ดรอป แบร์: โคอาล่าลวงโลกเรื่องแหกตา
ออสเตรเลีย ดินแดนที่เต็มไปด้วยความรกร้าง ทรัพยากรสัตว์ป่าและระบบนิเวศที่หลากหลาย ด้วยความเป็นเอกเทศของเกาะมหึมาเกาะนี้ จึงเป็นสถานที่นำให้สิ่งมีชีวิตอาศัยรวมกันในพื้นที่แห่งนี้มากมายวิวัฒนาการอย่างสุดโต่งขึ้นมา ผู้คนมากมายจากทั่วโลกหลั่งไหลมายังดินแดนนี้เพื่อตามหาข้อมูลข้อเท็จจริง และหนึ่งในเรื่องลึกลับของออสเตรเลียนั้นก็เล่าถึงอสูรกายตัวหนึ่งที่ดูตลกมาก แต่ทั้งหมดจะจริงเท็จเพียงใด ก็ต้องไปฟังกันเลย
ดรอป แบร์ เป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายโคอาล่า มีขนาดตัว 1 เมตร และหนักถึง 70 กิโลกรัม มีลักษณะคล้ายกับโคอาล่าทุกประการ แต่ต่างกันตรงฟันคมๆ ใช้เฉือนเนื้อและดื่มเลือด พวกมันดุร้ายก้าวร้าว ชอบจับสัตว์ทุกชนิดในอณาเขตของมันกิน ไม่เว้นแม้แต่สัตว์ใหญ่ โดยจะทิ้งตัวจากที่สูงลงมาใช้น้ำหนักของตัวมันทับเหยื่อให้สลบแล้วค่อยฉีกหรือกัดเหยื่อให้ตายก่อนกิน หากเจอมันตรงๆ แล้ว คุณจะแยกระหว่างมันกับโคอาล่าทั่วไปไม่ออกเลย
บ้านเกิดของดรอป แบร์คือเทือกเขาผาแบ่งสองส่วน (The Great Divide) ที่ตั้งเป็นแนวยาวในรัฐควีนส์แลนด์ (Queensland) ซึ่งประกอบขึ้นจากป่าฝนเขตร้อนชื้นขนาดใหญ่และเทือกเขาหินปูนจำนวนมาก โดยมันจะอาศัยปะปนกับโคอาล่าทั่วไป วิธีป้องกันตัวของชาวออสเตรเลียนั้นมีหลายวิธี ทั้งการพูดสำเนียงอังกฤษออสเตรเลียน การทาเวจิไมต์หรือแยมผักหมักไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือกระโดดหลบให้ทันตอนที่มันร่วงลงมาก็ใช้ได้แล้ว
ว่ากันว่า ดรอป แบร์ เป็นตำนานที่เล่าต่อๆ กันมาจากชาวอะบอริจิ้นของออเตรเลียให้ชาวอังกฤษเจ้าอณานิคมมาในศตรวรรษที่ 18 แล้ว แต่ก็ยังมิได้รับการข้อพิศูจน์ ทำให้มีการล้างบางโคอาล่าที่คาดว่าเป็นดอรป แบร์จำนวนมาก ทว่า ชาวออสเตรเลียส่วนมากเชื่อในเรื่องนี้ทั้งที่มันฟังดูเหมือนเรื่องโกหกไร้สาระที่เจอได้ทั่วไป เรื่องเหล่านี้ต่างเป็นแค่ตำนานเมืองเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวในออสเตรเลียเพียงเท่านั้น และแท้จริงแล้วเรื่องทั้งหมดคือการดัดแปลงตีไข่ใส่สีจากรายการคอมเมดี้อย่าง the Paul Hogan Show ที่ออกอากาศในปี ค.ศ. 1970-1980
โดยสิ่งที่น่าจะใช้อ้างอิงเป็นดรอป แบร์ คาดว่ามาจากการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีกระเป๋าหน้าท้องอายุ 1 ล้านที่แล้ว เรียกว่า ไทลาโคลีโอ (Thylacoleo) มันมีลักษณะคล้ายโคอาล่าผสมสิงโต แต่เป็นพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีกระเป๋าหน้าท้องดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งไทลาโคลีโอเองก็มีพฤติกรรมการล่าคล้ายดรอป แบร์ นักวิทยาศาตร์เชื่อว่ามันจะรอบนต้นไม้หรือเนินสูงเพื่อรอเหยื่อตัวโตเข้ามาแล้วกระโจนกัดคอให้เสียเลือดจนตายคล้ายกับการล่าของเสือเขี้ยวดาบ กลุ่มไทลาโคลีโอกลุ่มสุดท้ายได้พบกับบรรพบุรุษของชาวอะบอริจินในช่วง 500,000 ปีที่แล้ว และเมื่ออาหารที่เป็นสัตว์ขนาดใหญ่อื่นๆ สูญพันธุ์ลงพร้อมกับการล่าของมนุษย์ ไทลาโคลีโอก็กลายเป็นตำนานของอสูรกายตัวอื่นๆ เช่นกัน
ถึงแม้จะไร้ข้อพิศูจน์ และเป็นเรื่องเล่าไร้สาระที่อิงจากการค้นพบสัตว์ดึกดำบรรพ์กลุ่มสุดท้าย ดรอป แบร์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสมัยใหม่ของออสเตรเลียเลยทีเดียว บางที สัตว์ประหลาดที่แต่งขึ้น ก็อาจจะมีเหตุผลนอกจากการค้า เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนอ้างอิงจากสัตว์หรือสิ่งที่มนุษย์ไม่รู้จักก่อกำเนิดขึ้นเป็นเรื่องเล่าเช่นนี้นั่นเอง