เพื่อนบ้านเผย "ชีวิตพิ้งกี้ลำบากกว่าที่คิด" !!!

เป็นกระแสขึ้นมาอีกเมื่อมีเพจขุดเรื่องบ้านของพิ้งค์กี้ขึ้นมาแฉ

เป็นดาราที่ผลงานมากมาย เกี่ยวพันกับคดี FOREX-3D แต่ทำไมไม่มีเงินสู้คดีจนต้องประกาศขายบ้าน

งานนี้เพื่อนบ้านออกมาเผยความน่าสงสารของนางเอกสาวพิ้งค์กี้ สาวิกา ไชยเดช

จะเรียกว่า "ลูกกตัญญูก็ได้" เพราะเงินทั้งหมดที่หามาได้ก็โอนให้แม่

งานนี้ต้องเรียกว่า "หมดตัวเพราะรักแม่เลยทีเดียว"

-----------------------------------------------------

เพื่อนบ้านเปิดเผยว่า ตนเองอยู่ที่นี่มา 14-15 ปีแล้ว และรู้ว่าบ้านหลังนี้คือบ้านของพิ้งค์กี้ ดาราสาว

ตามที่ตนเห็นความเป็นอยู่ของครอบครัวดาราสาวนั้นจะไม่สุงสิงกับใคร แค่มองก็ไม่ได้ 

เรื่องจอดรถก็มีปัญหากับเพื่อนบ้านอยู่ตลอด เพื่อนบ้านรายนี้ได้นำรถมาจอดแต่ก็ถูกปฏิเสธว่าจอดไม่ได้

ครอบครัวของดาราสาวไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านไม่คุยกับใคร บ้านนี้ทั้งบ้านไม่พูดคุยกับใครเลย

-----------------------------------------------------

ต่อมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อนบ้านจะเห็นพิ้งค์กี้อยู่ตอนประมาณ 3 ทุ่มออกไปถ่ายละคร

บางทีไปต่างจังหวัดตี 3-4 ก็จะเจอเค้านั่งรถตู้เข้ามาจอด เขาจะใส่แว่นไม่ให้ใครเห็นหน้าเห็นตา

คนที่บ้านตนและลูกน้องเขาก็รู้ว่าเป็นบ้านดาราทั้งนั้น เพราะตนบอกลูกน้องว่าไม่ค่อยจะเห็นพิ้งค์กี้เท่าไหร่

ถ้าวันไหนพิงค์กี้อยู่บ้าน เขาก็จะอยู่แต่ในบ้านไม่ออกมาข้างนอกเลย

ตัวของเพื่อนบ้านและลูกน้องเองก็ไม่ค่อยยากไปยุ่งด้วยเพราะเคยโดนพ่อของพิ้งค์กี้ด่ามาว่า

"มองมาก ๆ จะเอาไหมลูกปืน" ตนก็เลยบอกลูกน้องว่าอย่าไปมองแล้วกัน 

-----------------------------------------------------

เพื่อนบ้านยังเล่าต่ออีกว่า "เคยขอซื้อของพิ้งค์กี้ เพราะคิดว่าพิงค์กี้คงย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว แต่เค้าไม่เคย"

ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าบ้านของพิ้งค์กี้ทำอาชีพอะไรกันแน่ เพิ่งมารู้เมื่อ 2 ปีที่แล้วว่าเกี่ยวกับ FOREX-3D

ซึ่งตัวเพื่อนบ้านเองก็ได้สูญเสียเงินไปจำนวน 2 แสนกว่าบาท แต่ไม่ได้เกิดจากการชักชวนของครอบครัวพิ้งค์กี้

และตนไม่ได้ไปแจ้งความ แล้วก็ไม่รู้ว่าครอบครัวพิ้งค์กี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ 

-----------------------------------------------------

เพื่อนบ้านเล่าต่อว่า เพิ่งมารู้ว่า ครอบครัวพิ้งค์กี้เกี่ยวข้องกับ FOREX-3D ก็เมื่อ DSI มาที่บ้านกันเยอะ ๆ 

มากดออดที่บ้านจนถึงก่อนจะจับกุมพิ้งค์กี้ เมื่อเหตุการณ์ผ่านมาได้ 3 เดือนก็มีการประกาศขาย

เพื่อนบ้านรายนี้จึงสนใจและโทรไปสอบถามว่า จะขายเท่าไหร่ คำตอบที่ได้คือ 4.9 ล้าน แต่ราคาสูงไป

พอจะซื้อจริง ๆ ก็ถูกปฏิเสธและบอกว่ายังไม่อยากขาย ต่อมาไม่นานเมื่อถูกจับ ตนก็เลยไม่ได้ซื้อรอให้เค้าประมูลกัน

ตนถึงจะเข้าร่วมการประมูลด้วย

-----------------------------------------------------

หลักจากเกิดคดีขึ้นมา มีการจับกุมแล้ว ก็ไม่มีใครมาดูบ้านอีกเลย 

ส่วนที่มีข่าวว่าบ้านของพิงค์กี้ชั้นบนเป็นบ้าน ชั้นล่างไว้ขายโรตี

กรณีนี้เพื่อนบ้านคิดว่าน่าจะไม่จริง เพราะไม่เห็นว่ามีคนขาย

พ่อแม่เค้าก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่บ้านเฉย ๆ แล้วใครคือคนขาย

แต่ก็มีกระแสออกมาว่า พิ้งค์กี้เป็นคนทำแป้งโรตีสดขายเอง ไม่ใช่โรตีทอด

ส่วนขายของออนไลน์ก็เพิ่งมาเห็นขายช่วงหลัง ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าขายอะไร 

-----------------------------------------------------