ลงทะเบียนคนจนอืด เหตุแผนรัฐไม่ชัดเจน
ความคืบหน้าการลงทะเบียนรับสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า ขณะนี้มีผู้ยื่นลงทะเบียนแล้วกว่า 1.3 ล้านราย จากที่ตั้งเป้า 20 ล้านราย ประกอบกับในช่วงแรกรัฐบาลยังไม่มีแผน/ที่ชัดเจนเรื่องการจ่ายสวัสดิการ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทะเบียนรับสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า ขณะนี้มีผู้ยื่นลงทะเบียนแล้วกว่า 1.3 ล้านราย /แบ่งเป็นธนาคารออมสิน 4.1 แสนราย /ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 6.2 แสนราย/ และธนาคารกรุงไทย 2.8 แสนราย
โดยคาดว่า เมื่อครบกำหนดลงทะเบียน จะมีผู้ขอยื่นตาม เป้าหมายที่ 5 ล้านราย และยืนยันว่าสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว ในกรณีผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือ เช่น การจ่ายเบี้ยยังชีพให้เพิ่มขึ้นในอนาคต
ด้านนายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่เหลือให้ลงทะเบียนได้อีกราว 2 สัปดาห์ ยอดการลงทะเบียนทั้งหมดของ ธ.ก.ส. น่าจะได้ตามเป้าหมายที่ 3 ล้านราย จากยอดลงทะเบียนล่าสุดอยู่ที่ 6-7 แสนรายแล้ว ส่วนสาเหตุการลงทะเบียนในช่วงแรกดูเหมือนล่าช้า เพราะผู้ที่มาลงทะเบียนต้องเดินทางมาลงทะเบียนที่สาขาด้วยตนเอง เพื่อตอบข้อซักถามตามเอกสารที่ให้กรอก
ขณะที่ ประเด็นเรื่องให้แสดงทรัพย์สินและหนี้สิน ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำให้คนไม่อยากมาลงทะเบียนนั้น ในส่วนกลุ่มลูกค้าของ ธ.ก.ส./คงมีส่วนน้อยที่กังวลเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี ธ.ก.ส. ต้องการให้คนที่มาลงทะเบียนมาด้วยความเข้าใจ/ที่จะได้ประโยชน์มากกว่า /ประกอบกับในช่วงแรกทางรัฐบาลก็ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนเรื่องการจ่ายสวัสดิการผ่านช่องทางนี้ ยังเป็นเพียงการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งคนที่ยังไม่พร้อมสามารถไปลงทะเบียนได้อีกในปีหน้า
ทางด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า สาขาธนาคารออมสิน 1,055 แห่ง เตรียมความพร้อมกับลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยและพร้อมเพย์ ซึ่งต่อไปคาดว่าน่าจะมีการออกบัตรในลักษณะของบัตรเงินสดเพื่อให้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากรัฐบาล เช่น เงินช่วยภัยแล้ง ภัยธรรมชาติ เบี้ยคนชรา ขึ้นรถไฟฟรี รถเมล์ฟรี จะยิ่งช่วยกระตุ้นให้คนสนใจเข้ามาลงทะเบียนมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง คาดว่า น่าจะมีประชาชนสนใจมาลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐมากถึง 20 ล้านรายทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 15 กรกฏาคม-15 สิงหาคม 2559 แต่ปรากฏว่ายอดการลงทะเบียนในช่วง 2 สัปดาห์แรกคนมาลงน้อย จึงคาดว่ายอดรวมของการลงทะเบียนรอบนี้น่าจะอยู่ที่ 5 ล้านราย