Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องราวสุดพิสดารของสาวน้อย จูลี่แอน เคิ้ปเค่ (Juliane Koepcke)

โพสท์โดย มีข่าวทุกวัน

เรื่องราวสุดพิสดารของสาวน้อย จูลี่แอน เคิ้ปเค่ (Juliane Koepcke) เธอเกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 1954 (ปัจจุบันอายุ 66 ปี) ณ กรุงลิม่า ประเทศเปรู เธอเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของ พ่อฮันส์ วิลเฮล์ เคิ้ปเค่(Hans-Wilhelm Koepcke) และแม่ มาเรีย เคิ้ปเค่ (Maria Koepcke) นักสัตววิทยาชาวเยอรมัน

พอจูลี่แอนอายุได้ 14 ปี พ่อและแม่ของเธอก็ตัดสินใจย้ายจากกรุงลิม่า ไปตั้งศูนย์วิจัยกลางป่าอเมซอนชื่อว่า Panguana เพื่อศึกษาพันธุ์สัตว์ป่า แน่นอนเธอเองก็ติดสอยห้อยตามผู้ปกครองไปด้วย

ในป่าอเมซอนไม่มีโรงเรียนมัธยม มีแต่โรงเรียนชีวิตจริง จูลี่แอนถูกสอนการดำรงชีพในป่าโดยพ่อกับแม่ของเธออยู่ 2 ปี ถ่ายทอดให้จนหมดทั้งวิธีการสังเกตสัตว์, การเอาตัวรอดในพงไพร และการป้องกันตัวเองจากแมลง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาพบเธอเข้า จึงบังคับให้พ่อและแม่พา จูลี่แอนกลับไปเข้าโรงเรียนในระบบที่กรุงลิม่าดังเดิม

ครั้น จูลี่แอนเรียนจบมัธยมปลาย คุณแม่มาเรียเห็นสมควรแก่เวลาจะพาลูกกลับไปอยู่ป่า เธอวางแผนบินกลับศูนย์วิจัยในวันที่ 20 ธันวาคม 1971 แต่จูลี่แอนขอร้องให้อยู่ร่วมพิธีจบการศึกษาในวันที่ 22 ธันวาคมก่อน แม่ของเธอก็เห็นด้วยจึงเลื่อนวันกลับเป็นคืนคริสต์มาสอีฟ 24 ธันวาคม แทน

เมื่อถึงวันบิน ปรากฏว่าเที่ยวบินทุกเที่ยวเต็มหมด เหลือเพียงสายการบินโลว์คอสอันมีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยไม่ดีนักชื่อ Líneas Aéreas Nacionales South America (LANSA) เท่านั้น

หลังจากคุยกันทางโทรศัพท์กับสามีที่อยู่ในป่า Wilhelm ออกอาการไม่เห็นด้วยอย่างแรงที่จะให้ลูกเมียเดินทางกับสายการบินนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นเลย ทุกคนจึงจำใจไปเสี่ยงเอาดาบหน้า

เวลา 11:00 น. เจ้าหน้าที่สนามบินร้องเรียกให้ผู้โดยสารเที่ยวบิน LANSA 508 ขึ้นเครื่องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ จูลี่แอนและแม่จะขึ้นไปนั่งในแถวที่ 2 จากท้ายสุด โดยเด็กสาวนั่งติดหน้าต่างทางขวา แม่ของเธอนั่งกลาง และมีชายร่างใหญ่นั่งทางฝั่งซ้ายติดกับทางเดิน

ไม่นานเครื่อง Lockheed L-188A ก็เร่งเครื่องเต็มกำลัง ส่งสามล้อเหล็กพ้นพื้นดิน ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปตามปกติ การเดินทางแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกระยะทาง 489 กม.ไปเมือง Pucalpa ในเวลา 70 นาที ซึ่งผ่านไปได้โดยสวัสดิภาพ เด็กสาวและแม่ดูจะเอนจอยกับอาหารบนเครื่องซึ่งเสิร์ฟแซนด์วิชเป็นพิเศษ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงที่สองได้ประมาณ 10 นาที

ท้องฟ้าภายนอกเครื่องบินจากเคยสว่างจ้าจนต้องใส่แว่นกันแดด ก็แปรเปลี่ยนเป็นมืดดำราวกับเวลากลางคืน ใช่แล้ว ไฟลท์ LANSA 508 กำลังบินเข้าสู่ใจกลางพายุ ฟ้าแลบแปลบปลาบด้านนอกเครื่องตลอดเวลา ข้าวของที่เก็บไว้เหนือหัวบ้างหล่นลงมา เครื่องตกหลุมอากาศใหญ่หลายครั้งจนทุกคนรู้สึกเหมือนไม่มีลำไส้ ตามมาด้วยเสียงร้องไห้ระงมทั่วทั้งลำ

“หวังว่าเราจะผ่านไปได้ด้วยดีนะ” แม่ของเธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และเปรี้ยงง!! เสียงดังกัมปนาทถึงขั้นทำให้ทุกคนหูดับ ตามมาด้วยแสงสว่างวาบสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้โดยสารมากขึ้นไปอีก เครื่องบินเคราะห์ร้ายถูกฟ้าผ่าลงมาที่ปีกขวาตรงจุดถังน้ำมัน ทำให้เกิดแรงระเบิดเปิดตัวเครื่องเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ จูลี่แอนได้ยินแม่ของเธอร้องไห้และพูดเบาๆว่า

“การเดินทางของเราคงจบตรงนี้แล้วล่ะ” สิ้นเสียงสุดท้ายของแม่ เครื่อง Lockheed L-188A ก็ปักหัวลงอย่างรวดเร็ว เสียงแห่งความเงียบจากเครื่องยนต์สองข้างที่ดับสนิท เธอลืมตามองไปข้างกายจึงพบว่า แม่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว

อันที่จริง เธอไม่ได้อยู่บนเครื่องบินแล้วต่างหาก! จูลี่แอนร่วงหล่นจากความสูง 11,000 ฟุต ตัวล็อคแน่นติดกับเก้าอี้โดยสาร ขณะอยู่กลางอากาศ เธอบอกว่ามันช่างเงียบเชียบและมองไม่เห็นวิวอะไรทั้งสิ้น สติสัมปชัญญะของเธอวูบหายไปเมื่อไหร่ไม่รู้

ในห้วงเวลาไม่กี่วินาทีนั้น เธออยากจะลืมตาตื่นขึ้นบนเตียงนุ่มอันอบอุ่นของเธอ หวังให้ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ฝันร้าย อีกไม่กี่อึดใจเธอก็คงได้ยินเสียงบ่นของแม่ เร่งร้องให้รีบตื่นไปโรงเรียนเสียที

แต่เมื่อลืมตา เธอก็ยังดำดิ่งสู่ความตาย นี่คือเรื่องจริง จูลี่แอนอยู่ในสภาพหัวปักพื้น และสัมผัสกับยอดไม้แห่งป่าทึบเปรูเข้าอย่างจัง แรงเสียดทานเพิ่มมากขึ้นและเธอรู้สึกปวดแสบปวดร้อนตามร่างกาย ก่อนจะหมดสติไป

จูลี่แอนตื่นขึ้นอีกครั้งเพื่อพบว่าตัวเองนอนอยู่กลางป่าดงดิบ ตัวเธอหลุดออกจากเก้าอี้แล้ว อาจเพราะตื่นมาปลดเข็มขัดออกโดยไม่รู้ตัว เธอเริ่มคลานไปรอบๆ ทั้งที่มองเห็นไม่ชัดเพราะดวงตาขวาบวมปูด ก่อนจะสลบไปอีกครั้งเป็นเวลานานถึง 19 ชั่วโมง

รอดชีวิตอย่างน่าเหลือเชื่อ เธอร่วงจากเครื่องบินความสูงนับหมื่นฟุตโดยไร้ชูชีพ แต่ใครจะรู้ว่า วิบากกรรมของจูลี่แอนเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น…ท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินชื่อและกิตติศัพท์ของป่าอเมซอนกันมาบ้าง

เนื้อที่ 5,500,000 ตร.กม. อันเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิด บนบกมีงูอนาคอนด้า, ในน้ำมีปลาปิรันญ่า และในอากาศก็เต็มไปด้วยแมลงนานา การจะเอาชีวิตรอดในป่านี้ได้คุณต้องเป็น แบร์ กริลส์ (ผู้เชี่ยวชาญการดำรงชีพในพื้นที่ยากลำบาก) หรือไม่คุณก็ต้องถูกสอนให้อยู่กับมันมาตั้งแต่เด็ก โชคยังดีที่จูลี่แอนมีคุณสมบัติข้อหลัง

อย่างไรก็ตาม จูลี่แอนเป็นเพียงเด็กหญิงอายุ 17 แถมยังได้รับบาดเจ็บหลายแห่งจากการเหตุการณ์เครื่องบินตก เธอปวดช่วงคอ หลัง และเอว, มีแผลถูกบาดโดยชิ้นส่วนเครื่องบินค่อนข้างลึกที่แขนขวา แถมยังมองอะไรไม่ค่อยเห็นเพราะสายตาสั้น

เธอพยายามร้องเรียกหาแม่ของเธอและคนอื่น ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงเสียงสัตว์ป่าร้องกันเซ็งแซ่ ในช่วงวันแรก จูลี่แอนต้องอาศัยการดื่มน้ำจากใบไม้ประทังชีวิต สัญญาณแห่งความหวังมาถึงในวันที่ 3 เมื่อเธอได้ยินเสียงเครื่องบินค้นหาบินผ่านเหนือหัวไป แต่ด้วยยอดไม้รกทึบ ทำให้โอกาสในการพบเธอนั้นแทบไม่มีเลย เธอจึงกำหนดเป้าหมายแรก คือออกไปสู่พื้นที่โล่งให้ได้

หลังตัดสินใจเดินตะลุยป่ารกชัฎ เธอใช้วิธีที่พ่อสอนมาคือ ปารองเท้าไปข้างหน้าเพื่อให้งูตกใจหนี ก่อนจะเดินไปเก็บและปาต่อไปเรื่อย ทีละก้าว ทีละก้าว อาหารเพียงอย่างเดียวตอนนี้คือลูกอมถุงหนึ่งที่เก็บได้จากซากเครื่องบิน หลังจากเดินอย่างมุ่งมั่นหนึ่งวันเต็ม เธอก็พบเข้ากับลำธารเล็กๆ และระลึกถึงคำสอนของพ่อแม่

“หากลูกหลงป่าและเจอลำธาร จงเดินตามไป มนุษย์จะอยู่ไม่ไกล” จูลี่แอนเดินไปเรื่อย จนลำธารเริ่มกลายเป็นคลองใหญ่ แต่ของกินเธอเริ่มร่อยหรอเหลือลูกอมเพียงไม่กี่ชิ้น ทำให้แรงในการเดินน้อยลงทุกที อีกทั้งสภาพภูมิประเทศและอากาศก็โหดร้ายมาก ฝนตกตลอดวัน พอฝนหยุดก็มาพร้อมความหนาวและยุงป่า อีกสิ่งหนึงที่น่ากลัวคือ เริ่มมีแมลงวันเข้าไปวางไข่เล็กๆ ในแผลที่แขนขวาของเธอแล้ว

ด้วยความกลัวว่าแขนจะเน่าและเสียแขนไป เธอพยายามรีดแผลอย่างรุนแรงเพื่อให้หนอง, เลือด และไข่แมลงวันหลุดออกมา เจ็บปวดทรมานแต่ก็ไม่สามารถทำให้ไข่ที่ฝังแน่นหลุดออกมาได้เลย

สักพักเธอก็สังเกตเห็นนกแร้งเกาะอยู่บนซากอะไรสักอย่าง มันคือซากเครื่องบินไฟลท์ LANSA 508 นั่นเอง เมื่อ จูลี่แอนเข้าไปสำรวจเธอก็พบศพผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง สร้างความหดหู่ใจให้เธอยิ่งนัก

ในวันที่ 6 ของการเดินทาง จูลี่แอนได้ยินเสียงร้องของนก Hoatzin นกชนิดนี้มักหากินอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ เธอรู้ทันทีว่าเธอใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว ซึงก็จริง ในที่สุดเธอก็มาถึงที่ราบลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่ การเดินทางอันโหดร้ายจะได้จบเสียที

แต่เธอคิดผิดถนัด… สิ่งที่เธอควรจะเจอคือมนุษย์ที่สามารถช่วยเธอได้ แต่ก็ไร้วี่แวว จูลี่แอนได้ยินเสียงเครื่องบินค้นหาอยู่บ้าง ก่อนค่อยๆเงียบหายไป บ่งบอกได้ว่าทางการยกเลิกการค้นหาซากเครื่องบินแล้ว เพราะสภาพแวดล้อมอันยากลำบาก

ความหวังของเธอเริ่มเลือนลาง แผ่นดินลุ่มแม่น้ำที่เธอใช้ชีวิตอยู่ก็หดเล็กลงเพราะน้ำขึ้น ที่สุดเธอก็ต้องลงไปอยู่ในน้ำตื้น และเมื่อเท้าลงน้ำ อันตรายก็คืบคลานเข้ามา จระเข้อเมซอน, ปลากระเบน และปลาปิรันญ่า คือแขกขาประจำที่แวะมาเยี่ยมเยียนเธอทุกวัน ซึ่งวิธีเอาตัวรอดจากพวกมันก็เหมือนตอนท่านผู้อ่านยังเป็นเด็ก คือการเล่นจรเข้ขึ้นบก ต้องรีบหนีให้ทันไม่งั้นโดนลากลงไปแน่

อยู่ตรงนั้นได้พักใหญ่ จูลี่แอนก็ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า โดยรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีว่ายน้ำไปเกาะซุงท่อนใหญ่ที่ลอยมา และลอยไปตามกระแสน้ำอเมซอน ปล่อยชีวิตไว้กับลิขิตพระเจ้า

ไม่นานเธอก็เห็นกระท่อมริมน้ำหลังหนึ่ง เมื่อเข้าไปสำรวจก็พบน้ำมันหนึ่งแกลลอน จูลี่แอนรีบหยิบน้ำมันนั้นมาราดตัวเธอเพื่อฆ่าเชื้อโรค และได้ผล ตัวหนอนแมลงวันที่อยู่ในแขนเธอไหลออกมาอย่างน่าอัศจรรย์

เธอตั้งใจพักแรม ณ กระท่อมน้อยเป็นเวลา 2-3 วัน ในระหว่างนั้นก็พยายามไล่จับกบที่กระโดดอยู่รอบๆเป็นอาหาร เธอช้าเกินไปจึงจับไม่ได้สักตัว แต่นั่นก็นับเป็นโชคดีของเธอ เพราะมันคือกบพิษมีฤทธิ์ถึงตาย

เช้าวันออกเดินทาง จูลี่แอนตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงคนคุยกัน ในตอนแรกเธอคิดว่าคงประสาทหลอนเหมือนเคย แต่แล้วก็ปรากฎร่างของชายตัดไม้ 3 คน! ทุกคนอยู่ในอาการช็อกรวมถึง จูลี่แอนด้วย น้ำตาไหลริน ชายเหล่านี้คือคนที่เธออยากเจอมากที่สุดในชีวิต หลังได้สติทั้งสามจึงช่วยกันพา จูลี่แอนที่อยู่ในสภาพใกล้ตายเต็มทีส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน

เธอถูกส่งถึงมือหมอ และได้รับการรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุด…เด็กสาวฟื้นตัวจากอาการป่วยทางกายอย่างรวดเร็ว แต่รอยแผลเป็นทางใจนั้นยังคงอยู่ เธอคิดถึงแม่ ด้วยไม่รู้แม้ชะตากรรมของแม่เธอ เธอคิดถึงพ่อ แต่ก็ไม่รู้ว่าข่าวของเธอจะถูกส่งไปถึงเขาไหม

ก๊อก ก๊อก… ชายร่างใหญ่เดินเข้ามาภายในห้อง จูลี่แอนจำเขาได้ในทันที พ่อและลูกโผกอดกันไม่มีแม้แต่คำพูดสักคำ คงไว้เพียงน้ำตาแห่งความดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งในชีวิต แต่ก็มาพร้อมกับข่าวเศร้า

มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ LANSA ไฟลท์ 508 ตก 91 คน เป็นลูกเรือ 6 คน และผู้โดยสาร 85 คน มีผู้รอดชีวิต 1 คน คือชื่อ Juliane Koepcke

ไม่ว่าปัญหาของท่านผู้อ่านจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน ขอจงอย่าทิ้งความหวังที่จะมีชีวิตต่อไป ปาฏิหารย์เกิดขึ้นได้เสมอ…เกร็ดเล็ก: นักบินถูกกดดันจากความหวังของผู้โดยสารที่ต้องการกลับไปฉลองวันหยุดคริสต์มาสกับครอบครัว ทำให้พวกเขาตัดสินใจเสี่ยงบินฝ่าพายุ นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมในที่สุด

เกร็ดน้อย: หลังการสืบสวนพบว่า มาเรียแม่ของเธอรอดชีวิตจากการตกสู่พื้น แต่เสียชีวิตเพราะอาการบาดเจ็บและความโหดร้ายของป่าอเมซอน

สรุปแล้ว: จูลี่แอนต้องต่อสู้ชีวิตท่ามกลางป่าเขาที่มีสัตว์ดุร้ายนานาชนิดนานถึง 11 วัน

โพสท์โดย: มีข่าวทุกวัน
อ้างอิงจาก: https://www.xn--42c2dgos8bxc2dtcg.com/234755/?utm_source=category&utm_medium=internal_referral
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
มีข่าวทุกวัน's profile


โพสท์โดย: มีข่าวทุกวัน
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สรุป แถลงผลการประชุม JBCหนุ่ม 25 รักจริง แต่งกับยาย 68 หลังเจอกันได้ 3 วันเปิดโผ! 5 อันดับ "จังหวัดยอดฮิต" ปลอดภัยน้ำท่วม น่าอยู่หลังเกษียณ คนแห่ซื้อที่ดินรถไฟขบวนใหม่ อุตราวิถี กรุงเทพ- เชียงใหม่สาวโพสต์ขอความช่วยเหลือ ถูกอดีตแฟนหนุ่มปล่อยคลิปลับ ส่งมาให้แฟนใหม่และคนใกล้ชิดดูทหารกัมพูชาไม่พอใจ หลังเห็นทหารไทยนำลวดน้ำมากั้นบริเวณชายแดน"ขนมปะดา" โดนัทโบราณเมืองนครศรีธรรมราชเจ้าอาวาสวัดดัง อำเภอหนองหาน อุดรราชธานี เสพยาบ้าภายในกุฏิอิหร่านสอนเครื่องบินรบอิสราเอลร่วง 2 ลำ ก่อนจับนักบินหญิงไว้เป็นตัวประกันThe Sims เกมส์ยอดฮิตในวัยเด็กรังสิมันต์โรม โดนฟ้อง 50 ล้านจากอดีตนายแพทย์ใหญ่ ปมชั้น14แจกทริควิธีไปเช็คอินที่ merlion park สิงคโปร์ฉบับคนไม่มีเวลา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
มงต้องลง! "แจ็ค ไททัส" โบกมือลงอเมริกา หวังคว้ามงเวทีโลก!"เงินสด=หนี้สิน จริงหรือ???สูญเงินก้อนโต! เขมรหั่นดีลเน็ตไทย เย้ยแรง “ไทยแค่ปากดี เขมรลงมือจริง”อินโดนีเซีย อีกประเทศที่จะแซงหน้าไทยไม่เห็นฝุ่นในอนาคต"ฮุน มาเนต" ประกาศรัฐบาลพร้อมรับมือเต็มที่กรณีแรงงานกัมพูชาพากันเดินทางกลับจากไทย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด'ฮุน เซน' วอนประชาชนกัมพูชา อย่าก่อเหตุรุนแรงต่อสถานทูตไทย บริษัทไทย หรือพลเมืองไทยในกัมพูชา ชี้คนไทยส่วนใหญ่เป็นคนดี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
จังหวัดโพธิสัตว์ ได้เตรียมรถตู้เขียวที่ได้รับบริจาคจากประเทศเกาหลี ไว้สำหรับอพยพประชาชนชาวกัมพูชาสภาพเขาพระวิหารปัจจุบัน...มรดกโลก ได้ไปก็ซ่อมไม่เป็น เพราะไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง อีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของศาลโลก เขาพระวิหารสาวสุดงง นั่งกินข้าวอยู่ดีๆ เจอลูกค้าหญิงโต๊ะข้างๆ โชว์ข้อความข่มขู่ "ระวังติดคุก" - "ผัวฉัน ห้ามมอง"รังสิมันต์โรม โดนฟ้อง 50 ล้านจากอดีตนายแพทย์ใหญ่ ปมชั้น14
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง