สถานทูตไทยลอนดอนเตือนคนไทยระวังอย่าเข้าใกล้ที่เกิดเหตุหลังคนร้ายพุ่งรถชน-ใช้มีดแทงเสียชีวิต 5 บาดเจ็บกว่า 20 ราย

รถปฐมพยาบาลที่กรุงลอนดอนรดมเข้าช่วยผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2017 (ภาพซีเอ็นเอ็น)

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2017 เฟซบุ๊คของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร แจ้งว่าหลังเกิดเหตุกราดยิงคนบริเวณอาคารรัฐสภาและเหตุรถยนต์ชนคนบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร ในช่วงบ่ายของวันที่ 22 มีนาคม(ตามเวลาของกรุงลอนดอน) ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้คนไทยที่อยู่ในกรุงลอนดอนติดตามข่าวสารของทางการสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด เพิ่มความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ จัตุรัสรัฐสภา ถนนไวท์ฮอลล์ สะพานเวสต์มินสเตอร์แอนด์แลมเบิร์ธ ถนนวิกตอเรีย จนถึงแยกที่ตัดกับบอร์ดเวย์แอนด์วิกตอเรีย เอ็มแบงก์เมนท์ และสถานีเวสต์มินสเตอร์

ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ จะติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างใกล้

รถคนร้ายเป็น SUV สีเทาที่ใช้ขับชนประชาชนบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ ก่อนจะชนราวสะพานและเสียหลักมาชนรั้วใกล้ทางเข้ารัฐสภาอังกฤษ คนร้ายถือมีดวิ่งเข้าไปแทงตำรวจเฝ้าประตูรัฐสภาเสียชีวิต

เหตุเกิดบ่ายวันพุธที่ 22 มีนาคม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมื่อบ่ายวันที่ 22 มีนาคม 2017 (เวลาของกรุงลอนดอน)ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นเมื่อชายคนขับรถ SUV สีเทาพุ่งเข้าชนคนเดินเท่าบริเวณสะพานเวสต์ มินสเตอร์ที่ต่อเชื่อมเข้าไปยังรัฐสภาอังกฤษ ที่ตั้งอยู่ด้านทิศใต้อยู่ริมแม่น้ำเธมส์

นายเรเด๊ก ซีกอร์สกี้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ให้สัมภาษณ์ผ่านทีวี TVN24 ของโปแลนด์ว่าในระหว่างเกิดเหตุรถของเขาก็ขับข้ามสะพานได้ยินเสียงดังเหมือนรถยนต์กระแทกเข้ากับแผ่นเหล็ก แล้วเห็นคนเดินเท้าหลายคนนอนอยู่กับพื้นสะพาน

 “ผมเห็นคนหนึ่งสภาพเหมือนคนตายแล้ว ผู้ชายอีกคนมีเลือดออกที่หัว  ผมเห็นอีกประมาณ 5 คนได้รับบาดเจ็บน่าจะหนักเอาการ”นายซีกอร์สกี้กล่าว

ภายหลังเกิดเหตุรถพยาบาลจำนวนมากแล่นมาถึงที่เกิดเหตุเพื่อช่วยปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่ามีสตรีรายหนึ่งที่ถูกช่วยขึ้นมาจากแม่น้ำเธมส์  

หลังจากนั้นรถ SUV ก็แล่นเข้าชนด้านเหนือของสะพานซึ่งอยู่ห่างจากทางเข้าตึกรัฐสภาไม่เกิน 200 หลา  ประชาชนต่างพากันตื่นตระหนก ผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่ามีชายคนขับวิ่งถือมีดลงจากรถตรงเข้าไปยังตึกรัฐสภา

นายริก ลองลีย์ พยานผู้อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่าเขาเห็นชายผู้หนึ่งถือมีดวิ่งเข้ามา“เขาวิ่งผ่านไหล่ขวาผมไป ผมไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิต เขาถือมีดขนาดใหญ่ จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังตำรวจ (ที่ยืนเฝ้าประตูหน้าตึกรัฐสภา) ผมไม่เชื่อตาตัวเองเลยว่าจะมีเหตุแบบนี้เกิดต่อหน้าต่อตา”

ตำรวจที่ถูกแทงเสียชีวิตคือ คีธ พาล์มเมอร์ อายุ 48 ปี

เควนทิน เลตต์ ผู้สื่อข่าวเดลิเมล รายงานว่าชายคนร้ายอยู่ในชุดดำหลังจากโจมตีตำรวจแล้วเขาพยายามบุกเข้าไปยังตึกรัฐสภา ก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 คนตามเขาไปพร้อมกับตะโกนให้หยุด เมื่อไม่มีการตอบรับ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัดจนชายคนนั้นล้มลง

เขาล้มห่างจากทางเข้าตึกเวสต์มินสเตอร์ (Westminster Hall) ไม่กี่หลา  ตึกนี้สร้างมาได้นับพันปี เป็นตึกเก่าแก่ที่สุดและส่วนหนึ่งของรัฐสภาลอนดอน หากเขาเข้าไปได้ก็จะทะลุเข้าไปยังล้อบบี้ของอาคารรัฐสภาที่สามารถตรงเข้าไปยังสภาผู้แทนราษฎร( House of Commons) และวุฒิสภา (House of Lords)ได้   

มีรายงานด้วยว่าในระหว่างเกิดเหตุนั้นนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษอยู่ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยนำตัวกลับไปยังที่พักบนถนนดาวน์นิ่ง

เหตุร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณย่านท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงของลอนดอน ใกล้กับเฟอร์รี่วิลล์ยักษ์ London Eye ที่ขึ้นไปชมทิวทัศน์ของกรุงลอนดอน หลังเกิดเหตุทุกอย่างถูกระงับ  เจ้าหน้าที่ระบุว่าคนได้รับบาดเจ็บสาหัส 12 ราย ส่วนอีก 8 รายบาดเจ็บเล็กน้อย

ผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย นักเรียนฝรั่งเศส 3 รายที่อยู่ในระหว่างการไปทัศนศึกษา,ชาวโรมาเนีย 2 รายและนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้อีก 5 ราย

แผนที่เกิดเหตุตั้งแต่จุดแรกที่คนร้ายขับรถฝ่าฝูงชนบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ จากนั้นรถเอนกประสงค์ก็ชนกับรางสะพาน คนร้ายถือมีดลงจากรถวิ่งไปแทงตำรวจที่เฝ้าทางเข้าตึกรัฐสภาอังกฤษก่อนที่จะถูกยิงตาย (แผนที่โดย CNN)

นายกรัฐมนตรีอังกฤษจัดประชุมฉุกเฉิน

นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมจัดประชุมคณะกรรมการความมั่นคงฉุกเฉิน (COBRA)ขึ้นทันที หลังเกิดเหตุโจมตีกรุงลอนดอน นายบี. เจ. แฮร์ริงตัน ผู้บัญชาการตำรวจกรุงลอนดอน กล่าวว่า เหตุการณ์โจมตีกรุงลอนดอนในวันนี้ เป็นเหตุการณ์ก่อการร้าย และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนรับมือการก่อการร้ายอย่างเต็มรูปแบบ  

นายแฮริ่งตัน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้งติดอาวุธ และไม่ติดอาวุธ กระจายกำลังทั่วกรุงลอนดอน เพื่อสร้างความมั่นใจต่อประชาชน

เจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษกล่าวว่า เหตุโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม(ไอเอส)ที่ต้องการโฆษณาชวนเชื่อผลงาน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนว่าคนก่อการร้ายนี้เป็นใคร

สหรัฐพร้อมให้ความช่วยเหลือ

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ว่า กำลังจับตาดูสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวลใกล้กับอาคารรัฐสภาอังกฤษ พร้อมทั้งเสนอให้ความช่วยเหลือต่อทางการอังกฤษ และชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ “กระทรวงฯพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทางด้านกงสุล หากประชาชนชาวอเมริกัน ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้” แถลงการณ์ระบุ

ประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมพ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงลอนดอนแล้วพร้อมกับแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  มีรายงานด้วยว่าสหรัฐ ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยคุมเข้มตามจุดสำคัญต่างๆในทันที โดยเฉพาะในย่านที่ผู้คนพลุกพล่านที่นิวยอร์กและเข้าควบคุมความปลอดภัยแก่พื้นที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอังกฤษ

ที่ฝรั่งเศสได้จัดการหรี่ไฟบนหอไอเฟลเพื่อแสดงความอาลัยต่อเหตุการณ์รุนแรงในลอนดอน เพราะฝรั่งเศสก็ถูกกลุ่มก่อการร้ายโจมตีและเสียชีวิตมาอย่างน้อย 3 ครั้งในรอบปีที่ผ่านมา

ครบรอบปีของการโจมตีเบลเยียม

รายงานข่าวเปิดเผยว่าวันที่ 21 มีนาคม ยังเป็นวันครบรอบปีที่กลุ่มก่อการร้ายโจมตีกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียมโดยถูกวางระเบิดทั้งที่สนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 32 ราย  เหตุการณ์ล่าสุดคือการใช้รถบรรทุกบุกโจมตีเมืองนีซ ฝรั่งเศสในระหว่างที่ผู้คนกำลังไปดูพลุฉลองวันชาติฝรั่งเศส 14 กรกฎาคม และต่อมาคนร้ายยังใช้รถบรรทุกบุกเข้าไปยังตลาดคริสต์มาสกลางกรุงเบอร์ลินในเยอรมนีระหว่างผู้คนกำลังไปซื้อหาสินค้าเครื่องประดับก่อนเทศกาลคริสต์มาส

กรุงลอนดอนเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายมาตั้งแต่ยุค 1970 โดยกลุ่ม IRA มาถึงยุค 1980 โดยกลุ่มอิสลามและเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2005  ลอนดอนถูกกลุ่มอัล-ไควดะ 3 รายใช้ระเบิดพลีชีพสังหารตัวเองในขบวนรถไฟใต้ดินและรถประจำทางทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 52 ราย

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอังกฤษเปิดเผยว่าในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาอังกฤษได้รับการข่มขู่และลงมือของกลุ่มก่อการร้าย 13 ครั้ง และเมื่อปีที่แล้ว โจ ค็อกซ์ ส.ส.อังกฤษผู้รณรงค์ให้อังกฤษยังอยู่กับสหภาพยุโรปถูกกลุ่มขวาจัดยิงเสียชีวิต ก่อนหน้านั้นก็มีผู้ถูกแทง 3 รายบริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน สาเหตุมาจากสงครามในซีเรียเป็นแรงบันดาลใจให้คนร้ายลงมือ