เด็กอัจฉริยะที่มีชีวิตโคตรอนาถ
โพสท์โดย warrior B
หากพูดถึงเด็กอัจฉริยะในด้านต่างๆ หลายคมมักจะคิดและอิจฉาเด็กเหล่านั้นว่า พวกเขาประสบความสำเร็จ มีเงินทอง และมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุน้อย หากแต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว ความเป็นอัจฉริยะของพวกเขาไม่สามารถป้องกันพวกเขาออกจากสถานการณ์ที่ร้ายแรง รวมไปถึงการใช้ความสามารถที่ผิดนำไปสู่ชีวิตที่น่าเศร้า
10. แอรอน สวอตซ์ (Aaron Swartz; 8 พฤศจิกายน 1986 – 11 มกราคม 2011)

แอรอน สวอตซ์ เป็นเด็กชาวอเมริกันอัจฉริยะด้าน IT ของแท้ ที่ฉายแววตั้งแต่อายุ 14 ปี จากการมีส่วนร่วมพัฒนาซอฟต์แวร์ RSS ที่กลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้เขายังกลายเป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวทางอินเทอร์เน็ต และยังเป็นนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แม้อายุยังน้อย แต่เขาก็เป็นทั้งนักโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นักลงทุน นักเขียน ผู้จัดตั้งทางการเมือง และยังก่อตั้งกลุ่มออนไลน์ที่ชื่อว่า Demand Progress ซึ่งเป็นที่รู้จักในการรณรงค์ต่อต้านร่างรัฐบัญญัติหยุดยั้งการละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ ไม่แปลกเลยที่เขาได้รับรางวัลบุคคลสำคัญประเทศในการสร้างเว็บไซต์ให้การศึกษาเพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกัน
อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของสวอตซ์ต้องจบสิ้นลง เมื่อเขามีหลักการว่าความรู้ในหนังสือและบทความต่างๆ ในห้องสุด ตลอดจนข้อมูลที่เป็นสาธารณะทั้งปวงนั้นประชาชนจะต้องเขาถึงอย่างเสรี ว่าแล้วเขาจึงพยายามแฮ็คระบบเพื่อขโมยข้อมูลจากระบบเครือข่ายของ JSTOR (เป็นฐานข้อมูลวารสารครอบคลุมสหสาขาวิชา) โดยใช้วิธีผลกฎหมาย กว่า 4.8 ล้านไฟล์และปล่อยออกมาให้นักศึกษาทั่วโลกใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (สาเหตุที่ทำเพราะเขาไม่พอใจในเว็บไซท์ฐานข้อมูลวิชาการจะต้องเสียเงินเพื่อเข้า ทั้งที่เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างประโยคต่อสังคม แต่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้)
ในวันที่ 6 มกราคม 2011 สวอตซ์ถูกจับกุมตัวโดยตำรวจ MIT หากผิดจริง เขาก็จะถูกลงโทษจำคุก 35 ปี ปรับเงินสูงสุดถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ริบสินทรัพย์ การชดใช้ และควบคุมความประพฤติ
อย่างไรก็ตาม สวอตซ์ได้ปฏิเสธการต่อรองการรับสารภาพ และอยู่ในภาวะซึมเศร้า มีอาการป่วยเรื้อรัง สุดท้ายก็จบชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอในห้องชุดของเขาที่บรุกลิน ด้วยอายุเพียง 26 ปี
9.โรเบิร์ต พีซ (Robert Peace; ?- 18 พฤษภาคม 2011)

โรเบิร์ต พีซ เป็นเด็กที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จในอนาคต ขณะที่เขาอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็ก ชื่อเล่นของเขาคือ “อาจารย์” อีกทั้งยังสร้างความประทับใจแก่ผู้บริหาร จึงได้จ่ายค่าเล่าเรียนจนจบมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของโรเบิร์ตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเกิดในนวร์ก นิวเจอร์ซีย์ ในครอบครัวที่พ่อต้องถูกจำคุกในข้อหาฆาตกรรม ทำให้แม่ของเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อยกฐานะครอบครัว แต่ถึงอย่างนั้นโรเบิร์ตก็สามารถเรียนในมหาวิทยาลัยเยล ได้รับการศึกษาชีวเคมี และจบด้วยเกียรตินิยม เรื่องราวของเขาถูกนำไปสร้างสารคดี
หากแต่ แทนที่จะใช้ความรู้นั้นทำประโยชน์ทางสังคม และถูกกฎหมาย โรเบิร์ตกลับใช้ความรู้ที่ได้มา สร้างตัวจนกลายเป็นตัวแทนจำหน่ายกัญชารายใหญ่ที่มีเงินมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ และถูกจบชีวิตจากการถูกยิงตายในเรือนปลูกกัญชาในชั้นใต้ดินบ้านเขาเองปี 2011 เมื่อเขาอายุ 30 ปี
8. พีชส์ เกลดอฟ (Peaches Geldof ; 13 มีนาคม 1989 - 6 หรือ 7 เมษายน 2014)

พีชเชส เกลดอฟ เป็นลูกสาวคนที่ 2 ของนักดนตรีชื่อดัง บ็อบ เกลดอฟ กับ พอลลา เยตส์ โดยเธอเริ่มเป็นที่รู้จักในสื่อเมืองผู้ดีตั้งแต่ยังมีอายุแค่ 15 ปีเท่านั้น หลังมีโอกาสเป็นคอลัมนิสต์รับเชิญของนิตยสาร Elle เมื่ออายุน้อยมากๆ หลังจากนั้นจึงออกจากบ้านตั้งแต่อายุแค่ 16 ปี เพื่อทำงานให้กับสื่อดังไม่ว่าจะเป็นThe Telegraph และ The Guardian และเคยจัดอันดับเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกมาแล้ว
ชีวิตของพีชส์เหมือนจะสมบูรณ์แบบ หากแต่ความจริงชีวิตส่วนตัวกับล้มเหลว แม่ของเธอเสียชีวิตจากการกินยาเกินขนาดในปี 2000 ขณะที่พีชส์มีอายุเพียง 11 ปี และผ่านการหย่ามาสองครั้ง และกลายเป็นคนติดยาเสพติดเฮโรฮีนตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งเธอปกปิดมันมาโดยตลอด จนกระทั่งมีคนพบร่างไร้วิญญาณของ พีชเชส เกลดอฟ สิ้นลมลงอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของเธอเองในเคนต์
ซึ่งภายหลังเปิดเผยว่าเธอเสียชีวิตจากการเสพเฮโรอีนเกินขนาด ขณะมีอายุเพียง 25 ปีเท่านั่น
7. เออร์วิน นีเอียร์กีฮาซิ (Ervin Nyiregyházi ; 19 มกราคม 1903 - 13 เมษายน 1987)

เออร์วิน นีเอียร์กีฮาซิ เป็นเด็กชาวอเมริกันอัจฉริยะในเรื่องเปียโน เพียงแค่อายุ 3 ปี เขาสามารถแต่งเองได้เอง สามารถเล่นเกือบทุกเพลงที่เขาได้ยิน พออายุ 8 ปีก็ไปแสดงในพระราชวังบักกิ้งแฮมและวังอื่นๆ
ประวัติชีวิตของเออร์วินนั้นไม่ค่อยดีมากนัก เขาเกิดในบูคาเปสต์ในปี 1903 พ่อที่ให้กำลังใจและห่วงใยเขาเสียชีวิต ขณะเขาอายุ 12 และแม่ก็หวังจะใช้ประโยชน์ความสามารถของเขา ผลักดันให้เขาเป็นนักดนตรีมืออาชีพจนสำเร็จ
แม้ว่าเออร์วินจะถูกยกย่องว่าเป็น “a new Liszt,” (หมายถึง ฟรันซ์ ลิซท์ นักเปียโนชาวฮังการี) แม้ดูเผินๆ จะเหมือนกับว่าทุกอย่างเป็นใจเพื่อเขา หากแต่ในปี 1920 เมื่อเขาอายุได้ 17 ปี ชีวิตของเขาก็มาถึงจุดตกต่ำ อาชีพของเขาก็จบสิ้นลง เขาเข้ากับคนรอบข้างไม่ได้ แถมช่วงหลังๆ ฝีมือตกลง เขากลายเป็นคนล้มเหลว แทบไม่มีเงิน และเป็นโรคติดสุราเรื้อรัง ผ่านการแต่งงานล้มเหลวถึง 10 ครั้ง (ภรรยาคนแรกที่หย่าบอกว่าเออร์วินชอบใช้ความรุนแรง) และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ในปี 1981
6.บาร์บาร่า นิวฮอลล์ โฟลเล็ตต์ (Barbara Newhall Follett ; 4 มีนาคม 1914 - หายไป 7 ธันวาคม 1939)

นักเขียนนิยายวิสสัน โฟเเล็ตต์เคยเขียนบทความถึงลูกสาวของเขาชื่อบาร์บาร่าว่าเธอเป็นเด็กอัจฉริยะเพียงแค่อายุไม่กี่ปีก็สามารถเรียนรู้ตัวอักษรและคำได้ (อายุ 4 ปีก็เรียนที่บ้านและเขียนบทกวีได้) เชื่อว่เด็กคนนี้จะประสบความสำเร็จในอนาคต
ในปี 1926 บาร์บาร่าได้เขียนหนังสือชื่อ “บ้านไม่มีหน้าต่าง” ( The House Without Windows) แล้วพ่อของเธอที่เป็นบรรณาธิการได้อ่านแล้วเกิดความประทับใจ จึงส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ ผลปรากฏว่าหนังสือเล่มนี้ได้กลายเป็นหนังสือขายดีทันที แน่นอนว่าบาร์บาร่ากลายเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จๆ นักวิจารณ์ต่างชมชอบเธอทั้งๆ ที่เธออายุเพียง 12 ปีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตของเธอช่างน่าเศร้ายิ่งกว่านิยาย พ่อของเธอได้ทิ้งครอบครัวเพื่อผู้หญิงคนใหม่ ทำให้บาร์บาร่าและแม่ของเธอยากจน แม้ว่าบาร์บาร่ายังคงแต่งนิยายและแต่งงาน
หากแต่ในปี 1939 บาร์บาร่าและสามีได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จากนั้นเธอก็ออกจากบ้าน และเธอก็หายไป หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นหรือได้ยินข่าวเกี่ยวกับบาร์บาร่าอีกเลย
5. เบรตอน เบรมเมอร์ (Brandenn Bremmer ; 8 ธันวาคม 1990- 15 มีนาคม 2005 )

เบรตอน เบรมเมอร์ เป็นเด็กอัจฉริยะอย่างแท้จริง (ไอคิว 178) ขณะอายุเพียง 18 เดือน เขาก็สามารถอ่านหนังสือ เมื่ออายุ 3 ปีก็สามารถเล่นเปียโน จบโรงเรียนมัธยมเมื่ออายุ 10 ปีและเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ตอนอายุ 11 ปี
เบรนตอนสร้างความประทับใจทุกคน ทั้งเรื่องความฉลาด และเพลงที่เขาแต่ง อีกทั้งยังได้ออกข่าวจนเป็นที่สนใจ เป็นภูมิใจของพ่อแม่ ซุ่งบอกว่าเขาฉลาดและเป็นเด็กร่าเริง แต่สุดท้ายในปี 2005 เบรนตอนก็จัดการปลิดชีพตัวเอง ด้วยการเอาปืนยิงเข้าที่หัว ตอนนั้นวัยกำลัง 14 ปี ขณะที่กำลังศึกษาเป็นวิสัญญีแพทย์ และกำลังจะปล่อยซีดีเพลงที่สองของเขา
จากการสันนิษฐานเชื่อว่าเขาฆ่าตัวตาย หากแต่ไม่พบจดหมายลาตาย และไม่สามารถหาสาเหตุแรงจูงใจชัดเจน แต่หลายคนมีความเห็นว่าเบรนตอนไม่ได้มีความสุขอย่างที่ทุกคนเห็น พ่อแม่ได้กดดันเขามากเกินไป พ่อแม่ของเบรนตอนได้เสียใจสิ่งที่เกิดขึ้น ต่อมาพวกเขาได้บริจาคอวัยวะของเบรนตอนให้ผู้ที่ต้องการปลูกถ่ายอวัยวะ ตามความตั้งใจของเบรนดอน ที่อยากจะช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้น
4.ฟิลิปปา ชุยเลอร์ (Philippa Schuyler ; 2 สิงหาคม 1931 - 9 พฤษภาคม 1967)

ฟิลิปปา ชุยเลอร์ เกิดที่ ฮาร์เลม, นครนิวยอร์ก, รัฐนิวยอร์ก, อเมริกา เป็นบุตรสาวของจอร์จ ชุยเลอร์ นักข่าวแอฟริกันอเมริกัน ที่แต่งงานกับหญิงผิวขาวชาวอเมริกัน
ฟิลิปปาถูกยกย่องว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ สามารถอ่านและเขียนทั้งๆ ที่อายุยังน้อย และสารมารถแต่งเพลงได้เองตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และเมื่ออายุ 9 ปีก็เป็นนักเปียโน แต่อิจจา เวลานั้น เป็นที่อเมริกันกำลังอยู่ในช่วงการแบ่งแยกเชื้อชาติอย่างรุนแรง คนผิวดำแต่งงานกับหญิงผิวขาวจะถูกรังเกียจจากคนรอบข้าง ทำให้ฟิลิปปาก็โดนด้วย (ยิ่งลูกออกมาผิวขาว สังคมก็ยังเกียจ) ทำให้อาชีพของเธอต้องหยุดชะงักลง
ฟิลิปปาถูกดูถูกจากคนรอบข้าง เธอจึงจำเป็นต้องปกปิดซอนตัวตนของเธอ ภายหลังเธอได้เป็นนักข่าว แต่เธอก็เสียชีวิตอย่างอนาถจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ดานัง, ประเทศเวียดนาม
3.เซอร์เกย์ เรสนิคเฮนโก (Sergey Reznichenko)

เซอร์เกย์ เรสนิคเฮนโก เกิดที่เมืองเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศยูเครน อายุเพียง 2 ปีก็อ่านได้ พออายุ 12 ปีก็มีชื่อเสียงจากรายการเกมโชว์ “ฉลาดสุดๆ” (Britain's Brainiest Kid) สามารถเขียนบทกวี เก่งคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์อื่นๆ และเริ่มเรียนเศรษฐศาสตร์ที่หาวิทยาแห่งชาติ Zaporizhzhya ในยูเครนที่อายุ 15
หากแต่ทุกอย่างไม่สมบูรณ์แบบ แม่ของเซอร์เกย์เป็นพวกคลั่งพระเจ้าสุดโด่ง เกลียดสิ่งรอบข้าง เธอได้พยายามแยกเซอร์เกย์ออกจากเพื่อนของเขา (พวกคลั่งศาสนามักจะไม่ให้ลูกเล่นกับเพื่อ เพราะคิดว่าทุกคนรอบข้างคือคนบาป)และเมื่อเหลืออด เซอร์เกย์ได้ออกไปเรียนมหาลัยตามลำพัง เพื่อเป็นอิสระจากแม่ที่ครอบงำเขา
หากแต่เขากลับกลายเป็นคนติดยาเสพติด จากนั้นก็หมกมุ่นอยู่กับโลกของตนเอง ติดวีดีโอเกม และอนิเมะ และในปี 2011 เขาก็กลายเป็นพวกหลุดโลก ประกาศตนว่าเป็นพระเจ้า ครู่ต่อมาเขาก็กระโดดออกนอกหน้าต่างและเสียชีวิตอย่างอนาถ
2.วอลเตอร์แฮร์รี่พิตส์จูเนียร์ (Walter Pitts; 23 เมษายน 1923 - 14 พฤษภาคม 1969)

วอลเตอร์ พิตส์ เกิในครอบครัวที่ยากจนในดีทรอยต์ รัฐชิมิแกน มีชีวิตที่ไม่ค่อยดีนัก เขาถูกรังแก และพ่อแม่ของเขาอยากให้เขาออกจากโรงเรียน และไปทำงาน
สิ่งที่ปลอบใจเขาได้มีเพียงแค่ห้องสมุดใกล้บ้าน เมื่ออายุได้ 12 ขวบ เขาก็เก่งภาษากรีก ภาษาละติน คณิตศาสตร์ และตรรกะ โดยความรักของเขาเกิดมาจากอ่าน Principia Mathematica (เกี่ยวกับรากฐานคณิตศาสตร์) ของเบอร์ทรานด์ รัสเซล และอัลเฟรด เฮด (Bertrand Russell and Alfred Whitehead)
พิตส์ได้เขียนแสดงความคิดเห็นถึงเบอร์ทรานด์ ทำให้เบอร์ทรานด์เกิดความประทับใจและเชื่อขม โดยเบอร์ทรานด์ได้เชิญพิตส์ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ทั้งที่พิตส์มีอายุเพียง 12 ปี และยังไม่จบไฮสคูล อย่างไรก็ตามเขาได้รับปริญญาเอกจาก MIT ในปี 1943
พิตส์มีผลงานในการเสนอควารมคิดเห็นไซเบอร์เนติกส์และปัญญาประดิษฐ์ไปสู่ยุคคอมพิวเตอร์ และมีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์หลายสาขา (ความคิดของเขาค่อนข้างใหม่ในเวลานั้น) อย่างไรก็ตาม ต่อมาเขากลายเป็นคนติดเหล้าอย่างหนัก หยุดความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง หลังจากนั้นชีวิตเขาก็มีแต่เข้าออกโรงพยาบาล และเสียชีวิตจากโรคตับแข็งในปี 1969
1.นาตาเลีย สเตรลเฮนโก (Natalia Strelchenko; 23 ธันวาคม 1976 - 30 สิงหาคม 2015)

มันเป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ผู้หญิงอัจฉริยะคนหนึ่งต้องจบชีวิตของเธอเพราะสามีขี้หึ่งแย่ๆ นาตาเลีย เกิดที่โซเวียต เป็นอัจฉริยะเปียโนตั้งแต่เด็กๆ และอายุ 12 ปีก็เข้าเล่นบนเวทีกับวงซิมโฟนีที่เก่าแก่ของรัสเซีย อย่าง เซนต์ปีเตอร์เบิร์กซิมโฟนีออร์เคส (St. Petersburg Symphony Orchestra) และกลายเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศในระยะเวลาอันสั้น
ในปี 2004 นาตาเลียได้พบสามีในอนาคตของเธอ ชื่อจอห์น มาร์ตินขณะกำลังแสดงที่โรงเรียนสอนดนตรีออสโล (The Oslo Conservatoire) แต่พวกเขายังไม่ได้แต่งงาน จนกว่าที่นาตาลีจะลืมเหลวในการแต่งงานครั้งแรกและจอห์นหย่าจากภรรยาคนที่สอง ทั้งสองอาศัยอยู่ในแมนเชสเตอร์
อย่างไรก็ตาม จอห์นไม่ใช่สามีที่ดีนัก เขาไม่อยากให้นาตาเลียเล่นดนตรี และอยากให้เธอเป็นแม่บ้านมากกว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยรัดคอเธอในรถ บีบคอที่ห้องนอน แม้กระทั่งบังคับให้เธอทำแท้ง จนกระทั่งในวันครบรอบการแต่งงานมาร์ตินก็ฆ่านาตาเลียอย่างเลือดเย็น (ทำร้ายร่างกายที่คอและศีรษะ แม้รถพยาบาลจะมาช่วยเหลือแต่นาตาลีก็เสียชีวิตในภายหลัง)
ในปี 2016 จอห์นถูกตัดสินลงโทษในคดีฆาตกรรมนาตาเลีย และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคุก
10. แอรอน สวอตซ์ (Aaron Swartz; 8 พฤศจิกายน 1986 – 11 มกราคม 2011)

แอรอน สวอตซ์ เป็นเด็กชาวอเมริกันอัจฉริยะด้าน IT ของแท้ ที่ฉายแววตั้งแต่อายุ 14 ปี จากการมีส่วนร่วมพัฒนาซอฟต์แวร์ RSS ที่กลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้เขายังกลายเป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวทางอินเทอร์เน็ต และยังเป็นนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แม้อายุยังน้อย แต่เขาก็เป็นทั้งนักโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นักลงทุน นักเขียน ผู้จัดตั้งทางการเมือง และยังก่อตั้งกลุ่มออนไลน์ที่ชื่อว่า Demand Progress ซึ่งเป็นที่รู้จักในการรณรงค์ต่อต้านร่างรัฐบัญญัติหยุดยั้งการละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ ไม่แปลกเลยที่เขาได้รับรางวัลบุคคลสำคัญประเทศในการสร้างเว็บไซต์ให้การศึกษาเพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกัน
อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของสวอตซ์ต้องจบสิ้นลง เมื่อเขามีหลักการว่าความรู้ในหนังสือและบทความต่างๆ ในห้องสุด ตลอดจนข้อมูลที่เป็นสาธารณะทั้งปวงนั้นประชาชนจะต้องเขาถึงอย่างเสรี ว่าแล้วเขาจึงพยายามแฮ็คระบบเพื่อขโมยข้อมูลจากระบบเครือข่ายของ JSTOR (เป็นฐานข้อมูลวารสารครอบคลุมสหสาขาวิชา) โดยใช้วิธีผลกฎหมาย กว่า 4.8 ล้านไฟล์และปล่อยออกมาให้นักศึกษาทั่วโลกใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (สาเหตุที่ทำเพราะเขาไม่พอใจในเว็บไซท์ฐานข้อมูลวิชาการจะต้องเสียเงินเพื่อเข้า ทั้งที่เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างประโยคต่อสังคม แต่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้)
ในวันที่ 6 มกราคม 2011 สวอตซ์ถูกจับกุมตัวโดยตำรวจ MIT หากผิดจริง เขาก็จะถูกลงโทษจำคุก 35 ปี ปรับเงินสูงสุดถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ริบสินทรัพย์ การชดใช้ และควบคุมความประพฤติ
อย่างไรก็ตาม สวอตซ์ได้ปฏิเสธการต่อรองการรับสารภาพ และอยู่ในภาวะซึมเศร้า มีอาการป่วยเรื้อรัง สุดท้ายก็จบชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอในห้องชุดของเขาที่บรุกลิน ด้วยอายุเพียง 26 ปี
9.โรเบิร์ต พีซ (Robert Peace; ?- 18 พฤษภาคม 2011)

โรเบิร์ต พีซ เป็นเด็กที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จในอนาคต ขณะที่เขาอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็ก ชื่อเล่นของเขาคือ “อาจารย์” อีกทั้งยังสร้างความประทับใจแก่ผู้บริหาร จึงได้จ่ายค่าเล่าเรียนจนจบมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของโรเบิร์ตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเกิดในนวร์ก นิวเจอร์ซีย์ ในครอบครัวที่พ่อต้องถูกจำคุกในข้อหาฆาตกรรม ทำให้แม่ของเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อยกฐานะครอบครัว แต่ถึงอย่างนั้นโรเบิร์ตก็สามารถเรียนในมหาวิทยาลัยเยล ได้รับการศึกษาชีวเคมี และจบด้วยเกียรตินิยม เรื่องราวของเขาถูกนำไปสร้างสารคดี
หากแต่ แทนที่จะใช้ความรู้นั้นทำประโยชน์ทางสังคม และถูกกฎหมาย โรเบิร์ตกลับใช้ความรู้ที่ได้มา สร้างตัวจนกลายเป็นตัวแทนจำหน่ายกัญชารายใหญ่ที่มีเงินมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ และถูกจบชีวิตจากการถูกยิงตายในเรือนปลูกกัญชาในชั้นใต้ดินบ้านเขาเองปี 2011 เมื่อเขาอายุ 30 ปี
8. พีชส์ เกลดอฟ (Peaches Geldof ; 13 มีนาคม 1989 - 6 หรือ 7 เมษายน 2014)

พีชเชส เกลดอฟ เป็นลูกสาวคนที่ 2 ของนักดนตรีชื่อดัง บ็อบ เกลดอฟ กับ พอลลา เยตส์ โดยเธอเริ่มเป็นที่รู้จักในสื่อเมืองผู้ดีตั้งแต่ยังมีอายุแค่ 15 ปีเท่านั้น หลังมีโอกาสเป็นคอลัมนิสต์รับเชิญของนิตยสาร Elle เมื่ออายุน้อยมากๆ หลังจากนั้นจึงออกจากบ้านตั้งแต่อายุแค่ 16 ปี เพื่อทำงานให้กับสื่อดังไม่ว่าจะเป็นThe Telegraph และ The Guardian และเคยจัดอันดับเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกมาแล้ว
ชีวิตของพีชส์เหมือนจะสมบูรณ์แบบ หากแต่ความจริงชีวิตส่วนตัวกับล้มเหลว แม่ของเธอเสียชีวิตจากการกินยาเกินขนาดในปี 2000 ขณะที่พีชส์มีอายุเพียง 11 ปี และผ่านการหย่ามาสองครั้ง และกลายเป็นคนติดยาเสพติดเฮโรฮีนตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งเธอปกปิดมันมาโดยตลอด จนกระทั่งมีคนพบร่างไร้วิญญาณของ พีชเชส เกลดอฟ สิ้นลมลงอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของเธอเองในเคนต์
ซึ่งภายหลังเปิดเผยว่าเธอเสียชีวิตจากการเสพเฮโรอีนเกินขนาด ขณะมีอายุเพียง 25 ปีเท่านั่น
7. เออร์วิน นีเอียร์กีฮาซิ (Ervin Nyiregyházi ; 19 มกราคม 1903 - 13 เมษายน 1987)

เออร์วิน นีเอียร์กีฮาซิ เป็นเด็กชาวอเมริกันอัจฉริยะในเรื่องเปียโน เพียงแค่อายุ 3 ปี เขาสามารถแต่งเองได้เอง สามารถเล่นเกือบทุกเพลงที่เขาได้ยิน พออายุ 8 ปีก็ไปแสดงในพระราชวังบักกิ้งแฮมและวังอื่นๆ
ประวัติชีวิตของเออร์วินนั้นไม่ค่อยดีมากนัก เขาเกิดในบูคาเปสต์ในปี 1903 พ่อที่ให้กำลังใจและห่วงใยเขาเสียชีวิต ขณะเขาอายุ 12 และแม่ก็หวังจะใช้ประโยชน์ความสามารถของเขา ผลักดันให้เขาเป็นนักดนตรีมืออาชีพจนสำเร็จ
แม้ว่าเออร์วินจะถูกยกย่องว่าเป็น “a new Liszt,” (หมายถึง ฟรันซ์ ลิซท์ นักเปียโนชาวฮังการี) แม้ดูเผินๆ จะเหมือนกับว่าทุกอย่างเป็นใจเพื่อเขา หากแต่ในปี 1920 เมื่อเขาอายุได้ 17 ปี ชีวิตของเขาก็มาถึงจุดตกต่ำ อาชีพของเขาก็จบสิ้นลง เขาเข้ากับคนรอบข้างไม่ได้ แถมช่วงหลังๆ ฝีมือตกลง เขากลายเป็นคนล้มเหลว แทบไม่มีเงิน และเป็นโรคติดสุราเรื้อรัง ผ่านการแต่งงานล้มเหลวถึง 10 ครั้ง (ภรรยาคนแรกที่หย่าบอกว่าเออร์วินชอบใช้ความรุนแรง) และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ในปี 1981
6.บาร์บาร่า นิวฮอลล์ โฟลเล็ตต์ (Barbara Newhall Follett ; 4 มีนาคม 1914 - หายไป 7 ธันวาคม 1939)

นักเขียนนิยายวิสสัน โฟเเล็ตต์เคยเขียนบทความถึงลูกสาวของเขาชื่อบาร์บาร่าว่าเธอเป็นเด็กอัจฉริยะเพียงแค่อายุไม่กี่ปีก็สามารถเรียนรู้ตัวอักษรและคำได้ (อายุ 4 ปีก็เรียนที่บ้านและเขียนบทกวีได้) เชื่อว่เด็กคนนี้จะประสบความสำเร็จในอนาคต
ในปี 1926 บาร์บาร่าได้เขียนหนังสือชื่อ “บ้านไม่มีหน้าต่าง” ( The House Without Windows) แล้วพ่อของเธอที่เป็นบรรณาธิการได้อ่านแล้วเกิดความประทับใจ จึงส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ ผลปรากฏว่าหนังสือเล่มนี้ได้กลายเป็นหนังสือขายดีทันที แน่นอนว่าบาร์บาร่ากลายเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จๆ นักวิจารณ์ต่างชมชอบเธอทั้งๆ ที่เธออายุเพียง 12 ปีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตของเธอช่างน่าเศร้ายิ่งกว่านิยาย พ่อของเธอได้ทิ้งครอบครัวเพื่อผู้หญิงคนใหม่ ทำให้บาร์บาร่าและแม่ของเธอยากจน แม้ว่าบาร์บาร่ายังคงแต่งนิยายและแต่งงาน
หากแต่ในปี 1939 บาร์บาร่าและสามีได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จากนั้นเธอก็ออกจากบ้าน และเธอก็หายไป หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นหรือได้ยินข่าวเกี่ยวกับบาร์บาร่าอีกเลย
5. เบรตอน เบรมเมอร์ (Brandenn Bremmer ; 8 ธันวาคม 1990- 15 มีนาคม 2005 )

เบรตอน เบรมเมอร์ เป็นเด็กอัจฉริยะอย่างแท้จริง (ไอคิว 178) ขณะอายุเพียง 18 เดือน เขาก็สามารถอ่านหนังสือ เมื่ออายุ 3 ปีก็สามารถเล่นเปียโน จบโรงเรียนมัธยมเมื่ออายุ 10 ปีและเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ตอนอายุ 11 ปี
เบรนตอนสร้างความประทับใจทุกคน ทั้งเรื่องความฉลาด และเพลงที่เขาแต่ง อีกทั้งยังได้ออกข่าวจนเป็นที่สนใจ เป็นภูมิใจของพ่อแม่ ซุ่งบอกว่าเขาฉลาดและเป็นเด็กร่าเริง แต่สุดท้ายในปี 2005 เบรนตอนก็จัดการปลิดชีพตัวเอง ด้วยการเอาปืนยิงเข้าที่หัว ตอนนั้นวัยกำลัง 14 ปี ขณะที่กำลังศึกษาเป็นวิสัญญีแพทย์ และกำลังจะปล่อยซีดีเพลงที่สองของเขา
จากการสันนิษฐานเชื่อว่าเขาฆ่าตัวตาย หากแต่ไม่พบจดหมายลาตาย และไม่สามารถหาสาเหตุแรงจูงใจชัดเจน แต่หลายคนมีความเห็นว่าเบรนตอนไม่ได้มีความสุขอย่างที่ทุกคนเห็น พ่อแม่ได้กดดันเขามากเกินไป พ่อแม่ของเบรนตอนได้เสียใจสิ่งที่เกิดขึ้น ต่อมาพวกเขาได้บริจาคอวัยวะของเบรนตอนให้ผู้ที่ต้องการปลูกถ่ายอวัยวะ ตามความตั้งใจของเบรนดอน ที่อยากจะช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้น
4.ฟิลิปปา ชุยเลอร์ (Philippa Schuyler ; 2 สิงหาคม 1931 - 9 พฤษภาคม 1967)

ฟิลิปปา ชุยเลอร์ เกิดที่ ฮาร์เลม, นครนิวยอร์ก, รัฐนิวยอร์ก, อเมริกา เป็นบุตรสาวของจอร์จ ชุยเลอร์ นักข่าวแอฟริกันอเมริกัน ที่แต่งงานกับหญิงผิวขาวชาวอเมริกัน
ฟิลิปปาถูกยกย่องว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ สามารถอ่านและเขียนทั้งๆ ที่อายุยังน้อย และสารมารถแต่งเพลงได้เองตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และเมื่ออายุ 9 ปีก็เป็นนักเปียโน แต่อิจจา เวลานั้น เป็นที่อเมริกันกำลังอยู่ในช่วงการแบ่งแยกเชื้อชาติอย่างรุนแรง คนผิวดำแต่งงานกับหญิงผิวขาวจะถูกรังเกียจจากคนรอบข้าง ทำให้ฟิลิปปาก็โดนด้วย (ยิ่งลูกออกมาผิวขาว สังคมก็ยังเกียจ) ทำให้อาชีพของเธอต้องหยุดชะงักลง
ฟิลิปปาถูกดูถูกจากคนรอบข้าง เธอจึงจำเป็นต้องปกปิดซอนตัวตนของเธอ ภายหลังเธอได้เป็นนักข่าว แต่เธอก็เสียชีวิตอย่างอนาถจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ดานัง, ประเทศเวียดนาม
3.เซอร์เกย์ เรสนิคเฮนโก (Sergey Reznichenko)

เซอร์เกย์ เรสนิคเฮนโก เกิดที่เมืองเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศยูเครน อายุเพียง 2 ปีก็อ่านได้ พออายุ 12 ปีก็มีชื่อเสียงจากรายการเกมโชว์ “ฉลาดสุดๆ” (Britain's Brainiest Kid) สามารถเขียนบทกวี เก่งคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์อื่นๆ และเริ่มเรียนเศรษฐศาสตร์ที่หาวิทยาแห่งชาติ Zaporizhzhya ในยูเครนที่อายุ 15
หากแต่ทุกอย่างไม่สมบูรณ์แบบ แม่ของเซอร์เกย์เป็นพวกคลั่งพระเจ้าสุดโด่ง เกลียดสิ่งรอบข้าง เธอได้พยายามแยกเซอร์เกย์ออกจากเพื่อนของเขา (พวกคลั่งศาสนามักจะไม่ให้ลูกเล่นกับเพื่อ เพราะคิดว่าทุกคนรอบข้างคือคนบาป)และเมื่อเหลืออด เซอร์เกย์ได้ออกไปเรียนมหาลัยตามลำพัง เพื่อเป็นอิสระจากแม่ที่ครอบงำเขา
หากแต่เขากลับกลายเป็นคนติดยาเสพติด จากนั้นก็หมกมุ่นอยู่กับโลกของตนเอง ติดวีดีโอเกม และอนิเมะ และในปี 2011 เขาก็กลายเป็นพวกหลุดโลก ประกาศตนว่าเป็นพระเจ้า ครู่ต่อมาเขาก็กระโดดออกนอกหน้าต่างและเสียชีวิตอย่างอนาถ
2.วอลเตอร์แฮร์รี่พิตส์จูเนียร์ (Walter Pitts; 23 เมษายน 1923 - 14 พฤษภาคม 1969)

วอลเตอร์ พิตส์ เกิในครอบครัวที่ยากจนในดีทรอยต์ รัฐชิมิแกน มีชีวิตที่ไม่ค่อยดีนัก เขาถูกรังแก และพ่อแม่ของเขาอยากให้เขาออกจากโรงเรียน และไปทำงาน
สิ่งที่ปลอบใจเขาได้มีเพียงแค่ห้องสมุดใกล้บ้าน เมื่ออายุได้ 12 ขวบ เขาก็เก่งภาษากรีก ภาษาละติน คณิตศาสตร์ และตรรกะ โดยความรักของเขาเกิดมาจากอ่าน Principia Mathematica (เกี่ยวกับรากฐานคณิตศาสตร์) ของเบอร์ทรานด์ รัสเซล และอัลเฟรด เฮด (Bertrand Russell and Alfred Whitehead)
พิตส์ได้เขียนแสดงความคิดเห็นถึงเบอร์ทรานด์ ทำให้เบอร์ทรานด์เกิดความประทับใจและเชื่อขม โดยเบอร์ทรานด์ได้เชิญพิตส์ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ทั้งที่พิตส์มีอายุเพียง 12 ปี และยังไม่จบไฮสคูล อย่างไรก็ตามเขาได้รับปริญญาเอกจาก MIT ในปี 1943
พิตส์มีผลงานในการเสนอควารมคิดเห็นไซเบอร์เนติกส์และปัญญาประดิษฐ์ไปสู่ยุคคอมพิวเตอร์ และมีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์หลายสาขา (ความคิดของเขาค่อนข้างใหม่ในเวลานั้น) อย่างไรก็ตาม ต่อมาเขากลายเป็นคนติดเหล้าอย่างหนัก หยุดความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง หลังจากนั้นชีวิตเขาก็มีแต่เข้าออกโรงพยาบาล และเสียชีวิตจากโรคตับแข็งในปี 1969
1.นาตาเลีย สเตรลเฮนโก (Natalia Strelchenko; 23 ธันวาคม 1976 - 30 สิงหาคม 2015)

มันเป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ผู้หญิงอัจฉริยะคนหนึ่งต้องจบชีวิตของเธอเพราะสามีขี้หึ่งแย่ๆ นาตาเลีย เกิดที่โซเวียต เป็นอัจฉริยะเปียโนตั้งแต่เด็กๆ และอายุ 12 ปีก็เข้าเล่นบนเวทีกับวงซิมโฟนีที่เก่าแก่ของรัสเซีย อย่าง เซนต์ปีเตอร์เบิร์กซิมโฟนีออร์เคส (St. Petersburg Symphony Orchestra) และกลายเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศในระยะเวลาอันสั้น
ในปี 2004 นาตาเลียได้พบสามีในอนาคตของเธอ ชื่อจอห์น มาร์ตินขณะกำลังแสดงที่โรงเรียนสอนดนตรีออสโล (The Oslo Conservatoire) แต่พวกเขายังไม่ได้แต่งงาน จนกว่าที่นาตาลีจะลืมเหลวในการแต่งงานครั้งแรกและจอห์นหย่าจากภรรยาคนที่สอง ทั้งสองอาศัยอยู่ในแมนเชสเตอร์
อย่างไรก็ตาม จอห์นไม่ใช่สามีที่ดีนัก เขาไม่อยากให้นาตาเลียเล่นดนตรี และอยากให้เธอเป็นแม่บ้านมากกว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยรัดคอเธอในรถ บีบคอที่ห้องนอน แม้กระทั่งบังคับให้เธอทำแท้ง จนกระทั่งในวันครบรอบการแต่งงานมาร์ตินก็ฆ่านาตาเลียอย่างเลือดเย็น (ทำร้ายร่างกายที่คอและศีรษะ แม้รถพยาบาลจะมาช่วยเหลือแต่นาตาลีก็เสียชีวิตในภายหลัง)
ในปี 2016 จอห์นถูกตัดสินลงโทษในคดีฆาตกรรมนาตาเลีย และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคุก
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
VOTED: karn23, แม่หญิงทอรุ้ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ









Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด




