"อ.ปริญญา" แนะ กกต. เข้มตรวจสอบใช้เงินซื้อเสียงโหวต สว. หวั่นสะดุดได้ หากมีคนร้องเรียนจับตา สว. หลังหมดวาระ
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกถึงการได้มาซึ่ง สว. ด้วยการเลือกกันเอง 3 ระดับ โดยไทม์ไลน์กำหนดให้เปิดรับสมัครวันที่ 13 พ.ค. ว่าตนเชื่อว่าจะมีผู้สมัครจำนวนมาก ถึง 2 แสนคน ดังนั้นอาจมีปัญหาและข้อร้องเรียนเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ดีตนมองการรณรงค์ของคณะก้าวหน้าต่อการให้ประชาชนสมัครโหวต สว. นั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ เพื่อต้องการผู้โหวตอิสระสู้กับผู้สมัครที่มีการจัดตั้งจากนักการเมืองบ้านใหญ่ในพื้นที่
ส่วนกรณีที่มีคนมองว่าการเลือกสว.ครั้งนี้อาจมีการฮั้วกันที่จะเกิดขึ้น ตนมองว่าด้วยระบบที่ให้เลือกกันเองตาม 20 สาขาวิชาชีพ และเลือกไขว้ ทำให้การฮั้วกันทำได้ยาก อีกทั้งการลงคะแนนให้กันถือว่าไม่ผิดกฎหมาย ยกเว้นจะมีการซื้อเสียงหรือให้ผลประโยชน์ ซึ่งประเด็นดังกล่าวขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตรวจสอบให้ดี ในประเด็นการใช้เงินซื้อเสียง นอกจากนั้นแล้ว กกต.ควรพิจารณาทบทวนค่าสมัครจากเดิมที่กำหนดค่าสมัครที่ 2,500 บาท เหลือ 500 บาท เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการสมัครและสมัครได้มากขึ้น
ส่วนมองประเด็นการฮั้วกันหรือการยื่นเรื่องให้พิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะทำให้การเลือกของสว.สะดุดหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า อาจมีประเด็นเกิดขึ้นได้ ทั้งใน 2 กรณี แม้ตามกติกา กกต.มีอำนาจประกาศผลภายในระยะเวลาเท่าใด แต่เป็นกรณีที่ไม่มีปัญหา แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้น เช่น การร้องเรียนตั้งแต่ระดับอำเภอที่มีผู้สมัครจำนวนมาก จะดำเนินการอย่างไร ขอให้จับตาให้ดีหากการประกาศผลเลือก สว.ใหม่ต้องยืดเวลาออกไป ที่มีผลต่อการดำรงอยู่ของ สว. ชุดที่มาจาก คสช.ที่ต้องทำหน้าที่รักษาการไปจนกว่ามี สว.ชุดใหม่ เกี่ยวกับอำนาจเลือกนายกฯ ในรัฐสภา แม้บทเฉพาะกาล มาตรา 272 จะกำหนดให้มีอำนาจ 5 ปีนับแต่มีสภา แต่อาจมีคนที่ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ หากมีปัจจัยที่ต้องการทำให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี