ขอคืนพื้นที่ ! บิ๊กตู่สั่งจัดระเบียบวัดพระแก้วให้คนไทยมีที่ไหว้พระ
พระแก้วมรกตนั้น ถือว่าเป็นของคู่บ้านคู่เมืองของลาวก่อนไทยจะสอยมาตั้งแต่เริ่มตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสร้างวัดพระแก้วขึ้นมา ก็เพื่อถวายแด่..พระแก้วมรกต เป็นการเฉพาะ ดังนั้น ชื่อวัดจึงเป็นวัดพระแก้ว จึงถือว่าเป็นสถานที่ที่คนไทยชาวพุทธทุกผู้ทุกคนควรหาโอกาสไปนมัสการกราบไหว้ขอโชคขอพร "ซักครั้งในชีวิต" และทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเอย กรมการศาสนาเอย น่าจะมีโครงการ "ครั้งหนึ่งในชีวิต คนไทย 77 จังหวัด นมัสการพระแก้วมรกต" อันเป็นของคู่บ้านคู่เมือง มากกว่าจะไปสิ้นเปลืองเรื่องอื่นๆ เพราะไหว้พระแก้วเพียงแห่งเดียว ก็ได้ทั้งความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ไปพร้อมกัน แบบว่ายกระดับเป็นโครงการหลักของชาติโครงการหนึ่ง มีการจัดกลุ่มผู้เข้ากราบนมัสการ ตั้งแต่เด็กนักเรียนทุกระดับ ผู้ใหญ่ พระภิกษุสงฆ์สามเณร หรือชาวพุทธทั่วไป นอกจากจะไม่มีการเก็บราคาบัตรเข้าวัดพระแก้วแล้ว ยังน่าจะมี "ตั๋วรถเมล์หรือรถไฟราคาพิเศษ" ให้แก่ผู้ที่เข้าโครงการไปวัดพระแก้วด้วย ควรมีเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา หรือจิตอาสา เข้าไปประจำการ เพื่อต้อนรับขับสู้ชาวพุทธที่เข้าไปไหว้พระแก้วเป็นประจำทุกวัน
อีกด้านหนึ่งนั้น ทางเจ้าหน้าที่ที่บริหารวัดพระแก้ว ก็ต้องพิจารณาดูว่า ในแต่ละวันนั้น ควรจะจัดสรรปันส่วนอย่างไรระหว่างนักท่องเที่ยวกับชาวพุทธไทย เพราะต้องให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน นักท่องเที่ยวนั้นเขามาไกลจากต่างบ้านต่างเมือง ครั้งหนึ่งในชีวิตก็อยากจะไปชมวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง หากเขาพลาดหวังก็คงเสียดายแย่ แต่การยกวัดพระแก้วให้แก่นักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวนั้นก็เกินไป ควรจะมีที่ให้ชาวพุทธไทยได้เข้าไปกราบไหว้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้อาจจะมีการ "จำกัด" บัตรเข้าชมวัดพระแก้วสำหรับชาวต่างชาติด้วย ก็ถือว่าดีนะ ที่ท่านนายกฯปรารภเรื่องนี้ขึ้นมา ช่วยให้ชาวพุทธไทยมองเห็น "วัดพระแก้ว" เป็นจุดศูนย์กลาง มากกว่าจะจุดกระแสไปอินเดียกันอย่างเดียว ทั้งๆ ที่รัฐบาลก็ดี มหาเถรสมาคมก็ดี ต่างประสานเสียงมานานหลายปี มุ่งมั่นให้ประเทศไทยเป็น "ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก" แต่ไปๆ มาๆ ปรากฏว่า ถูกกระแสมุสลิมไปเมกกะกระหน่ำ เลยมีคนจุดประกาย "ชาวพุทธไทยไปอินเดีย" แข่งเสียเลย กระทืบโครงการศูนย์กลางพุทธศาสนาโลกจนจมดิน เฮ้อ พูดไปก็สองไพเบี้ย คนกันเองทั้งนั้น !