คดีพลิก? เพื่อนบ้านแฉ "ลุงขายโจ๊ก" ขายหมดหม้อทุกวันอยู่แล้ว ล่าสุดหายตัวปริศนา

จากกรณีข่าวโด่งดังในช่วงนี้เรื่องลุงขายโจ๊กคนหนึ่ง ที่ตาไม่ค่อยดี สุขภาพก็ไม่ดี นั่งขายอยู่ในมุมมืดใช้ถุงพาสติกคลุมเพื่อบังฝน โดยระบุว่า

“โจ๊กหมูใส่ไข่ 25 บาท ไม่ใส่ 20 บาทอร่อยครับ ราคานี้ถือว่าอร่อยครับไม่แพงแถมให้เยอะ ยังไงช่วยมาอุดหนุนลุงหน่อยนะครับ เพื่อนมนุษย์ด้วยกันลุงอายุ 78 ปี ลุงเป็นคนน่าสงสารมากครับ ตามองไม่ค่อยเห็น สุขภาพก็ไม่ดีแต่ลุงสู้ครับ วันไหนฝนตกลุงแกก็จะเอาถุงพาสติกคุมแล้วลุงก็จะไปหลบฝนหน้าเซเว่น ที่อยู่แกก็ไม่มีอาศัยบ้านที่ไฟไหม้แล้วเจ้าของยังไม่ซ่อมแซมอาศัยหลบฝนไว้หลับนอน อาศัยน้ำบ้านข้างๆไว้อาบไว้กิน แล้วเจ้าของบ้านก็จะไล่แกแล้วเนื่องจากเจ้าของบ้านจะเอาที่คืน แล้วลุงจะไปอยู่ไหนตังแกก็ไม่ค่อยจะมี วันๆขายหมดได้กำไล 2-3 ร้อยบาทต่อวัน”

“วันนึงเขาจะขายได้สักกี่ถ้วยกันเชียว มีวันนึงผมไปซื้อลุงบอก ยืนขาย 3-4 ชม.ได้แค่ถ้วยเดียว เมื่อวานผมไปอุดหนุนแก แกเล่าให้ฟังว่าแกมีลูก 2 คนแต่ไม่อยู่แล้วแกอยู่ คนเดียวบนโลกที่ไม่เหลือใครแต่แกก็สู้ ไม่ยอมแพ้ แกอยากไปอยู่บ้านพักคนชราแต่ก็ไม่มี ใครเอาแกไปแกบอกมีคนมาดูแกแล้วแต่ก็ไม่มีใครเช้ามาช่วยเหลือ ยังไงใครผ่านไปผ่านมาแถวซ.หมอเหลง ก็แวะอุดหนุนแกหน่อยนะครับ ช่วยอุดหนุนแกด้วยนะครับ บางวันแกมาตั้งขายตั้งแต่ตี 3 ยันสายๆนะครับ ยังไงแวะอุดหนุนแกหน่อยนะครับ”

หลังจากเรื่องราวถูกเผยแพร่ในเฟซบุ๊กว่าขายโจ้กได้กำไรไม่กี่ร้อยบาท ทำให้หลายคนสงสารจึงได้โอนเงินเข้ามาช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก แต่ต่อมากระแสถูกตีกลับ ว่าตาขายโจ๊กอาจจะสร้างเรื่องขึ้นมาเรียกความสงสารเพื่อต้องการรับเงินบริจาค

โดยในวันนี้มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาให้ความช่วยเหลือ พร้อมกับมีสื่อจำนวนมากมารอทำข่าว แต่กลับไม่พบตาที่เพิงพัก โดยเพื่อนบ้านระบุว่า มีรถเก๋งมารับไปตั้งแต่เย็นวาน และยังไม่เห็นกลับมา ซึ่งระบุว่า ตาบอกว่าจะไปหาหมอ เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีนัดในเดือนหน้า และยังไม่มีใครติดต่อตาได้แต่อย่างใด

โดยนายเอ อ้างว่าอยู่ใกล้บ้านและรู้พฤติกรรมของลุง กล่าวว่า ในตอนแรกตนเคยช่วยเหลือตา เพราะว่า ตอนนั้นน้องคนที่โพสต์เรื่องราวคนแรก ได้รู้จักกับตน ได้ทราบว่าลูกชายของตนเสียชีวิตเพราะคดีแพรวา แล้วก็รู้สึกสงสารจึงได้โพสต์เพื่ออยากจะช่วยเหลือ วันต่อมา ตนก็เข้าไปคุยกับตา เรื่องของลูกชาย ว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะคดีแพรวาหรือไม่ ตาบอกว่า ใช่ ตนจึงขออนุญาตเอาเรื่องราวนี้ไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊คเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมได้หรือไม่ ตาบอกว่าไม่อยากให้พูด เพราะศาลไม่อนุญาตให้พูด หากพูดแล้วจะไม่ได้รับเงินเยียวยา จากนั้นจึงได้โพสต์แค่เรื่องชีวิตความเป็นอยู่เท่านั้น

นายเอ กล่าวต่อว่า ต่อมามีกลุ่มในเฟซบุ๊กเริ่มสงสัยเรื่องการเสียชีวิตของลูกชาย ว่าสรุปแล้วเสียชีวิตเพราะสาเหตุอะไร ตนจึงได้ไปถามคนในพื้นที่ใกล้เคียงบางคนก็บอกว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะคดีแพรวา เนื่องจากตาเป็นคนเล่าให้ฟัง แต่บางคนบอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นกรณีคล้ายกัน ต่อมาตนสืบเรื่องราวเอง จึงทราบว่า ลูกชายไม่ได้เสียชีวิตเพราะคดีแพรวา ซึ่งก่อนหน้านี้ตาเล่าให้เด็กๆฟังทุกอย่าง ว่าจะต้องจ้างทนายขึ้นศาลยังไงบ้าง ตนจึงไปถามคนแถวนั้นว่าตาเป็นยังไง มาทราบว่า ตาเป็นคนกะล่อนมาก

นายเอ กล่าวอีกว่า ไปถามคนที่เก่าแก่ในซอย หมอเหล็ง บอกว่าตาเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่นาน ที่บอกขายได้วันละถ้วยนั้น ไม่จริง เห็นว่าขายหมดหม้อทุกวัน เมื่อก่อนอาศัยอยู่แถวประตูน้ำ มีคนเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนตาเหมือนมิจฉาชีพแต่เรื่องจริงเป็นยังไงนั้น ตนไม่ทราบ ต่อมาเมื่อถามจากคนสนิทของตา ก็ทราบว่า ตาเป็นคนกะล่อนมชอบพูดจาน่าเชื่อถือให้คนหลงเชื่อ ส่วนที่บอกว่าทำไมต้องบอกว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะคดีแพรวานั้น คนสนิทบอกว่า ตาศึกษาข้อมูลมาดีจึงพูดเป็นตุเป็นตะ ให้หลายคนหลงเชื่อ ตนจึงอยากจะไขข้อกระจ่างทั้งหมด