ความจิงอันทรหด!สงครามเวียดนาม!
อังกฤษ | สงคราม = [[สงครามร้อน | รูปภาพ = | คำบรรยาย = ตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย: ปฏิบัติการรบของสหรัฐในเอีย ดรัง, ทหารพราน ARVN กำลังป้องกันกรุงไซ่ง่อนระหว่างการรุกตรุษญวน ปี 2511, ดักลาส เอ-4ซี สกายฮอล์ค 2 ลำระหว่างบินไปโจมตีทางอากาศต่อเวียดนามเหนือหลังเหตุการณ์อ่าวตังเกี๋ย, ARVN ยึดจังหวัดกว๋างจิคืนระหว่างการรุกอีสเตอร์ ปี 2515, พลเรือนหลบหนีจากยุทธการที่กว๋างจิ ปี 2515, หลุมฝังศพเหยื่อ 300 คนในการสังหารหมู่ที่เว้ ปี 2511 | วันที่ = ธันวาคม 2498 – 30 เมษายน 2518
(19 ปี 5 เดือน) | สถานที่ = ประเทศเวียดนามใต้ เวียดนามเหนือ กัมพูชา และลาว| สาเหตุ = | ผลการรบ = คอมมิวนิสต์ชนะ
- กำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์อันมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำถูกถอนออก
- เวียดนามใต้ถูกผนวกรวมกับเวียดนามเหนือ
- รัฐบาลคอมมิวนิสต์เถลิงอำนาจในเวียดนามใต้ กัมพูชาและลาว
| ผู้ร่วมรบ1 =
- กำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์
- เวียดนามใต้
- สหรัฐอเมริกา
- เกาหลีใต้
- ออสเตรเลีย
- ไทย
- นิวซีแลนด์
- สาธารณรัฐเขมร
- ราชอาณาจักรลาว
- โดยได้รับการสนับสนุนจาก:
- ฟิลิปปินส์
- ไต้หวัน
- สเปน
| ผู้ร่วมรบ2 =
- กำลังคอมมิวนิสต์
- เวียดนามเหนือ
- เวียดกง
- เขมรแดง
- ปะเทดลาว
- โดยได้รับการสนับสนุนจาก:
- จีน
- สหภาพโซเวียต
- คิวบา
- เกาหลีเหนือ
- เชโกสโลวาเกีย[1][2]
- บัลแกเรีย[3]
| ผู้บัญชาการ1 =
| ผู้บัญชาการ2 =
| strength1 =
- ~1,830,000 (2511)
- เวียดนามใต้: 850,000
1,500,000 (2517–8)[4] - สหรัฐอเมริกา: 536,100
- กำลังทหารโลกเสรี: 65,000[5][6] แบ่งเป็น
- เกาหลีใต้: 50,000[7]
- ออสเตรเลีย: 7,672
- ไทย, ฟิลิปปินส์: 10,450
- นิวซีแลนด์: 552
| strength2 =
- ~461,000
- เวียดนามเหนือ: 287,465 (มกราคม 2511)[8]
- จีน: 170,000 (2508–12)[9][10]
[11] - สหภาพโซเวียต 3,000
- เกาหลีเหนือ: 300–600
| ความสูญเสีย1 =
- เวียดนามใต้
- พลเรือนตาย 195,000–430,000 คน[12][13]
- ทหารตาย 220,357[14] – 313,000 นาย (ประเมินสูงสุด);[15] บาดเจ็บ 1,170,000 นาย
- สหรัฐอเมริกา
- ตาย 58,220 นาย;[A 1] บาดเจ็บ 303,644 นาย[A 1]
- เกาหลีใต้
- ตาย 5,099 นาย; บาดเจ็บ 10,962 นาย; สูญหาย 4 นาย
- ออสเตรเลีย
- ตาย 500 นาย; บาดเจ็บ 3,129 นาย[16]
- นิวซีแลนด์
- ตาย 37 นาย; บาดเจ็บ 187 นาย[17]
- ไทย
- ตาย 351 นาย; บาดเจ็บ 1,358 นาย[18]
- ราชอาณาจักรลาว
- ตาย 30,000 คน, บาดเจ็บไม่ทราบจำนวน[19]
- รวมยอดผู้ตาย: 480,538–807,564
รวมยอดผู้บาดเจ็บ: ~1,490,000+
| ความสูญเสีย2 =
| ความสูญเสีย3 =
- พลเรือนเวียดนามตาย: 245,000–2,000,000[23][24]
- พลเรือนกัมพูชาตาย: 200,000 – 300,000*[25][26][27]
- พลเรือนลาวตาย: 20,000 – 200,000*
- รวมยอดพลเรือนตาย: 465,000–2,500,000**
- รวมยอดทั้งหมด: 1,102,000–3,886,026
- * กำกับตัวเลขโดยประมาณ
- ** ตัวเลขนี้รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในสงครามกลางเมืองลาวและกัมพูชาด้วย
สงครามเวียดนาม หรือ สงครามอินโดจีนครั้งที่สอง หรือที่ชาวเวียดนามรู้จักกันในชื่อสงครามอเมริกา เป็นสงครามตัวแทนสมัยสงครามเย็นที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนามลาวและกัมพูชาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2498[A 2] กระทั่งกรุงไซ่ง่อนแตกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518 สงครามเวียดนามนี้เกิดขึ้นหลังสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง และมีเวียดนามเหนือซึ่งได้รับการสนับสนุนจากจีน สหภาพโซเวียตและพันธมิตรคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามฝ่ายหนึ่ง กับรัฐบาลเวียดนามใต้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและประเทศที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามอีกฝ่ายหนึ่ง[32]เวียดกง (หรือ แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ) เป็นแนวร่วมประชาชนคอมมิวนิสต์เวียดนามใต้ที่ติดอาวุธเบาซึ่งมีเวียดนามเหนือสั่งการ สู้รบในสงครามกองโจรต่อกำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคกองทัพประชาชนเวียดนาม (กองทัพเวียดนามเหนือ) ต่อสู้ในสงครามตามแบบมากกว่า และบางครั้งส่งหน่วยขนาดใหญ่เข้าสู่ยุทธการ เมื่อสงครามดำเนินไป ส่วนการต่อสู้ของเวียดกงลดลงขณะที่บทบาทของกองทัพประชาชนเวียดนามเพิ่มขึ้น กำลังสหรัฐอเมริกาและเวียดนามใต้อาศัยความเป็นเจ้าเวหาและอำนาจการยิงที่เหนือกว่าเพื่อดำเนินปฏิบัติการค้นหาและทำลาย ซึ่งรวมถึงกำลังภาคพื้นดิน ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศ ตลอดห้วงสงคราม สหรัฐดำเนินการทัพทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ขนานใหญ่ต่อเวียดนามเหนือ และต่อมาน่านฟ้าเวียดนามเหนือกลายเป็นน่านฟ้าที่มีการป้องกันหนาแน่นที่สุดในโลก
รัฐบาลสหรัฐมองว่าการเข้ามามีส่วนในสงครามของตนเป็นหนทางป้องกันการยึดเวียดนามใต้ของคอมมิวนิสต์อันเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การจำกัดการขยายตัวของลัทธิที่ไม่พึงปรารถนาที่ใหญ่กว่า โดยมีเป้าหมายที่แถลงไว้เพื่อหยุดการแพร่ของคอมมิวนิสต์ ตามทฤษฎีโดมิโนของสหรัฐ หากรัฐหนึ่งกลายเป็นคอมมิวนิสต์ รัฐอื่นในภูมิภาคก็จะเป็นไปด้วย ฉะนั้น นโยบายของสหรัฐจึงถือว่าการผ่อนปรนการแพร่ของคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศเวียดนามนั้นยอมรับไม่ได้ รัฐบาลเวียดนามเหนือและเวียดกงต่อสู้เพื่อรวมเวียดนามอยู่ในการปกครองคอมมิวนิสต์ ทั้งสองมองข้อพิพาทนี้เป็นสงครามอาณานิคม ซึ่งเริ่มแรกสู้กับฝรั่งเศส โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ แล้วต่อมาสู้กับเวียดนามใต้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นรัฐหุ่นเชิดของสหรัฐ[33] ที่ปรึกษาทางทหารชาวอเมริกันมาถึงอินโดจีนขณะนั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2493 การเข้ามามีส่วนของสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 โดยมีระดับทหารเพิ่มเป็นสามเท่าในปี 2494 และเพิ่มอีกสามเท่าในปีต่อมา[34] การเข้ามามีส่วนของสหรัฐทวีขึ้นอีกหลังเหตุการณ์อ่าวตังเกี๋ย ปี 2507 ซึ่งเรือพิฆาตของสหรัฐปะทะกับเรือโจมตีเร็วของเวียดนามเหนือ ซึ่งตามติดด้วยข้อมติอ่าวตังเกี๋ยซึ่งอนุญาตให้ประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่มทหารในพื้นที่ หน่วยรบปกติของสหรัฐถูกจัดวางเริ่มตั้งแต่ปี 2498 ปฏิบัติการข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ โดยพื้นที่ติดต่อกับประเทศลาวและกัมพูชาถูกกองทัพสหรัฐทิ้งระเบิดอย่างหนักขณะที่การเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2511 ปีเดียวกัน ฝ่ายคอมมิวนิสต์เปิดฉากการรุกตรุษญวน การรุกตรุษญวนไม่สัมฤทธิ์ผลในการโค่นรัฐบาลเวียดนามใต้ แต่ได้กลายเป็นจุดพลิกผันของสงคราม เพราะได้แสดงว่าเวียดนามได้ไม่อาจป้องกันตัวเองจากเวียดนามเหนือได้ แม้สหรัฐจะทุ่มความช่วยเหลือทางทหารอย่างมหาศาลหลายปี ด้วยจุดชัยชนะของสหรัฐนั้นไม่ชัดเจน จึงค่อย ๆ มีการถอนกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐโดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเรียก การแผลงเป็นเวียดนาม (Vietnamization) ซึ่งมุ่งยุติการเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐขณะที่โอนภารกิจต่อสู้กับคอมิวนิสต์ให้เวียดนามใต้เอง แม้ภาคีทุกฝ่ายลงนามข้อตกลงสันติภาพปารีสในเดือนมกราคม 2516 แล้วก็ตาม แต่การสู้รบยังดำเนินต่อไป ในสหรัฐอเมริกาและโลกตะวันตก มีการพัฒนาขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามขนาดใหญ่ขึ้น ขบวนการนี้ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมต่อต้าน (Counterculture) แห่งคริสต์ทศวรรษ 1960 และเป็นปัจจัยหนึ่งของมัน
การมีส่วนร่วมทางทหารของสหรัฐยุติลงเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2516 อันเป็นผลมาจากคำแปรญัตติเคส–เชิร์ช (Case–Church Amendment) ที่รัฐสภาสหรัฐผ่าน[35] การยึดกรุงไซ่ง่อนโดยกองทัพประชาชนเวียดนามในเดือนเมษายน 2518 เป็นจุดสิ้นสุดของสงคราม และมีการรวมชาติเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ในปีต่อมา สงครามนี้คร่าชีวิตมนุษย์ไปมหาศาล ประเมินตัวเลขทหารและพลเรือนชาวเวียดนามที่ถูกสังหารมีตั้งแต่น้อยกว่า 1 ล้านคนเล็กน้อย[36]ไปถึงกว่า 3 ล้านคน[23][37] ชาวกัมพูชาเสียชีวิตราว 2-3 แสนคน[25][26][27] ชาวลาวเสียชีวิต 20,000-200,000 คน[38][39][40][41][42][43]และทหารชาวอเมริกันเสียชีวิตในข้อพิพาทนี้ 58,220 นาย[A 1]