สพฐ.สั่งเพิ่มชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษชั้น ป.1-3 จาก 1 คาบ เป็น 5 คาบต่อสัปดาห์ เริ่มภาคเรียนที่ 2/2559

สพฐ.วางระบบเพิ่มชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ เผยแนวทาง ป.1-3 จาก 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็น 5 ชั่วโมง กว่า 2 หมื่นโรงเรียน เริ่มภาคเรียนที่ 2/2559 เน้นการใช้เทคโนโลยี-การสื่อสาร-ท่องคำศัพท์

วัน ที่ 28 กรกฏาคม 2559 นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งเพิ่มชั่วโมงเรียนวิชาภาษาอังกฤษของชั้นประถมศึกษา ตอนต้น ที่จะเริ่มนำร่องกับโรงเรียนที่มีความพร้อมกว่า 20,000 แห่ง ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 นี้ โดยจะมีการปรับให้เรียนวิชาภาษาอังกฤษ 200 ชั่วโมงต่อปี จากเดิมที่เรียน 40 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งจากนี้ใน 1 สัปดาห์ เด็กจะได้เรียนภาษาอังกฤษ 5 ชั่วโมง แบ่งเป็นชั่วโมงที่ 1 เรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยจะมีสื่อที่เข้ามาช่วยครู เช่น phonics แอปพลิเคชันต่างๆ และมีคลังคำศัพท์พร้อมภาพ เพื่อให้ครูได้ใช้ให้เด็กทบทวนคำศัพท์ด้วย ชั่วโมงที่ 2 จะเน้นภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ชั่วโมงที่ 3 จะเป็นการจัดการเรียนการสอนโดยใช้หนังสือ ชั่วโมงที่ 4 จะเน้นให้เด็กได้รู้คำศัพท์ และชั่วโมงที่ 5 จะเป็นการซ่อมเสริม ซึ่งจะใช้กับเด็กที่เรียนไม่ทันเพื่อน ส่วนเด็กที่เก่งแล้วก็จะมีกิจกรรมที่ทำให้เด็กได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง โดยขณะนี้ สพฐ.ได้มีการรวบรวมคำศัพท์ที่เด็กจะต้องรู้ในชีวิตประจำวัน

"สำหรับการจัดโครงสร้างชั่วโมงเรียน จะเห็นว่าใน 5 ชั่วโมงมีวิชาที่เรียนโดยใช้หนังสือเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ในชั่วโมงอื่นๆ จะเน้นการสร้างทักษะ จึงสามารถใช้ในชั่วโมงเพิ่มเวลารู้ส่วนหนึ่ง และในส่วนของชั่วโมงซ่อมเสริมทางโรงเรียนมีอยู่แล้ว ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไร ยังคงดำเนินการตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 ที่จะต้องเรียน 8 กลุ่มสาระ 1,000 ชั่วโมงต่อปีเช่นเดิม เพียงแต่ว่าใช้บริหารจัดการเวลาให้วิชาภาษาอังกฤษที่มีชั่วโมงเพิ่มขึ้น บูรณาการกับวิชาอื่นได้" เลขาฯ กพฐ.กล่าว และว่า จากนี้จะมีการหารือเพื่อดำเนินการแผนการปรับโครงสร้างเวลาเรียนภาษาอังกฤษ ระยะสั้น กลาง ยาว ให้ครอบคลุมการศึกษาในทุกระดับ และ สพฐ.ก็กำลังทำข้อมูลการจัดกลุ่มสาระ แบ่งเป็นกลุ่มของสาระที่จำเป็นต้องรู้ ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะมีการวัดประเมินผลระดับชาติ และกลุ่มสาระที่ควรรู้ กลุ่มนี้น่าจะมีการวัดผลระดับโรงเรียน เมื่อเสร็จก็จะทำสาระสำคัญว่าแต่ละวิชาสิ่งที่จำเป็นต้องรู้คืออะไร และบรรจุสิ่งเหล่านี้ลงในหนังสือเรียน ให้ได้เนื้อหาที่ไม่ได้เน้นความจำ รวมถึงการนำเนื้อหาในวิชาเรียนของเด็ก ป.1-3 มีวิเคราะห์ใหม่ ไม่ให้มีความซ้ำซ้อน ซึ่งจะทำให้เนื้อหาน้อยลง