ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จกำลังมีอิทธิพลแทนที่นางแบบบนรันเวย์
ณ พื้นที่ชั้นบนของห้องจัดแสดงเมอร์ซิเดสเบนซ์ที่เต็มไปด้วยแสงไฟวิบวับ มีผู้คนนับสิบกำลังจัดเตรียมรันเวย์ขณะที่เหล่านางแบบก็กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องตามคำสั่งที่ได้รับ ทันทีที่เพลงเริ่มนางแบบคนแรกก็จะปรากฏตัวออกมาซึ่งนี่ล่ะคือแบบฉบับของแฟชั่นโชว์ แทนที่ดีไซเนอร์ แครี่ แฮมเมอร์ จะใช้บริการนางแบบรันเวย์ที่สมบูรณ์แบบ 27 คนมาสวมใส่เสื้อผ้าของเธอ แต่เธอกลับเลือกบุคคลต้นแบบ 27 คนที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้เกียรติในสิ่งที่ทำให้พวกเธอมีบุคลิกที่เข้มแข็งพร้อมกับส่องประกายความงามจากภายในสู่ภายนอก โดยมีตั้งแต่นักสเก็ตโอลิมปิคเมอริล เดวิส ไปจนถึงนักแสดงตลกและผู้ให้การสนับสนุนคนพิการอย่าง เมย์สูน ซายิด นี่คือแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของฉัน ซึ่งถ้าให้พูดตรงๆฉันรู้สึกว่าฉันแต่งตัวไม่สวย เชยและโทรม ฉันไม่คิดว่ามันจะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครได้ ในขณะที่ฉันรู้ว่าแนวคิดสำหรับโชว์นี้คือ “บุคคลต้นแบบไม่ใช่นางแบบบนรันเวย์” ซึ่งทำให้ฉันมีแรงจูงใจมากกว่าที่เคยและจะดีกว่าเดิมยิ่งๆขึ้นไปอีก
แม้ว่าแนวคิดนี้จะค่อนข้างใหม่ในอุตสาหกรรมแฟชั่น แต่สำหรับแฮมเมอร์แล้วไม่ใหม่เลย เธอจัดโชว์ครั้งแรกในงานนิวยอร์คแฟชั่นวีคเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 เธอเลือกนางแบบคนแรกที่เป็นผู้หญิงนั่งรถเข็นขึ้นเวที รวมถึงนางแบบคนแรกที่เป็นดาวน์ซินโดรมและคนแรกที่ใส่ขาเทียมด้วย นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโดยรวมในวงการแฟชั่น เธอคือผู้จุดประกายและเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ไม่คาดฝัน และเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา
บุคคลต้นแบบอย่าง เจส ไวเนอร์ ซึ่งเป็นซีอีโอของ Talk to Jess ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์ระดับโลกได้พูดเล่าประสบการณ์และสิ่งที่มีความหมายต่อตัวเธอ “ประสบการณ์ในครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงฉัน การเดินบนรันเวย์ไม่เคยอยู่ในความคิดของฉันมาก่อนเลย เราทุกคนต่างใช้พื้นที่แฟชั่นในการแสดงประชาธิปไตยแก่บุคคลทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพซึ่งไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบไหนเพื่อให้ได้รับการยอมรับและไม่จำเป็นต้องถูกใส่ลงไปในแม่พิมพ์หรือภาพลักษณ์ของคนอื่นๆเพื่อสร้างศักยภาพ”
“เราทุกคนควรนับถือตัวเอง ฉันมักจะบอกกับผู้หญิงที่ฉันทำงานด้วยว่า ‘จงเดินด้วยความมั่นใจ เชิดหน้าเข้าไว้’ แต่เมื่อคุณมีรันเวย์ที่ยาวและผู้คนกว่า 400 คนตรงหน้า คุณจำเป็นต้องลงมือทำให้เต็มที่และยอมรับมัน”
หลังจากงานในวันนั้นไวเนอร์ก็ได้รับข้อความชมเชยเป็นจำนวนมหาศาล (ยังไม่รวมคำชมเรื่องเสื้อผ้าสุดวิเศษอีกด้วยนะ) เธอหวังว่าทั้งแบรนด์และนักออกแบบคนอื่นๆจะทำตามความมุ่งหมายของแฮมเมอร์และเริ่มคิดนอกกรอบเมื่อพูดถึงการหานางแบบสำหรับการแสดง “ฉันหวังว่าการแสดงนี้จะกระตุ้นนักออกแบบ รวมถึงธุรกิจต่างๆให้ยอมรับความเป็นมนุษย์ที่หลากหลาย และควรตระหนักว่าผู้หญิงมีความแตกต่างกันในเรื่องความสามารถ รูปร่าง และแรงบันดาลใจในชีวิต พวกเธอสมควรที่จะได้รับโอกาสในการแสดงภาพลักษณ์ของตัวเองให้มากขึ้น” เวลาจะเป็นตัวบอกเองว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นจะซื้อในสิ่งที่เธอนำเสนอหรือไม่ แต่สำหรับเราในตอนนี้เราดีใจที่มีผู้หญิงคนอื่นๆกำลังมองเราในอีกด้านหนึ่ง
Blogger : Amy Stanford
Source : babble.com