พ่อแม่ เผยเหตุผลไม่เชื่อ "ลูก2ขวบ" ดับเองในป่าอ้อย หลังผลนิติเวชฯชี้ชัด "ทนายรณณรงค์" ยื่นมือช่วยแล้ว!

พ่อแม่ เผยเหตุผลไม่เชื่อ "ลูก2ขวบ" ดับเองในป่าอ้อย หลังผลนิติเวชฯชี้ชัด "ทนายรณณรงค์" ยื่นมือช่วยแล้ว!

 

 

วันที่ 27 ธ.ค. 61 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.สระยายโสม อ.อู่ทอง มีกองทัพนักข่าวที่มาปักหลักรอผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ตลอดทั้งวัน ต่อมานายสมัคร ทัพธานี หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองสิทธิและการค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ LPN มาขอข้อมูลและชี้แจงการขอรับสิทธิที่พ่อและแม่ของ ด.ช.ซูลุย ผิว หรือน้องต้าแง หนูน้อยชาวเมียร์ม่า ที่จะได้รับจากกองทุนยุติธรรม ว่าจะมีคณะกรรมการพิจารณาว่าจะได้ค่าทำศพ ค่าเยียวยาว่าจะได้ค่าชดเชยในส่วนนี้อย่างไร ส่วนบรรยากาศบริเวณไร่อ้อยที่เกิดเหตุนายผิว อายุ 26 ปี และนางมอ อายุ 20 ปี บิดามารดาของน้องต้าแง หนูน้อยผู้เคราะห์ร้ายวัย 2 ขวบ ได้ประกอบพิธีเชิญวิญญาณของน้องให้กลับบ้าน ส่วนนางศรีนวล ทรัพย์วัฒนไพศาล อายุ 43 ปี เจ้าของไร่อ้อยที่เกิดเหตุกล่าวว่าทางพ่อกับแม่ของหนูน้อยหากมีความประสงค์จะจัดงานศพที่นี่ก็พร้อมช่วยเหลือจัดหาสถานที่ และออกค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีให้เป็นการช่วยทำบุญ อย่างไรก็ตามพ่อกับแม่ของหนูน้อยยังคงยืนยัน หากผลการตรวจพิสูจน์ออกมาไม่ตรงกับที่คิดไว้ก็จะไม่เผาศพลูกชายเด็ดขาด

 

 

ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 ได้กำชับลงมาให้ทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบและยุติธรรม พร้อมกับสั่งการให้ให้ พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 (สส.) เป็นผู้ดูแลในคดีนี้ โดยสั่งการ พล.ต.ต.สงวน โรงสะอาด ผบก.บก.สส.ภ.7 นำกำลังชุดสืบสวน บก.สส.ภ.7 ลงพื้นที่ประสานงานกับ พ.ต.อ.กฤษณ์ วาฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ รอง ผบก. พ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผกก.สภ.สระยายโสม แบ่งชุดสืบสวนทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความจริงปรากฏให้ได้

 

 

 

 

ช่วงเย็นวันเดียวกันทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความชื่อดัง นักสิทธิมนุษยชนเด็ก และ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คดีนี้ได้รับการประสานงานจากผู้ประสานงานประเทศพม่า ให้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้หน่อย เพราะว่าพ่อแม่เด็กไม่เชื่อว่าลูกอดข้าว อดน้ำตาย ปักใจเชื่อว่าถูกฆาตกรรม น้องไม่น่าจะตายเพราะว่าอดข้าว อดน้ำ คือเด็ก 2 ขวบไม่น่าจะเดินไปไกลได้ขนาดนั้น ถ้าไปดูในไร้อ้อยขนาดผู้ใหญ่อย่างเรายังเดินลำบากเลย 5 กิโลเมตรไปไม่ได้หรอก มันต้องมีคนอุ้มไป

 

 

 

คือขณะนี้ยังสงสัยในสาเหตุการตาย คือสงสัยว่าเด็กไม่ได้อดข้าวอดน้ำนี่แหละประเด็นสำคัญเลย แต่ถ้าจะมาสรุปว่าตายเพราะอดข้าวอดน้ำเราไม่เชื่อเราตั้งข้อสังเกตไว้หลายเรื่องคือถ้าเด็กตายโดยธรรมชาติทำไมมันไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าในวันแรกๆ ทำไมเพิ่งใน 8-9 วันสุดท้ายมีคนเอามาวางไว้หรือเปล่า เรามองว่าเอาง่ายๆ ถ้าอดข้าวอดน้ำหนูมันไม่แทะขนาดนั้นหรอกมันจะตายโดยธรรมชาติได้ยังไง โดยเฉพาะผลจากทางนิติเวช ที่ได้ทราบมาเราไม่เชื่อขอให้คนที่ทำออกมาตรวจใหม่ ขอดูผลตรวจจากทางนิติเวชอย่างชัดเจนก่อนเพราะว่าอันนี้เป็นแค่รายงานเข้ามายังไม่ได้ฟังจากตำรวจโดยตรงว่าเบื้องต้นเป็นอย่างไรบ้างถ้าออกมาอย่างนั้นเราไม่เชื่อ

 

 

ได้เห็นสภาพศพเด็กแล้วให้หมอนิติเวชอย่างน้อย 1 ท่านช่วยดูแล้ว หมอก็ไม่เชื่อว่าตายอย่างอดข้าวอดน้ำ น่าจะโดนของแข็งตัดทำให้ขาดมากกว่าเพราะเนื้อเยื่อยังไม่ได้ได้เน่ายังไม่ได้เน่าเลยจะขาดได้อย่างไร หนูแทะไม่ทันอยู่ในสภาพนั้นเด็ดขาด เขาเคยเจอแต่หมามากัดแล้วดึงกระดูกไป แต่นี่มันแค่หนูมันเป็นไปไม่ได้ แล้วนับประเด็นว่าเด็กไปโผล่อีก 5 กม. มันต้องมีรอย มีหนอนมีอะไรบ้างมันสะอาดเกินไปหรือว่ามันเอามาวางหรือเปล่า เพราะว่ามันเป็นป่าอ้อยคนมันก็เข้าไปได้หมดแหละ แล้วตอนช่วงที่ค้นหาเด็กเราก็ปล่อยให้ทุกคนช่วยกันค้นอยู่แล้วไม่ได้มีพิรุธอะไร แต่เรายังไม่สงสัยว่าใครทำนะ แต่เราว่าเด็กไม่ได้ตายเอง ก็ต้องขอข้อพิสูจน์ให้ได้ชัดเจนว่าเด็กไม่ได้ตายจากการอดข้าวอดน้ำก่อน แล้วถึงจะไล่ลำดับว่าใครเป็นคนทำให้ตาย

 

 

 

กรณีที่มีข้อสงสัยกับคนสติไม่ดีว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ในส่วนนี้ตำรวจก็ต้องไปเก็บหลักฐานเอาไว้ก่อน วันนี้เรามาก็อยากจะถามว่าตำรวจไปอายัดหรือยังตรวจสอบแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้มันขาดหายไป ถ้าเกิดมันหายไปตอนหลังมันก็ลำบากเลย รู้สึกกังวลหากหลักฐานถูกทำลายทิ้งไปเราอาจจะไม่ได้อะไรเลยก็ได้แต่ผมเชื่อว่าตำรวจทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ขอดูด้วยตาอีกสักรอบหนึ่ง เพราะว่าพอเป็นชาวเมียนมา เวลาเขามาติดต่อเขาก็อาจจะเกิดความกลัว อาจจะไม่กล้าไว้วางใจเท่าไหร่ เราก็เลยเข้ามาสื่อกลางให้ ถ้าเกิดว่าคนพม่าหรือคนสัญชาติชาติอื่นมีปัญหา ให้ช่วยกันมาช่วยกันให้เบาะแส เพราะลางอย่างตำรวจไปหาเองไม่เจอหรอก เพราะว่าเขาไม่ยอมพูดเพราะเขาต้องการคนที่เขาไว้วางใจ วันนี้จึงเข้ามาเพื่อช่วยๆกัน เราต้องการรู้ว่าเด็กตายได้อย่างไรกันแน่ พอตายแล้วเอาไปทิ้งไปแบบนี้มันรับไม่ได้ ผมแค่อยากดูว่าเขาเก็บบางอย่างมาครบถ้วนหรือยัง พอทราบบ้างแล้วว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บหลักฐานอะไรมาบ้าง แต่ต้องขอคุยกับเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะว่าเป็นความลับทางสำนวนด้วยจนกว่ามันจะชัดเจนทุกอย่าง แต่ถ้าบอกเด็กอดข้าว อดน้ำตายผมไม่เชื่อ

 

 

ส่วนพ่อกับแม่ของเด็กกล่าวผ่านล่ามทั้งน้ำตาด้วยว่าแม่บอกว่าน้องเสียชีวิตไม่เป็นธรรมชาติ ทำไมนิติเวชบอกแบบนั้น มีรอยแผล เวลาที่น้องเสียชีวิตทำไมถึงเข้าไปไม่ได้ จะได้รู้ว่าลูกตายอย่างไรทำไมไม่ให้เข้าไปดูไม่มีโอกาสเข้าไปดูศพลูกเลย แต่ถูกกันไม่ให้เข้าไป แค่ไปดูศพที่โรงพยาบาลเท่านั้น เลยไม่รู้ว่าลูกตายที่ไหน ตายอย่างไรบ้าง เวลาที่เสียชีวิตแล้วแม่รู้ในวันที่ 17 แล้ว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้อยู่ที่ไหน อยู่ตรงไหน ไม่รู้อะไรเลย และมั่นใจว่าลูกของตัวเองนั้นต้องตายเพราะถูกรอยไถชนอย่างแน่นอน เพราะเวลาที่ลูกหายไป รถไถก็หายไปด้วย

 

 

เวลาต่อมาที่ สภ.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.กฤษณ์ วาฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผกก.สภ.สระยายโสม และพ.ต.ท.ขวัญทูล ปัญญาปิยวิทย์ สว.หัวหน้างานสอบสวน สภ.สระยายโสม ร่วมกันเปิดแถลงผลการพิสูจน์จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ว่าได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ให้มาชี้แจงในเรื่องของผลการตรวจพิสูจน์ศพว่าเป็นอย่างไรบ้าง ในเบื้องต้นนี้จากการตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏว่าไม่พบบาดแผลที่ตัวของผู้ตาย กระดูกทุกชิ้นไม่มีรอยหัก รอยแตก กะโหลกไม่มีรอยยุบ

 

 

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากระบบการหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว เบื้องต้นไม่พบบาดแผลใดๆในร่างกาย จริงๆแล้ว แพทย์ที่ตรวจก็ทำอย่างมืออาชีพเป็นไปตามหลักวิชาการทุกอย่าง แต่ในเมื่อครอบครัวเขายังไม่สบายใจ เราก็จะส่งศพไปตรวจยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม อีกทีหนึ่งตามความต้องการของครอบครัวของผู้สุญเสีย ตั้งแต่เด็กหายไปเราได้สืบสวน ตั้งประเด็นต่างๆในการหายของเด็กตอนนี้ก็ยังสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานอยู่ เราก็ระเร่งรีบ และทำทุกอย่างให้รัดกุมในการที่จะดำเนินการต่อไป ในการสืบสวนหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไรบ้าง