อันนี้ต้องคิดตามเลย! สื่อนอกเผย 5 รายชื่อของประเทศที่อาจอยู่ได้ไม่ถึง 20 ปี

พบกับเรื่องราวของ 5 ประเทศที่ถูกเปิดเผยชื่อว่าอาจอยูู่ได้ไม่ถึง 20 ปี จากเว็บไซต์ดัง geekpause.com ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การเมือง เชื้อชาติ และสภาพแวดล้อมของโลก มาดูกันเลยว่ามีประเทศใดบ้าง

สเปน : นับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจในปี ค.ศ.2008 ทำให้รัฐบาลสเปนต้องพบกับวิกฤติทางการเงิน อัตราการว่างงานที่สูงขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติ เนื่องจากแคว้นคาตาลันที่อยู่ใกล้กับชายแดนประเทศฝรั่งเศสแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าต้องการแยกตัวเป็นอิสระ เนื่องจากพวกเขามองว่าวัฒนธรรม ประเพณีและภาษามีความแตกต่างจากชาวสเปนอย่างสิ้นเชิง

เมื่อปี ค.ศ.2014 ชาวคาตาลันได้พร้อมใจกันโหวดประชามติขอให้แคว้นคาตาลันแยกตัวออกจากสเปน แต่ผลโหวตดังกล่าวไม่มีผลทางกฎหมายใดๆ

เกาหลีเหนือ : เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการทหารที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ประเทศในโลก และใช้นโยบายพึ่งพาตัวเองอย่างเข้มงวดมาตลอดหลายสิบปี แต่นโยบาลดังกล่าวเชื่อว่าไม่สามารถจะนำพาเกาหลีเหนืออยู่รอดได้อีกใน 20 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลตระกูลคิมได้ปกครองประเทศแห่งนี้ด้วยความเข้มงวด การเข้าถึงสื่ออินเตอร์เน็ตของประชาชนกลายเป็นสิ่งต้องห้าม ดังนั้นความเสี่ยงเรื่องสงครามกลางเมือง การก่อจราจลของประชาชนที่ไม่พอใจรัฐบาลตระกูลคิมจึงไม่มีทางเกิดขึ้นได้

แต่สิ่งที่น่ากังวลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือคือความยากจนแร้นแค้นของประชาชนในอนาคตข้างหน้า ที่อาจต้องถูกรัฐบาลทหารขูดรีดขูดเนื้อจนเหลือแต่กระดูกจริง ๆ ก็เป็นไปได้

จีน : กล่าวได้ว่าจีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็งอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ประเทศจีนกำลังพบกับปัญหาภายใน เนื่องจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมได้ทำลายสภาพแวดล้อม ครึ่งหนึ่งของแม่น้ำในประเทศจีนเต็มไปด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายของประชาชน ในอีก 20 ปีข้างหน้า มีข้อมูลบ่งชี้ว่าประมาณน้ำสำหรับดื่มกินของประเทศจีนจะมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ จนต้องใช้แหล่งน้ำปนเปื้อนสารพิษในการบริโภคแทน นั่นหมายความว่าชาวจีนจะต้องล้มป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเนื่องจากปัญหาสุขภาพ

หากรัฐบาลจีนยังไม่รีบดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อมที่ทรุดโทรมอย่างหนัก เชื่อกันว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศจีนจะกลายเป็นแหล่งสะสมโรคภัยของทวีปเอเชียก็เป็นได้

อเมริกา : สหรัฐอเมริกาเคยผ่านความขัดแย้งในช่วงสงครามกลางเมืองจนก่อให้เกิดความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้มาแล้ว และความขัดแย้งยังคงถูกฝังรากลึกในแต่ละรัฐของประเทศ โดยเฉพาะรัฐเท็กซัสและอลาสก้า ที่แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าต้องการแยกตัวเป็นอิสระจากรัฐบาลวอชิงตัน เนื่องจากความแตกต่างด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และเชื้อชาติ

นอกจากนี้ ยังมีรัฐแคลิฟอร์เนีย , เวสต์ เวอร์จิเนีย , หลุยส์เซียน่า และ เซาท์ ดาโกต้า ที่แสดงความต้องการแยกตัวเป็นอิสระ เพราะทนแบกรับภาระงานเงินเพื่อช่วยเหลือรัฐอื่น ๆ ที่ยากจนกว่าไม่ไหวอีกต่อไป!

มัลดีฟส์ : หมู่เกาะมัลดีฟส์ถือว่าเป็นดินแดนที่เป็นสรวงสวรรค์ของนักท่องเที่ยว แต่ด้วยภาวะโลกร้อนได้ทำให้สภาพภูมิกาศและระดับน้ำทะเลหนุนสูงขึ้น จนเชื่อว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า หมู่เกาะมัลดีฟส์จะต้องจมหายลงสู่ก้นทะเลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้