ผ้าอาบน้ำฝน กับ ผ้าจำนำพรรษา เป็นผ้าอย่างเดียวกัน หรือคนละอย่าง
วันเข้าพรรษาปี 2567 ตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 เป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 และจะไปออกพรรษาในวันที่ 17 ตุลาคม 2567 เรื่องเกี่ยวกับวันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ก็จะมีประเพณีถวาย ผ้าอาบน้ำฝน และผ้าจำนำพรรษา มีคนสงสัยว่า ผ้าอาบน้ำฝน กับ ผ้าจำนำพรรษาเป็นผ้าชนิดเดียวกัน หรือเป็นผ้าคนละอย่าง ?
ผ้าอาบน้ำฝน หรือ ผ้าวัสสิกสาฎก คือผ้าที่พุทธศาสนิกชนนำไปถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เข้าจำพรรษาในวัดต่างๆ ถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธนิยมปฏิบัติ ซึ่งพระภิกษุสงฆ์จะได้อธิษฐานไว้ใช้นุ่งอาบน้ำฝนตลอด 4 เดือนฤดูฝน
ประวัติการถวายผ้าอาบน้ำฝนมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล คือนางวิสาขามาหาอุบาสิกา ธิดาธนันชัยเศรษฐี เมืองแคว้นภัคคะ ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าจนบรรลุเป็นพระโสดาบันตั้งแต่ยังเด็ก ต่อมาได้แต่งงานกับบุตรเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี และได้ย้ายมาอยู่กับตระกูลสามี นางก็ยังได้ทำบุญในพระพุทธศาสนาเหมือนเดิม วันหนึ่งนางวิสาขาพร้อมผู้ติดตามไปทำบุญที่วัด ได้เห็นพระภิกษุเปลือยกายอาบน้ำเนื่องจากไม่มีผ้าผลัด จึงนำความคิดเรื่องผ้าอาบน้ำฝน ไปกราบทูลพระพุทธองค์ และขอพรให้ทรงอนุญาตให้นางได้ถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่พระสงฆ์ ประเพณีการถวายผ้าอาบน้ำฝนจึงมีมาตั้งแต่สมัยนั้นจนถึงปัจจุบัน
ส่วนผ้าจำนำพรรษา คือผ้าที่ถวายแก่ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือน การถวายผ้าดังกล่าวเป็นการสงเคราะห์ภิกษุที่ต้องการจีวรใหม่ มาผลัดเปลี่ยนของเก่าในระหว่างเข้าพรรษา โดยการถวายผ้าจำนำพรรษานี้นิยมทำกันมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล เป็นผ้าที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุรับไว้ได้ ซึ่งเป็นผ้าอย่างเดียวกันกับผ้ากฐิน คือถวายเมื่อออกพรรษาแต่ต่างกันตรงที่ผ้ากฐินถวายเป็นของสงฆ์ แต่ผ้าจำนำพรรษาจะถวายสงฆ์ก็ได้ ถวายเฉพาะบุคคลคือเฉพาะพระภิกษุบางรูปที่เจาะจงก็ได้
สรุปแล้ว ผ้าอาบน้ำฝน กับผ้าจำนำพรรษา จึงเป็นผ้าคนละชนิด ไม่เหมือนกัน และช่วงเวลาถวายก็ถวายในเวลาต่างกัน