อ้วนโยโย่ ลดไม่ลง..ยิ่งเครียด ยิ่งอ้วน แก้ไขอย่างไรดี
ภาวะอ้วนโยโย่ หรือ YoYo Effect อาการเป็นอย่างไร การพุ่งขึ้นของน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เราพยายามลดน้ำหนักด้วยวิธี “หักโหม”
จนทำให้น้ำหนักลดลงเร็วเกินไป ไม่ว่าจะเป็น การอดอาหาร การออกกำลังกายที่หนักเกินไป จนถึงวิธีที่อันตรายสุดๆ อย่างการกินยาลดน้ำหนัก
พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ภาวะที่ร่างกายเสียสมดุลเร็วเกินไป ระบบต่างๆ ในร่างกายของเรามีความสามารถในการปรับตัวที่มหัศจรรย์ สามารถปรับการทำงานให้สอดคล้องรองรับกับพฤติกรรมการกินอยู่ของเราได้เป็นอย่างดี เมื่อเราลดน้ำหนักด้วยวิธีลดการทานอาหารต่อเนื่องนานเกินไป ร่างกายของเราจะปรับตัวเพื่อการอยู่รอดทันที โดยการสะสมพลังงานจากอาหารที่เรากินไว้ให้มากที่สุด เพื่อให้เจ้าของร่างกายมีชีวิตต่อไปได้ยาวนานที่สุด
ดังเช่นหลายๆท่านเลือกที่จะลดน้ำหนักด้วยการ ลดการทานอาหารลงแบบหักดิบ ทานแต่น้ำและผลไม้ แป้งขนมปังบ้าง งดเนื้อสัตว์ ด้วยใจที่มุ่งมั่นว่าจะต้องมีรูปร่างที่ดูดีขึ้น ทำได้สักพักแน่นอนว่าน้ำหนักจะต้องลดลงเป็นแน่ แต่สิ่งที่เขาไม่ทราบคือ สมดุลการใช้พลังงานในร่างกายได้เปลี่ยนไปแล้ว เซลล์ของร่างกายที่ขาดสารอาหารจะโหยหาพลังงานและสารอาหารอย่างยิ่ง
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะอ้วนแบบโยโย่
1. ไม่ทานอาหารเช้าเป็นประจำ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่พลังสำรองของร่างกายพร่องลงมาก จะเกิดอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอนทั้งวัน เหนื่อยง่าย อยากทานอาหารประเภทที่ให้พลังงานสูง อย่างเช่นของหวาน อาหารประเภทแป้ง อยู่ตลอดเวลา
2. ดื่มกาแฟแทนการทานอาหารมื้อเช้า สรุปให้ง่ายก็คือยิ่งกระตุ้นด้วยกาแฟมากเท่าไหร่ก็ยิ่งอ่อนเพลีย ร่างกายจะยิ่งดูดซึมอาหารกลุ่มพลังงานมากขึ้นกลายเป็นคนอ้วนที่ไม่มีแรงง่วงนอนอยู่เสมอ
3. อดอาหารเพื่อลดน้ำหนักนานเกินไป
4. ทานยาลดน้ำหนักที่ทำให้ไม่อยากอาหารและกระตุ้นการใช้พลังงานของร่างกายมากเกินไป
วิธีแก้ไขจากการเกิดภาวะอ้วนแบบโยโย่
- ทานอาหารเช้าเป็นประจำ
-ไม่ดื่มกาแฟแทนการทานอาหารมื้อเช้า
-ไม่อดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก
-ไม่ใช้ยาลดน้ำหนักที่ทำให้ไม่อยากอาหาร
-เลือกทานอาหาร ให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลายสี ให้เป็นนิสัย
- ออกกำลังกาย ทุกวันอย่าน้อย 30 นาที อ้วนโยโย่ จะไม่อยู่ด้วยอีกต่อไป