สาวตาบอดถาวรและเสี่ยงสมองอัมพาต หลังฉีดฟิลเลอร์ที่สถานพยาบาล
สื่อนอกรายงานว่า "เด็กสาววัย 17 ปี ในเมืองด่งนาย ประเทศเวียดนาม ตาบอดถาวรและเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตที่สมองซีกซ้าย หลังจากที่เธอฉีดฟิลเลอร์ที่สถานพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งเธอกล่าวว่า "ฉันฉีดริมฝีปากและคาง" และ "ฉันก็ได้รับคำแนะนำจากพวกเขา ให้เสริมจมูก ซึ่งพวกเขาบอกว่า "มันปลอดภัย" แต่สุดท้ายก็เกิดอาการแทรกซ้อนขึ้น..."
เมื่อครอบครัวของเธอ ได้รับแจ้งให้มารับตัวเธอที่สถานพยาบาล พวกเขาพบว่าเธออยู่ในภาวะหมดสติ โดยตาข้างหนึ่งไม่มีสัญญาณใดๆให้เห็นเลย ครอบครัวได้พาเขาเข้าห้องฉุกเฉินทันที และ โรงพยาบาลก็ส่งต่อ ไปยังโรงพยาบาลอีก 5 แห่ง เนื่องจากอุปกรณ์ไม่ดีพอหรือหมอไม่เก่งด้านนี้ โดยพวกเขาใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการเปลี่ยนโรงพยาบาลไปมา...
เมื่อเธอถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่ 5 ในนครโฮจิมินห์ เธอก็ได้รับการวินิจฉัยว่า "ตาข้างซ้ายของเธอบอดถาวร" และ "ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่จะ เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงอื่นๆตามมา เช่น สมองซีกซ้ายอัมพาต เป็นต้น"
นายแทพย์ "ลู่ ทวน พง" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ซึ่งทำงานอยู่ในกรุงฮานอย ได้ออกมากล่าวว่า "การฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกที่สปา หรือ สถานพยาบาล มันไม่รับประกันว่าจะไม่ได้รับผลข้างเคียง" และ "การฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูก ผมแนะนำให้ใช้เครื่องมือคานูลา ซึ่งเป็นเข็มยาวที่มีปลายทู่ ในขณะเดียวกันคนที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม เช่น พนักงานสปา มักจะฉีดเข็มที่แหลมคม เพราะพวกเขาไม่รู้วิธีการใช้ที่ถูกต้อง พวกเขามักจะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในหลอดเลือด ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน ที่เป็นอันตรายได้!!"
"ลู่ ทวน พง" กล่าวอีกว่า "เมื่อฟิลเลอร์เข้าไปปิดทางเดินของเส้นเลือด มันจะเกิดการอุดตัน ซึ่งจะทำให้เกิดอาการ หลอดเลือดแดงจอประสาทตาเสื่อมกระทันหัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรนั่นเอง"
"ลู่ ทวน พง" กล่าวเสริมว่า "ในสัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรไปซาวน่า หรือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด!! เพราะของพวกนั้นจะเพิ่มความร้อนบนใบหน้า ซึ่งจะทำให้ฟิลเลอร์ละลายเร็วกว่าปกติ..."