นายกปากีประกาศล่า!! ก่อการร้าย IS บุกเดี่ยวระเบิดโจมตีมัสยิดซูฟีย์ สูญเสียเกือบ 100 คน (คลิป)
เมื่อวาน 16 ก.พ สื่อต่างประเทศเอพีเอเจนซีส์รายงาน เหตุุเกิดการโจมตีมือระเบิดฆ่าตัวตายกลุ่มก่อการร้าย IS ลงมือจุดชนวนระเบิดที่ผูกติดตัวในขณะที่อยู่ภายในมัสยิดซูฟียฺ (Sufi) ที่มือชื่อเสียงทางใต้ของปากีสถานซึ่งมีพลุกคนพลุกพล่าน เสียชีวิต 75 คนที่รวมไปถึงเด็กและผู้หญิงถึง 29คน และบาดเจ็บ 150 คน ในวันพฤหัสบดี(16 ก.พ) ด้านนายกรัฐมนตรีปากีสถาน นาวาซ ชารีฟ ประกาศจะไล่ล่ากลุ่มผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาลงโทษ
เอพีรายงานเมื่อวานนี้(16 ก.พ)ว่า มือระเบิดฆ่าตัวตาย 1 รายเดินเข้าไปภายในห้องโถงของมัสยิดลาล ชาห์บัซ คาลานดาร์(Lal Shahbaz Qalandar) นิกายซูฟียฺ(Sufi) ของศาสนาอิสลามที่มีชื่อเสียงในเมืองเซห์วาน(Sehwan) ทางใต้ของปากีสถาน ในวันพฤหัสบดี(16 ก.พ) และตัดสินใจจุดชนวนระเบิดที่ติดมากับตัวในขณะที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากภายในมัสยิดแห่งนี้ อ้างอิงจากแหล่งข่าวตำรวจปากีสถาน 3 นาย โดยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 75 คน และพบว่าฟาซาล พาเลโจ( Fazal Palejo)เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของจังหวัดซินด์ฮ์( Sindh)ยืนยันตัวเลขเหยื่อดับในกลุ่มเด็กและผู้หญิง 29 ราย ที่ว่ามีเด็กอย่างน้อย 9 คนและผู้หญิงอีก 20 คนรวมอยู่ในกลุ่ม ซึ่งหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานว่า เหตุที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดราว 150 คน
เอพีรายงานต่อว่า กลุ่มก่อการร้าย IS ออกแถลงการณ์ประกาศอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น ซึ่งสำนักข่าวอานาค(นิวส์Aamaq news) สื่อที่โยงใยกลุ่มก่อการร้าย รายงาแถลงการณ์ของกลุ่ม IS ระบุว่าทางกลุ่มพุ่งเป้าโจมตีสถานที่ซึ่งกลุ่มชีอะห์รวมตัว ซึ่งในการโจมตีมัสยิดนิกายซูฟียฺชนกลุ่มน้อยนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการโจมตีของก่อการร้าย โดยสื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจปากีสถานในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า “ระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่มีฝูงคนจำนวนมากรวมตัวอยู่ภายในมัสยิดที่เกิดเหตุ” และกล่าวต่อว่า “ทุกวันพฤหัสบดี จะมีคนจำนวนมากเดินทางเข้ามาทำการสวดและเต้นรำบูชาสรรเสริญพระเจ้า” เอพีรายงานว่า
หนึ่งในพยานในเหตุการณ์ ราจา ซอมโร(Raja Somro) ได้กล่าวให้ความเห็นกับสถานีข่าวท้องถิ่นว่า ในขณะเกิดเหตุระเบิด มีคนจำนวนหลายร้อยคนกำลังร่วมทำพิธีเต้นรำตามหลักนิกายที่เรียกว่าดามาล( Dhamal) และเปิดเผยต่อว่า “ผมเห็นร่างผู้เสียชีวิตทุกหนทุกแห่ง ผมเห็นร่างของผู้หญิงและเด็กจำนวนมาก” เอพีรายงานต่อว่า ในภาพข่าวยังเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากสถานที่เกิดเหตุ แสดงถึงสภาพความเสียหายอย่างร้ายแรงที่มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากกำลังร้องขอความช่วยเหลือบนพื้นที่ปกคลุมไปด้วยรองเท้า และกองเลือด รวมไปถึงชิ้นส่วนอวัยวะกระจัดกระจาย ในขณะที่มีกลุ่มผู้หญิงร้องไห้และใช้มือตีอกตัวเองด้วยความโศกเศร้า ด้านเดอะการ์เดียนชี้ว่า มีรายงานว่า การให้บริการแพทย์ฉุกเฉินในเมืองที่เกิดเหตุนั้นเต็มไปด้วยความยุ่งยาก โดยมูห์ฮีน ฮาห์เหม็ด(Muheen Ahmed) หัวหน้าการแพทย์โรงพยาบาลท้องถิ่นในจังหวัดกล่าวเปิดใจ จากการรายงานของเดอะการ์เดียนว่า โรงพยายาบาลพื้นที่ขาดเตียงคนไข้ที่จะสามารถทำการช่วยเหลือผู้ป่วยจำนวนมากในเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นได้ ส่งผลทำให้ต้องส่งคนไข้ไปยัง เมืองไฮเดราบัด(Hyderabad) ที่ห่างออกไปร่วม 90 ก.ม
นาวาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ออกแถลงการณ์ถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า “การโจมตีมัสยิดนิกายซูฟียฺถือเป็นภัยคุกคามซึ่งหน้า” โดยในรายงานของสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลปากีสถาน ได้กล่าวว่า ชารีฟแถลงว่า กองทัพปากีสถานและหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยของปากีสถานจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อติดตามไล่ล่าเพื่อจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดมาลงโทษ ในขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพปากีสถาน คามาร์ จาเวด บาจวา(Qamar Javed Bajwa) ประกาศเรียกร้องให้ประชาชนปากีสถานอยู่ในความสงบ โดยยืนยันว่า “กลุ่มกองกำลังความมั่นคงของประชาชนปากีสถานจะไม่มีวันยอมปล่อยให้อำนาจเถื่อนมีชัย” และยังยืนยันด้วยน้ำเสียกร้าวว่า เลือดทุกหยดของปากีสถานต้องได้รับการเอาคืนอย่างสาสมเอพีรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯออกแถลงการณ์ประณามเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมกับประกาศว่าสหรัฐฯยืนเคียงข้างปากีสถาน และจะสนับสนุนปากีสถานในการที่จะนำกลุ่มก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังมารับโทษ โดยในแถลงการณ์ยังยืนยันว่าสหรัฐฯจะยังคงให้คำมั่นต่อการต่อต้านก่อการร้าย และปกป้องเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียใต้