9 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณประสบความสำเร็จแล้ว ถึงแม้ว่าคุณอาจจะคิดว่ายัง
ถ้าคุณเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่คุณจะต้องพบกับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า เป้าหมายที่สูงชันย่อมนำไปสู่อุปสรรคที่มากมายขึ้นเช่นกัน
ความสำเร็จที่แท้จริงคือการตอบคำถามว่าคุณคือใคร และเดินหน้าไปได้มากแค่ไหนแล้ว ถ้าคุณกำลังคิดว่าคุณไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าที่คุณควรเป็น นั่นอาจเป็นเพราะคุณเปรียบเทียบตัวเองกับหลักเกณฑ์ที่ผิดๆ และในบางครั้งสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ ก็คือสิ่งที่จะช่วยเตือนให้คุณรู้ว่าคุณได้ประสบความสำเร็จอะไรในชีวิตไปแล้วบ้าง และตัวบ่งบอกความสำเร็จต่อไปนี้จะช่วยเตือนให้คุณมองเห็นความสำเร็จได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
คนที่ประสบความสำเร็จหลายคนมักจะทำตัวเหมือนกับเป็นศูนย์กลางของจักรวาล โลกทั้งใบคือโลกของเขาและเราคือผู้อาศัย คุณว่าอย่างนั้นไหม? แต่นั่นไม่ใช่การประสบความสำเร็จหรอก แต่การประสบความสำเร็จที่แท้จริงคือการที่คนเรารู้จักเข้าอกเข้าใจผู้อื่น เและตระหนักได้ว่าทุกๆความฝันและความรู้สึกของคนอื่นนั้นสำคัญไม่น้อยไปกว่าความฝัน อารมณ์ และความรู้สึกของตัวคุณเองเลย และความสำเร็จของเราจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดคนเหล่านั้น
2.คุณเป็นคนคิดบวก
การจะมีชีวิตที่มีความสุขได้นั้น ความหวัง และการมองโลกในแง่ดีคือองค์ประกอบที่สำคัญ ถ้าคุณเอาแต่คิดมากเกี่ยวกับสิ่งที่ดูผิดที่ผิดทาง คุณก็จะกลายเป็นคนที่ขมขื่นและพบเจอแต่ความไม่พอใจ เมื่อเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะประสบผลสำเร็จกับอะไรมา คุณก็จะพลาด เพราะการประสบความสำเร็จที่แท้จริงหมายถึงการมองเห็นถึงด้านที่ดีและมีความสดใสอยู่เสมอ รวมไปถึงความเชื่อที่ว่าตัวคุณนั้นมีพลังที่จะสามารถพลิกให้สถานการณ์ที่แย่สุดๆ นั้นกลับดีขึ้นมาได้
3.คุณเข้าใจดีว่าความล้มเหลวไม่ได้อยู่คู่กับคุณตลอดไป
คุณคงจะเคยได้ยินว่าคนที่ไม่เคยล้มเหลว แท้จริงแล้วคือคนที่ไม่เคยลองพยายามทำอะไรเลย เพราะฉะนั้นเมื่อคุณก้าวพลาด ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณนั้นเป็นคนที่ล้มเหลว ในทางตรงกันข้ามคุณได้เปิดโอกาสให้ตัวเองนั้นได้รวบรวมเอาความล้มเหลวเหล่านั้น มาเป็นโอกาสให้คุณได้เรียนรู้บางสิ่งและก้าวต่อไปได้ ถ้าคุณยังคงติดอยู่กับความรู้สึกที่ล้มเหลว จงรู้ไว้เลยว่าคุณจะไม่มีวันประสบกับความสำเร็จอย่างแท้จริง จนกว่าคุณจะเรียนรู้ที่จะยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ความผิดพลาดของคุณนั้นจะช่วยปูทางให้คุณไปสู่ความสำเร็จ โดยมันจะชี้หนทางให้คุณเมื่อคุณกำลังก้าวไปผิดทาง การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดมักจะมาในเวลาที่คุณรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวังมากที่สุด แต่ความท้อแท้นี้แหละที่จะนำทางให้คุณเริ่มคิดถึงอะไรใหม่ๆ ที่ต่างออกไป ช่วยให้คุณได้ลองมองนอกกรอบและมองเห็นถึงหนทางแก้ไขปัญหาที่คุณได้พบเจอ
4.คุณรับรู้มุมมองต่างๆด้วยเหตุผล
เรื่องแย่ๆเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะมันคือส่วนหนึ่งของชีวิต อย่างไรก็ดีวันที่แย่ที่สุดของเรา อาจเทียบไม่ได้เลยกับวันธรรมดาของใครสักคนที่กำลังเผชิญปัญหาที่หนักหน่วงจริงๆ เช่น การไม่มีอะไรจะกิน หรือการพยายามเอาชีวิตรอดจากสงครามกลางเมือง ล๊อครถโดยที่ลืมกุญแจไว้ในรถ หรือแม้แต่การพลาดการเลื่อนตำแหน่ง เรื่องพวกนี้อาจจะไม่ได้ฟังดูเลวร้ายขนาดนั้น หากคุณเรียนรู้ที่จะพัฒนาทัศนคติ ถ้าหากคุณเชียวชาญในการที่จะเปิดใจรับรู้ถึงปัญหาต่างๆ ตามความเป็นจริง จงรู้ไว้เลยว่าคุณได้ทำสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่แล้ว
5.คุณขอความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการมัน
การปฏิเสธที่จะขอความช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าคุณจะติดขัดจนไปต่อไม่ถูก คือสัญญาณของการมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ไม่สมดุล เพราะการขอความช่วยเหลือแสดงให้ทุกคนเห็นว่าคุณนั้นไม่กลัวหากคนจะมองว่าคุณเองก็มีจุดอ่อนอยู่ และเข้าใจดีว่าคนเราไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตนเองเสมอไป
6.คุณตระหนักได้ว่าชีวิตไม่ใช่เกมที่มีผู้ชนะได้เพียงแค่คนเดียว
และมันก็ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อผลัดกันรุกผลัดกันรับด้วย แค่เพียงเพราะคุณไม่ได้ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ก็ไม่ได้หมายว่าคุณพ่ายแพ้อย่างย่อยยับเสียเมื่อไหร่ เพียงมันยังไม่ใช่ช่วงเวลาของคุณเท่านั้นเอง แต่สัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนถึงความสำเร็จคือการที่คนเราสามารถที่จะยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง
7.คุณสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างเรื่องที่น่าตื่นเต้นกับเรื่องแย่ๆได้
จำวันที่คุณเริ่มคิดว่าความสัมพันธ์ที่มั่นคงนั้นช่างจืดชืดได้ไหม? หรือการถูกปฏิบัติแบบเดิมๆจากใครสักคนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายเสียเหลือเกิน? ถ้าความคิดแย่ๆ เหล่านี้กลายเป็นเรื่องของอดีตไปแล้วล่ะก็ยินดีด้วย เพราะการที่คุณหันมาสนใจความรู้สึกที่มั่นคงในปัจจุบันแล้วฝังกลบเรื่องแย่ๆ ในอดีตทิ้งไปได้นั้น คือการที่คุณกำลังจะประสบความสำเร็จแล้วล่ะ
8.คุณเลิกใส่ใจกับความคิดเห็นของคนอื่นๆ
เชื่อมั่นในหลักการของตน มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ เรื่องใดที่คุณมองว่าคุณทำได้ดีที่สุดแล้ว คุณก็จะไม่กังวลกับมันอีกต่อไป คุณจะคิดว่าคุณนั้นทำได้ดีแล้วก็ต่อเมื่อคุณตระหนักได้ว่าความคิดเห็นของคนอื่นก็เป็นเพียงแค่ความคิดเห็น และความเห็นของเขาเหล่านั้นไม่มีผลอะไรกับชีวิตของคุณ เพราะมันไม่สามารถเปลี่ยนตัวตนคุณได้
9.คุณยอมรับสิ่งที่คุณเปลี่ยนไม่ได้และเลือกเปลี่ยนในสิ่งที่ควรเปลี่ยน
การลงมือทำจริงๆ กับการมองโลกในแง่ร้ายนั้นแตกต่างกัน ถ้าหากมีพายุเฮอริเคนกำลังเคลื่อนมาใกล้คุณ นั่นคือเหตุการณ์ที่คุณไม่สามารถหยุดมันได้ แต่เมื่อคุณตระหนักได้ถึงพายุเฮอริเคนที่กำลังใกล้เข้ามา เมื่อนั้นคุณจะสามารถพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ผลลัพท์อันร้ายแรงของมันลดน้อยลง หากบริษัทของคุณทำการลดพนักงานและคุณคุณถูกเลิกจ้าง ทุกๆ ช่วงเวลาที่คุณเสียไปกับการมัวปฏิเสธมันหรือหวนคิดถึงมันคือการถ่วงเวลาตนเองที่จะได้พบเจอกับอะไรก็ตามที่รออยู่ในหนทางข้างหน้า คุณจะก้าวต่อไปได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อคุณเริ่มทำการสำรวจทางเลือกของคุณ และวางแผนลงมือทำสิ่งต่างๆ ที่คุณสามารถแก้ไขได้ การยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่คุณไม่ได้ชอบคือตัวชี้วัดที่ดีที่สุดในการบ่งบอกถึงความสำเร็จ
มันไม่มีอะไรบอกได้เลยว่าคุณนั้นเป็นคนที่ล้มเหลว ขอเพียงแค่คุณคิดว่าคุณควรทำทุกๆ สิ่งให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะความสำเร็จที่แท้จริงนั้นเริ่มต้นขึ้นที่ตัวของเรา