ชุมพร - ผู้ปกครองรวมตัวร้องโรงเรียนอนุบาลดังใน จ.ชุมพร ไม่ปลอดภัย หลังมีคนร้ายบุกเข้าไปล่วงละเมิดทางเพศเด็กแต่ปิดข่าวเงียบ
ชุมพร - ผู้ปกครองรวมตัวร้องโรงเรียนอนุบาลดังใน จ.ชุมพร ไม่ปลอดภัย หลังมีคนร้ายบุกเข้าไปล่วงละเมิดทางเพศเด็กแต่ปิดข่าวเงียบ ไม่สนใจแก้ปัญหา บริหารงานไม่โปร่งใส ขณะที่ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ตกใจเรื่องร้ายแรงไม่รายงานให้ทราบ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (9 ก.ค.) ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชุมพร เขต 1 ได้มีตัวแทนผู้ปกครองกว่า 20 คน เข้าร้องเรียนต่อนายศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 โดยตัวแทนผู้ปกครองได้ยื่นหนังสือข้อร้องเรียน จำนวน 12 ข้อ เกี่ยวกับการบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลชุมพร ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ที่ไม่โปร่งใส มีการลิดรอนสิทธิของนักเรียน ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ทางวิชาการ การพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาของนักเรียน
โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวแทนผู้ปกครองทั้งหมดเข้าไปพบพูดคุยถึงปัญหาและยื่นหนังสือร้องเรียนดังกล่าวภายในห้องประชุมชั้น 3 ซึ่ง นางสารภี สมบูรณ์ศักดิ์ อายุ 55 ปี หนึ่งในตัวแทนผู้ปกครองกล่าวว่า ปัญหาที่พวกตนมาร้องเรียนในวันนี้ เรื่องแรกคือ ความปลอดภัยในสถานศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นเซฟโซน แต่ปรากฏว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเด็กนักเรียนอนุบาลถูกคนร้ายเข้าไปกระทำชำเราเด็กภายในโรงเรียน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ปกครองไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชุมพรแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้บริหารโรงเรียนปิดข่าวเงียบสนิท ไม่มีการแก้ไขหรือป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีก ขณะที่ผู้ปกครองต้องการให้ผู้บริหารโรงเรียนได้ประชุมร่วมกับผู้ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการป้องกัน แต่ผู้บริหารโรงเรียนไม่สนใจและปิดข่าวเงียบกลัวจะเสียชื่อเสียง ทำให้ผู้ปกครองมองว่าไม่มีมาตรการป้องกันความปลอดภัย กลัวว่าจะเกิดขึ้นอีก เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก แต่กลับปิดเงียบไม่ให้ความสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างรับฟังปัญหากรณีดังกล่าว นายศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชุมพร เขต 1 ถึงกับอุทานด้วยความตกใจว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร และเกิดมานานถึง 1 สัปดาห์แล้ว ทำไมตนจึงไม่รู้ ไม่มีใครรายงานให้ตนทราบ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องร้ายแรง และเป็นนโยบายสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยในโรงเรียน ซึ่งตนเพิ่งจะรู้เรื่องนี้เหมือนกัน
สำหรับข้อร้องเรียนทั้ง 12 เรื่อง ที่ผู้ปกครองยื่นต่อ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชุมพร เขต 1
เช่น เรื่องปัญหาคอมพิวเตอร์ในห้องนักเรียนห้อง MEP โดยมีคอมพิวเตอร์เก่าใช้งานมานานกว่า 10 ปี แต่ไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ปีที่แล้วจำนวน 5 เครื่อง ซึ่งในห้องมีนักเรียน 30 คน ครู 1 คน ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหมด 31 เครื่อง แต่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้อยู่เพียง 25 เครื่อง นักเรียนจึงไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรื่องการทุบรื้อเปลี่ยนห้องน้ำชายจากที่เป็นชักโครกมาเป็นแบบส้วมซึม และเหลือห้องน้ำผู้หญิงไว้เพียง 3 ห้อง ซึ่งมีไม่เพียงพอ ทำให้เด็กจำนวนหนึ่งที่ไม่ถนัดการใช้ส้วมซึมและห้องน้ำไม่เพียงพอ จึงต้องอั้นปัสสาวะ อุจจาระ รอจนกว่าผู้ปกครองจะไปรับ ทั้งๆ ที่โลกเจริญก้าวหน้าไปไกลแล้วแต่โรงเรียนกลับล้าหลังใช้ส้วมซึม
นอกจากนั้น ยังตัดกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียนโครงการ MEP โครงการ English เข้าแคมป์เรียนรู้เสริมทักษะ ตัดกิจกรรมโครงการพาเด็กเข้าวัดไปค่ายคุณธรรมที่วัดแบบไปเช้ากลับเย็น ในระดับ ป.1 และ ป.2 โดยให้เหตุผลว่าเด็กๆ ยังเล็กเกินไป ส่วนเด็ก ป.3 ป.4 จากเคยเข้าค่ายนอนวัด 3 วัน 2 คืน ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ก็เปลี่ยนเป็นไปเช้ากลับเย็น
การสับเปลี่ยนครูชำนาญการของโครงการ MEP การลดคาบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ การเปลี่ยนกระเป๋านักเรียนใหม่ต้องมาใช้ที่มีโลโก้ของโรงเรียนที่มีคุณภาพต่ำ ต้องเปลี่ยนเทอมละ 1-2 ใบ สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และการปิดห้องซ้อมดนตรีไทย
นายศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชุมพร เขต 1 กล่าวว่า ตามที่ผู้ปกครองร้องเรียน ตนเข้าใจดี เพราะบางอย่างเป็นเรื่องของความรู้สึก บางอย่างเป็นเรื่องข้อเท็จจริง และบางอย่างเป็นทั้งข้อเท็จจริงและความรู้สึก ตนจึงขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงและต้องให้ผู้บริหารของโรงเรียนได้ชี้แจงด้วย ซึ่งจะสรุปและให้คำตอบกับผู้ปกครองได้
นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวต่อว่า กรณีเด็กนักเรียนถูกล่วงละเมิดกระทำชำเราภายในโรงเรียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ตนยังไม่รู้เรื่องมาก่อน และรู้สึกตกใจมากซึ่งยังไม่มีใครรายงานมาให้ตนทราบ ผู้ปกครองมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ซึ่งหลังจากนี้ตนจะขอลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและทำไมตนจึงไม่ได้รับรายงาน