นโยบายพลังงานล้มเหลว
การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการ สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และจะต้องมองอนาคตไปข้างหน้า หาวิธีบริหารจัดการสิ่งที่เรามีอยู่ อย่างไรก็ตามประเด็นการให้สัมปทาน แหล่งก๊าซเอราวัณและบงกชในอ่าวไทย ที่จะสิ้นสุดสัมปทานในปี 2565-2566 หากไม่มีการยื่นประมูล พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน ชี้แจงว่า จะใช้แนวทางเจรจากับรายเดิมที่ได้รับสัมปทานคือ เชฟรอนและ ปตท.สผ. ดำเนินการต่อไป
โดยความเห็นของ กระทรวงพลังงาน การเจรจาให้รายเดิมต่ออายุสัมปทานจะทำให้การผลิตก๊าซมีความต่อเนื่อง แต่อาจจะถูกมองว่าเอื้อประโยชน์กับผู้สัมปทานรายเดิม ดังนั้น อาจจะมีการเปิดประมูลให้มีการแข่งขันเสรี เพื่อให้เกิดความโปร่งใสแต่ก็จะมีปัญหาการผลิตก๊าซไม่ต่อเนื่อง
ทำให้เห็นว่าไม่มีความชัดเจนในนโยบาย
ทั้งนี้ แหล่งผลิตก๊าซทั้งสองแห่ง ผลิตก๊าซได้วันละ 2,200 ล้านลูกบาศก์ฟุต ที่ต้องชะลอการผลิตจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องของการสัมปทาน จะทยอยหมดไปในปี 2565 ซึ่งถ้ายังไม่มีการดำเนินการใดๆต่อไป จะทำให้ก๊าซหายไปประมาณ 3 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และถ้าเป็นในแนวทางดังกล่าว จะต้องมีการนำเข้า แอลเอ็นจี มาทดแทนประมาณ 40 ล้านตัน มีผลกระทบต่อค่าเอฟทีไฟฟ้า 85 สตางค์ต่อหน่วย ต้องนำเข้าอีเทนมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมและก๊าซแอลพีจีมาใช้ทดแทนอีกมูลค่านับแสนล้านบาท
รายได้จากปิโตรเลียมที่จะเข้ารัฐคาดว่าจะหายไปประมาณ 245,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ถ้าจะให้มีการเปิดประมูลใหม่ จะต้องมีการร่างเงื่อนไขการประมูล เช่น ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และต้องรอให้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ประกาศใช้เป็นกฎหมายให้เรียบร้อยเสียก่อน
การขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย มีต้นทุนสูงพอสมควรเนื่องจากแหล่งก๊าซในอ่าวไทย เป็นหลุมเล็กๆ ที่ต้องใช้การขุดเจาะเป็นจำนวนมาก และกว่าจะผ่านขั้นตอนต่างๆในการนำก๊าซมาใช้ต้องใช้เวลาสำรวจ 3-5 ปี ต่างจากแหล่งก๊าซประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นหลุมขนาดใหญ่ประหยัดต้นทุนได้มากกว่าบ้านเราเฉพาะค่าปิดหลุมก๊าซที่เลิกผลิตแล้วไม่ต่ำกว่าหลุมละ 3 ล้านบาท
ก๊าซที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าซึ่งไม่เพียงพอเราต้องอาศัยก๊าซในพม่าและมาเลเซียมาทดแทนและมักจะเกิดปัญหาไฟฟ้าขาดแคลนเวลาที่แหล่งก๊าซประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหา บ้านเรายังต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจด้านพลังงาน เพียงเพราะนโยบายพลังงานไม่ชัดเจน
แค่ถูกคัดค้านจากคนไม่กี่คนก็ฝ่อแล้ว.
หมัดเหล็ก