ถอดความคิดเห็น 3 เหตผลสำคัญ "สนับสนุน" ดีลทรู&ดีแทค

ถอดความคิดเห็น 3 เหตผลสำคัญ "สนับสนุน" ดีลทรู&ดีแทค

งานเสวนาสาธารณะของ กสทช. ครั้งที่ 1

ดร.ศุภัช ศุภัชลาศัย บอร์ด กสทช. (เศรษฐศาสตร์)

  เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะดีลทรู&ดีแทค ครั้งที่ 1 โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัช ศุภัชลาศัย เป็นประธานเปิดงาน โดยทาง กสทช. ได้อธิบายหลักการพิจารณาดีลนี้ "ต้องมองอย่างรอบด้าน" เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดในหลายมิติ มองให้ครบธุรกิจต้นน้ำ ปลายน้ำ และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะมองเพียงแค่บางบริการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไม่ได้ ขอยืนยันอีกครั้ง "ไม่มีการแก้กฎหมายเพื่อการควบรวม"  อาจพิจารณากำหนดเงื่อนไข หรือ มาตรการเฉพาะ มาบังคับใช้ผู้มีอำนาจเหนือตลาด

     สำหรับบรรยากาศถือว่า สุดคึกคักตัวแทนภาคธุรกิจทุกภาคส่วนตอบรับเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลาย โดยส่วนใหญ่มีมุมมองเดียวกันคือ ดีลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ มีเพียงเอไอเอส และ NT ออกตัวค้านการควบรวมดีลนี้  จากข้อมูลที่กล่าวไปข้างต้น จึงขอสรุปความคิดเห็นส่วนใหญ่ "สนับสนุน" ดีลทรู&ดีแทค มี 3 เหตุผลหลักๆ คือ  

1. อยากเห็นภาพ "แข่งขัน" ที่เป็นธรรม ให้เหตุผลว่า พิจารณากำไรของ Operator แต่ละรายนั้นทำให้รายที่ 2-3 แข่งขันไม่ได้หรือไม่ ด้วยกำไรที่มากกว่าอาจบริหารต้นทุนความถี่ได้ดีกว่าทั้งๆที่ความถี่ราคาสูงเกินจริง ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม die fast or die slow ทำให้การสร้างโครงข่ายมีปัญหาเรื่องต้นทุน การกักตุนความถี่มีหรือไม่ ได้ความถี่ไปไม่มีการลงทุน ได้มีการวางแผนรองรับเรื่องนี้อย่างไร และการแข่งขันไม่ทำให้เกิดกำไรได้มากกว่านี้  เพราะมีต้นทุนและการแข่งขันอย่างรุนแรง  ประเทศไทยถึงเวลาควรมุ่งเน้นไปที่digital transformation เราเปิด 5G มา 2 ปี ยังมีผู้ใช้ไม่ถึง 5% หลังควบรวม เราต้องเร่งการลงทุนยกระดับประเทศให้ได้

2. มั่นใจ "ศักยภาพ" ส่งเสริม Startup ดิจิทัลไทย มองว่า ปัจจุบันประเทศไทยขาดการลงทุนด้านดิจิทัล เสียดายที่ Startup ไทยต้องล้มเลิกไป ด้วยเหตุผลผู้ให้บริการรายนึงไม่ไปต่อ  ทำให้เสียโอกาสกับ Startup ต้องไปพึ่งพาต่างประเทศ เห็นว่า OTT ของไทยไม่สามารถต้านทานกระแส OTT ต่างชาติได้

  เช่นเดียวกับผู้ให้บริการที่ไม่เข้มแข็ง ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องจะขาดโอกาสได้เช่นกัน บทบาทผู้ให้บริการไม่ใช่มือถือแต่เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต้องมีความเข้มแข็งพอ   หากได้รับ "สนับสนุน" จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยรวมถึง Startup สามารถสู้กับบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ และจะเป็นตัวดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติให้มาร่วมมากขึ้น

3. "โอกาส" บริการใหม่ / ค่าบริการ "ไม่แพง"  ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นการตั้งข้อสงสัยหลักใหญ่ของผู้บริโภค จากมุมมองของความเห็นส่วนใหญ่ "มั่นใจ" ในบริบทหน้าที่ของ กสทช. ที่มีการบัญญัติไว้ในมาตรา 51 ให้อำนาจควบคุมและตรวจสอบการให้บริการ รวมถึงควบคุมอัตราค่าบริการตามที่กฎหมายกำหนดอย่างชัดเจน และตลอดระยะเวลา กสทช. ทำหน้าที่นี้ได้ดีมาตลอด ไม่มีผู้ให้บริการเครือข่ายรายใด "คิดค่าบริการ" เกินกว่าที่ กสทช. ได้กำหนดเพดานไว้

  จากเหตุผลข้างต้น เสียงส่วนใหญ่มองเห็น "ประโยชน์ของชาติในระยะยาว"  มีเข็มมุ่งเดียวกันต้องการให้โทรคมนาคมไทยไปไกลกว่านี้ ถือได้ว่า ภาคอุตสาหกรรมประสานเสียงสนับสนุนการควบรวมนี้  มีทิศทางเดียวกันอยากเห็นประเทศไทยได้แข่งขันด้านเทคโนโลยี  เดินหน้าแข่งขันในระดับภูมิภาคได้ 

--------------------------------------------------