สื่อนอกเผย "จับกุมชาย 3 คน ขายปืนและกระสุน ให้มือกราดยิงวัย 14 ที่ไทย"

     สื่อนอกรายงานว่า "เมื่อวันพฤหัสบดีทีผ่่านมา ตำรวจไทยได้จับกุมชาย 3 คน ในข้อหาขายปืนและกระสุน ให้เด็กอายุ 14 ปี ที่เป็นมือกราดยิงในห้างสรรพสินค้าหรู ในกรุงเทพ ประเทศไทย โดยเด็กวัย 14 ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ซึ่งตำรวจกล่าวว่า "ใช้ปืนพกที่เชาใช้ยิงเป็นปืนดัดแปลง เพื่อให้สามารถยิงกระสุนจริงได้""

     เจ้าหน้าที่จังหวัดยะลา ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ได้จับกุมพ่อและลูกชาย ในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี ฐานต้องสงสัยขายปืนให้มือกราดยิง

     ตำรวจอาวุโสจังหวัดยะลา กล่าวว่า "เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้บุกค้นบ้านของพวกเขา เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้" และ "พวกเขาถูกส่งตัวไปสอบปากคำที่กรุงเทพ"

     หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมชายคนที่ 3 ในกรุงเทพ ฐานขายกระสุนให้กับมือกราดยิง ซึ่งเขาบอกว่า "ผมไม่รู้จักคนที่ขายปืน ผมแค่ขายกระสุนอย่างเดียว"

     นักช้อปหลายร้อยคนหนีออกจากห้างสรรพสินค้าหรู ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เนื่องจากมีเสียงปืนดังขึ้นในบ่ายวันอังคารทีผ่านมา และ มีคนถูกยิงทั้งหมด 7 คน และ ผู้หญิง 1 คนจากจีน และ อีก 1 คนจากเมียนมาถูกสังหาร
     มือกราดยิงถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า พกพาและยิงปืนในที่สาธารณะ และ เป็นเจ้าของอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาต

     เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า "เขาอยู่ระหว่างการทดสอบทางจิตเวช เพื่อดูว่าเขาเหมาะสมที่จะเข้ารับการพิจารณาคดีหรือไม่? โดยก่อนหน้านี้เขาได้รับการรักษาอาการป่วยทางจิต แต่ได้หยุดรับประทานยาแล้ว"

     โดยเหตุกราดยิงดังกล่าว จุดชนวนให้เกิดการเรียกร้องให้มีการควบคุมอาวุธปืน ที่เข้มงวดมากขึ้นในประเทศที่เต็มไปด้วยอาวุธ ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย

     เมื่อไม่กี่วันก่อนวันครบรอบปีแรก ของการสังหารหมู่ที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งอดีตตำรวจคนหนึ่งซึ่งมีอาวุธปืนและมีด ได้บุกโจมตีสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งได้สังหารเด็กไปมากถึง 24 ราย และ สังหารผู้ใหญ่ไปถึง 12 ราย...

     ตามฐานข้อมูลระหว่างประเทศ ประเทศไทยมีปืนหมุนเวียนประมาณ 10 ล้านกระบอก หรือก็คือ 1 กระบอก ต่อพลเมือง 7 คน และ เป็นหนึ่งในอัตราการเป็นเจ้าของปืน ที่สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

     ในปี 2020 ทหารคนหนึ่งของไทย ได้ก่อเหตุกราดยิงคน 29 ราย ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครราชสีมา ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย

     นายกรัฐมนตรี "เศรษฐา ทวีสิน" ผู้นำของประเทศไทย ได้ให้คำมั่นว่า "จะนำมาตรการป้องกันมาใช้ เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมครั้งต่อไป..."