์ พม.จังหวัดชลบุรี ได้พาตัวเด็กหญิงเอ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในคดีนี้
จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.ทราบว่า น.ส.นาว ทา ทา ยี่ ผู้ถูกจับรายที่ 3 เป็นผู้ที่เป็นธุระจัดหา ซื้อ เด็กหญิงเอ มาจาก บิดามารดาของ เด็กหญิงเอ โดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นแก่บิดามารดาของ เด็กหญิงเอ เพื่อให้ได้รับความยินยอมในการนำพา เด็กหญิงเอ ออกมาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในประเทศเมียนมาร์ โดยเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2565 มีการจัดทำหนังสือ การที่น.ส.นาว ทา ทา ยี่ ผู้ถูกจับที่ 3 รับเด็กหญิงเอ เป็นบุตรบุญธรรมเป็นนิติกรรมอำพราง
จากนั้นใช้ให้บุคคลอื่นนำพา เด็กหญิงเอ ผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาในประเทศไทยที่จังหวัดตากโดยผิดกฎหมาย แล้วส่งตัวมายัง บ้านพักของนายสมานฯ ผู้ถูกจับที่ 2 และ น.ส.นาว ทา ทา ยี่ ผู้ถูกจับที่ 3 ที่ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และร่วมกันให้เด็กหญิงเอ ซึ่งเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพักอาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าวเพื่อให้พ้นการจับกุมก่อน
จากนั้นเด็กหญิงเอก็ถูกส่งตัวไปยังบ้านพักของ น.ส.พรทิพย์ฯ ผู้ถูกจับที่ 1 ใน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี เพื่อให้ทำงานบ้านทำความสะอาด หุงข้าวเลี้ยงสุนัข หรือบริการ ร่วมกับ น.ส.พอดีฯ สัญชาติเมียนมาร์
แต่จากการตรวจสอบข้อมูลระบบการแจ้งการทำงานของต่างด้าว สำนักงานจัดหางานจังหวัดชลบุรี ไม่พบว่า น.ส.พรทิพย์ เคยแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวแต่อย่างใด โดยน.ส.พรทิพย์ฯ มีการทำโทษเด็กหญิงเอ ที่กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ, ขู่เข็ญด้วยประการใดๆ, ใช้กำลังประทุษร้าย โดยการใช้ไม้ตี การนำตัวมาขังไว้ในห้องภายในบ้านโดยไม่ให้รับประทานอาหารเมื่อทำความผิด และไม่ให้เด็กหญิงเอ เดินทางกลับบ้านโดยนำเหตุว่ามารดาของเด็กหญิงเอ ต้องนำเงินมาคืนก่อน ซึ่งการกระทำดังกล่าวต่อเด็กหญิงเอ ขณะเกิดเหตุเด็กหญิงเอเป็นผู้เยาว์ เป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมาร์ ซึ่งถูกลักลอบนำพาเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย และไม่มีที่พึ่งที่อื่นใด เป็นการทำให้เด็กหญิงเอ สัญชาติเมียนมาร์ อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และจำต้องทำงาน จนกระทั่งมีการหลบหนีออกมา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายค้น บ้านของ น.ส.พรทิพย์ฯ ใน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี และได้ช่วยเหลือเด็กหญิงอีกคนหนึ่ง ชื่อเด็กหญิงบี ซึ่งได้ทำงานอยู่ในบ้านดังกล่าวออกมาคุ้มครองสวัสดิภาพ และเชื่อว่าก็น่าจะเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยการบังคับใช้แรงงานเช่นกัน โดยได้ตรวจยึดพยานหลักฐานสำคัญเป็นเมมโมรี่จากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพว่ามีเด็กหญิงซี อีกคนหนึ่งเป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในบ้าน แต่หลบหนีไปขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะเข้าตรวจค้น และบันทึกภาพขณะที่ น.ส.พรทิพย์ฯ ผู้ถูกจับที่ 1 กำลังขู่ตะคอกเด็กหญิงบี และเด็กหญิงซี เมื่อทำงานผิดพลาด ภาพขณะที่ น.ส.พรทิพย์ฯ ผู้ถูกจับที่ 1 ทุบตีทำร้ายร่างกายเด็กหญิงซี
พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ถูกจับทั้ง 3 ดังกล่าวข้างต้น ตามฐานความผิดดังกล่าวข้างต้น และต่อมา ได้ร่วมกันจับกุมตัวมาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.เพื่อดำเนินคดีต่อไป
.
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/share/p/1B1v5nwRRL/
https://www.facebook.com/share/p/1BYCFtzbN9/