เมตาอ่วม ถูกไนจีเรียปรับเกือบ 8000 ล้านบาท จากกรณีละเมิดสิทธิผู้บริโภค
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลากอส ประเทศไนจีเรียในวันนี้ (22 กรกฏาคม 2567) ว่าคณะกรรมการการแข่งขันและการคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐบาลไนจีเรียสั่งปรับเมตา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และวอตต์สแอปป์ เป็นเงินทั้งสิ้น 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 7,991 ล้านบาท โทษฐานละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูล และสิทธิผู้บริโภคหลายครั้ง นายอดามู อับดุลลาฮี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอฟซีซีพีซี กล่าวว่า การสอบสวนซึ่งดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล ระหว่างเดือน พ.ค. 2564 – ธ.ค. 2566 แ
สดงให้เห็นถึงการละเมิดเจ้าของข้อมูล หรือผู้บริโภคในไนจีเรีย เนื่องจากเมตาเลือกปฏิบัติ ใช้อำนาจครอบงำตลาดในทางที่ผิด แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของชาวไนจีเรียโดยไม่ได้รับอนุญาต และปฏิเสธสิทธิของชาวไนจีเรีย ในการพิจารณาว่าข้อมูลของพวกเขาถูกนำมาใช้อย่างไร นอกจากนั้น เอฟซีซีพีซียืนยันว่า เมตาต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และยุติการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้บริโภคชาวไนจีเรียและละเมิดตลาด พร้อมสั่งให้บริษัทหยุดการกระทำ หรือแนวปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานในอนาคต อย่างไรก็ตาม เมตายังไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของไนจีเรีย แต่เอฟซีซีพีซีให้ข้อมูลว่า บริษัททราบถึงการสอบสวนที่กินเวลาถึง 38 เดือนแล้ว
จากสถิติที่เผยแพร่โดยคณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติ (เอ็นซีซี) ไนจีเรียมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 164.3 ล้านราย ขณะที่แพลตฟอร์มของเมตา ได้แก่ วอตต์สแอปป์, เฟซบุ๊กและอินสตาแกรม เป็นโซเชียลมีเดียซึ่ง ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ ขณะที่นายโบซุน ทิจานี รมว.สื่อสารและเศรษฐกิจดิจิทัล เคยระบุเมื่อเดือน ธ.ค. ว่า มีผู้ใช้วอทส์แอพในไนจีเรียมากกว่า 51 ล้านคน ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรป (EU) เคยกล่าวหาเมตาเมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ว่าละเมิดกฎระเบียบดิจิทัลของอียู และอาจต้องจ่ายค่าปรับมูลค่าหลายพันล้านยูโร (ราว 39,566 ล้านบาท) หลังเปิดตัวการสมัครสมาชิกแบบไม่มีโฆษณาในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม รวมไปถึงการบังคับให้ผู้ใช้หลายล้านคนต้องชำระเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงการรวบรวมข้อมูล หรือตกลงที่จะแบ่งปันข้อมูลเพื่อใช้แพลตฟอร์มต่อไปได้ฟรี