หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทั่วโลกอยู่ในอาการเดียวกัน เมื่อต้อง 'ทั้งรัก-ทั้งชัง' กับทัวร์จีน

โพสท์โดย เจ้าชายไข่แดง

ทั่วโลกอยู่ในอาการเดียวกัน เมื่อต้อง 'ทั้งรัก-ทั้งชัง' กับทัวร์จีน

 

ประเด็นนักท่องเที่ยวจีน ยังคงเป็นข่าวคราวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในแง่ความประพฤติและมารยาท

อย่างล่าสุดก็คือคลิปที่เผยให้เห็นกรุ๊ปทัวร์จีนแย่งกันตักกุ้งที่ห้องอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ละคนพยายามตักกุ้งให้ได้มากที่สุด โดยไม่คิดจะเผื่อแผ่เหลือให้คนข้างหลังได้ทาน หลายคนที่ตักไปเยอะ เสร็จแล้วก็กินไม่หมด เหลือทิ้งบานเบอะ

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ขึ้นชื่อเลื่องลือมากที่สุดของคนจีน ก็คือการเสียงดัง แซงคิว ทิ้งขยะไม่เลือกที่ และไม่ทำความสะอาดห้องน้ำเมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ

แต่ในเมื่อนักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลก โดยครองแชมป์ 3 ปีติดต่อกันแล้ว ในแง่ที่เป็นประเทศที่ประชากรออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากที่สุดในโลก เฉพาะปีที่แล้วก็เกิน 100 ล้านคน (หรือเที่ยว) เข้าไปแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น ก็ขึ้นกับว่าแต่ละประเทศจะหาทางรับมือเรื่องนี้อย่างไร จึงจะได้ประโยชน์จาก "กระเป๋าเงิน" ของนักท่องเที่ยวจีนมากที่สุด

กล่าวง่าย ๆ จะถอย คือ ไม่ต้อนรับให้เข้ามา แสดงความรังเกียจอย่างเปิดเผย

หรือว่าจะ "สู้และทน" เพื่อแลกกับรายได้เข้าประเทศ ในสภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซาอย่างหนัก

เพราะอย่าลืมข้อเท็จจริงอันหนึ่งว่า นักท่องเที่ยวจีนนั้นชอบการชอปปิง และมีการใช้จ่ายต่อหัวค่อนข้างสูง

ว่าไปแล้วนักท่องเที่ยวจีน ก็คงเหมือนนักท่องเที่ยวมือใหม่ของไทย (และอีกหลายประเทศ) คือการออกไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกมักเน้นไปที่การชอปปิง แม้แต่ครั้งสองครั้งสามก็ต้องช็อป แต่เมื่อนานไปนั่นล่ะ จึงจะหันไปชื่นชมวิวทิวทัศน์หรือวัฒนธรรม

อีกประการหนึ่ง จีนเป็นประเทศที่เปิดตัวเองสู่โลกภายนอกได้ไม่นาน ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอกมากนัก จึงไม่รู้จักมารยาทสากล

เคยมีโอกาสคุยกับไกด์จีน เธอก็บอกว่า คนจีนที่ออกมาเที่ยวเมืองไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม "คนรวยใหม่" หรือเพิ่งรวยกลุ่มนี้เดิมเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ว่ารวยข้ามคืนจากการขายที่ดินให้กับโครงการอุตสาหกรรมของภาครัฐ เช่น ในจูไห่ หรือเซินเจิ้น ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (ทั้งสองเมืองจะเห็นรถยุโรป ทั้งเบนซ์ บีเอ็มฯ และออดี้ ขับกันเต็มถนนไปหมด)

เมื่อรวยก็มีเงินออกไปเที่ยวต่างประเทศ และประเทศแรกที่พวกเขาออกไปเปิดหูเปิดตาก็คือไทย

ไกด์รายนี้ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่ไม่ค่อยสุภาพนั้น เป็นเพราะความ "รวยใหม่" ทำให้พวกเขาหยิ่งยโส คิดว่ามีเงินแล้วไม่ต้องง้อใคร คนอื่นต้องมาเอาใจพวกเขา (คนรวยใหม่มักมีนิสัยไม่อารยะเหมือนกันทั้งโลก)

ส่วนปัญหาเรื่องการใช้ส้วม เป็นเพราะคนจีนส่วนใหญ่เหล่านี้เคยชินกับส้วมแบบนั่งยอง ใช้ชักโครกไม่เป็น จึงเกิดปัญหาแบบที่คนไทยบ่นกันคุณไกด์คนนี้ยังพูดทีเล่นทีจริงว่า บางทีต้องโทษประเทศไทยเหมือนกันนะ ที่ไม่ทำส้วมยองให้คนจีนใช้

แต่ก็อย่างว่า คนจีนก็มีหลายระดับชั้น หลายการศึกษา จึงไม่อาจเหมาว่าคนจีนจะมีพฤติกรรมเหมือนกันหมด ซึ่งก็คงแบบเดียวกับคนไทยเวลาออกไปเที่ยวต่างประเทศ บางทีแม้จะมีการศึกษา แต่เมื่อพี่ไทยไปกันเป็นกลุ่มใหญ่เมื่อไหร่ก็ซ่าและไร้มารยาทไม่เบาเหมือนกัน

หลายประเทศทั่วโลก มีอาการแบบเดียวกันเมื่อพูดถึงทัวร์จีน คือ "ทั้งรัก-ทั้งชัง"

กล่าวแบบสำนวนไทยก็คือ เกลียดตัวกินไข่รัก (จำใจรัก) เพราะอยากได้เงินจากนักท่องเที่ยวจีน ที่ใช้จ่ายหนักมือ และชังเพราะไม่ชอบพฤติกรรมด้านลบของพวกเขา (และส่วนลึกแล้วจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับได้)

ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ชาติยุโรป นำโดยฝรั่งเศส ผ่อนคลายกฎระเบียบการออกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน เพื่อดึงดูดให้เข้าไปเที่ยว ซึ่งก็ได้ผล อย่างที่เราได้เห็นจากข่าวว่าปีที่แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนรายหนึ่ง พาพนักงาน 6,400 คนไปเที่ยวฝรั่งเศส โดยเหมาโรงแรมระดับ 4 และ 5 ดาว 74 แห่ง 4,760 ห้อง และต้องใช้รถบัสขนส่งถึง 164 คัน

ประเมินว่า เฉพาะทริปนี้ของทัวร์จีนเป็นเวลา 4 วัน น่าจะมีการใช้จ่ายราว 33 ล้านยูโร (ราว 1,320 ล้านบาท) จึงไม่แปลกที่ประธานบริษัทดังกล่าวได้รับเกียรติให้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสด้วย

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า สื่อตะวันตกที่รายงานข่าวดังกล่าวนี้ ไม่มีการรายงานพฤติกรรมด้านลบของนักท่องเที่ยวจีนหรือเสียงบ่นจากชาวฝรั่งเศสออกสู่สาธารณะเลย ทั้งที่สื่อตะวันตกได้ชื่อว่ามีเสรีภาพมากที่สุด หากจะให้เดาก็คงเป็นเพราะสื่อจำเป็นต้องระมัดระวัง เพื่อไม่ให้กระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรือสร้างความรู้สึกไม่ดีต่อคนจีน

ฝรั่งเศสก็เคยมีปัญหาเดียวกับไทย คือมีโรงแรมระดับบนบางแห่งในปารีส ได้ประกาศว่าไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน เท่านั้นล่ะ เกิดเสียงไม่พอใจยกใหญ่ จนในที่สุดโรงแรมแห่งนั้นต้องออกมาขอโทษ

ตามข้อมูลของสภาท่องเที่ยวภูมิภาคของหอการค้าปารีส ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วนักท่องเที่ยวจีนโดยทั่วไป ใช้จ่ายต่อคนประมาณวันละ 171 ยูโร (ราว 6,800 บาท) สินค้าที่เป็นที่นิยมของคนจีนก็คือพวกแบรนด์เนมทั้งหลาย เช่น หลุยส์ วิตตอง

หากใครเคยไปปารีสและแวะเข้าไปในห้างดังอย่างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จะสังเกตได้ว่ามีแต่คนเอเชียหัวดำเต็มไปหมด แทบจะไม่เห็นหัวฝรั่งเลย แน่นอนว่าคนจีนเยอะที่สุด และร้านที่มีคนต่อแถวยาวที่สุดคือ หลุยส์ วิตตอง

ที่แผนกบริการลูกค้าของลาฟาแยตต์ แน่นอนว่าต้องมีเอกสารภาษาเอเชียทั้งจีน ญี่ปุ่น ไทย (ที่เป็นลูกค้าหลัก) ไว้บริการ พร้อมพนักงานที่สามารถพูดภาษานั้น ๆ ได้ (ส่วนใหญ่จ้างพนักงานที่เป็นเจ้าของภาษา) ส่วนใหญ่แผนกนี้มีหน้าที่ให้คำแนะนำเรื่องการคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว

ห้างฝรั่งเศสแห่งนี้มีวิธีแก้ปัญหาและรับมือคนจีนเพื่อไม่ให้กระทบกับลูกค้าชาติอื่น ด้วยการแยกแผนกบริการลูกค้าญี่ปุ่นออกไปต่างหากจากลูกค้าอื่น ๆ ตามคำร้องขอของนักช็อปญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยชอบใจความเสียงดังและมารยาทของคนจีน

หรืออย่างสวิตเซอร์แลนด์ ก็มีวิธีจัดการ ด้วยการแยกนักท่องเที่ยวจีนออกจากชาติอื่น เช่น จัดขบวนรถไฟพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวจีนเป็นการเฉพาะในการขึ้นชมยอดเขา สาเหตุก็มาจากมารยาทชาวจีนที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาติอื่นไม่พอใจ ซึ่งก็ถือเป็นการแก้ปัญหาแบบ win-win

ผู้บริหารรถไฟที่ว่านี้บอกว่า ได้จัดทำป้ายวิธีใช้ห้องน้ำให้ทัวร์จีนได้ทราบด้วย และยอมรับว่าต้องทำความสะอาดห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ

"ทัวร์จีนมีความสำคัญก็จริง แต่เราก็ต้องรู้วิธีบริหารจัดการ"

นี่คงเป็นวิธีเดียวกับ นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรดัง เจ้าของวัดร่องขุ่น เชียงราย ที่ครั้งหนึ่งเคยรังเกียจทัวร์จีนถึงกับคิดจะปิดวัดไม่ต้อนรับทัวร์จีน เพราะไปทำสกปรกเลอะเทอะในห้องน้ำและสร้างความเสียหายให้กับวัดมาก

แต่ล่าสุดได้เปลี่ยนแนวคิดและมุมมองใหม่ เพราะเห็นว่าด่าไปก็เหนื่อยเปล่า แถมทัวร์จีนก็เข้ามาสร้างรายได้ให้กับชาวเชียงราย ไม่มีทางหนีทัวร์จีนพ้น ดังนั้น แทนที่จะด่าก็หันมาให้คำแนะนำ ทำความเข้าใจ สอนถึงวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง และจัดหาวิธีรับมือเพื่อลดปัญหา เช่น เขียนป้ายเตือนเป็นภาษาจีน เพิ่มเจ้าหน้าที่ที่พูดจีนได้คอยประกบ และทำความตกลงกับไกด์ว่าต้องให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวล่วงหน้าว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

 

หากลูกทัวร์คนไหนใช้ห้องน้ำแล้วไม่ล้าง ไกด์ก็ต้องมาล้าง หรือบางทีก็เพิ่มเจ้าหน้าที่สอดส่องหน้าห้องน้ำ หากเห็นนักท่องเที่ยวรายไหนไม่ล้างห้องน้ำ ก็บังคับกลับให้เข้าไปล้างต้องยอมรับว่า ณ ชั่วโมงนี้ จีนคือนักท่องเที่ยวรายใหญ่ของโลก

ปรากฏการณ์ของพวกเขาเพียงทำให้เราได้เรียนรู้ว่าจะบริหารจัดการปัญหาใหม่ๆ อย่างไร เพื่อไม่ให้โอกาสทองในวิกฤตหลุดลอยไป

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เจ้าชายไข่แดง's profile


โพสท์โดย: เจ้าชายไข่แดง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
60 VOTES (4/5 จาก 15 คน)
VOTED: Putipat, สำนึกดีมีมั้ย..สาส, namyen 18, เด็กโข่ง, บ่าวสันขวาน, Thorsten, โอ๊ย, mamaprince, zerotype, เจ้าชายไข่แดง, igolf, แมวฮั่ว แมวขี้งอน, tangays
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เข้านอนตอนท้องว่าง นอนในขณะที่หิว ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร"โบว์ เมลดา" ว่าที่ลูกสะใภ้ สอนแม่ "อาเล็ก" เต้นทเวิร์ค..ทำเอาม่วนจอยกันทั้งบ้านนี่คือบ้านที่ออกแบบตามหลัก Passive House ที่ทำให้รอดจากไฟป่าในลอสแอนเจลิสในครั้งนี้เปิดอายุจริง เทนนิส-จูเนียร์ ถูกคนมองแต่งเร็วไปไหมวิกฤตแล้ว หนุ่มวัย 30 ปวดท้องรุนแรง เจาะเลือดออกมาเป็น "สีขาว" ต้นเหตุคือเมนูโปรด ที่ใครๆ ก็ชอบกินโศกนาฏกรรมเพลิงไหม้คร่าชีวิตครอบครัวคนดังบุคคลสำคัญของสุพรรณบุรีเลขเด็ด "แม่นมาก ขั้นเทพ" งวดวันที่ 17 มกราคม 68 มาแล้ว!..อยากถูกหวย รีบส่องกันเลย!!ไคล์ กอร์ดี อายุ 32 ปี เป็นพ่อของเด็ก 87 คน จากการเดินทางบริจาคสเปิร์มตามประเทศต่างๆ เพราะอยากมีสายเลือดของตัวเองอยู่ทั่วโลก"เสก โลโซ" แตกหัก "อากู๋" ปมสัญญาทาส!?..อดีตเคยอวย "แกรมมี่" แต่ตอนนี้ไม่ใช่!เปิด 11 สายการบินที่ได้ชื่อว่า ปลอดภัยที่สุดในโลก ประจำปี 2025Cosquer Cave ถ้ำโบราณที่น่าทึ่งที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใต้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระทึก! หาดกะรน ภูเก็ต เด็กร่มลากตกกระแทกน้ำ เสียชีวิต
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"เสก โลโซ" แตกหัก "อากู๋" ปมสัญญาทาส!?..อดีตเคยอวย "แกรมมี่" แต่ตอนนี้ไม่ใช่!สูตรทดลองคำนวณ งวด 17 มกราคม 2568Cosquer Cave ถ้ำโบราณที่น่าทึ่งที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใต้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไคล์ กอร์ดี อายุ 32 ปี เป็นพ่อของเด็ก 87 คน จากการเดินทางบริจาคสเปิร์มตามประเทศต่างๆ เพราะอยากมีสายเลือดของตัวเองอยู่ทั่วโลกรวมคำขวัญวันเด็ก ตั้งแต่คำขวัญปี 2540 ถึงปัจจุบัน 2568หนุ่มนักบาสจีน ซุกแฟนสาวใส่กระเป๋าเดินทางพาขึ้นห้อง บอกจะเอามาสอนการบ้านเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรเล๊ย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
จระเข้ฉลาดเกิน! พฤติกรรมใหม่ล่อเหยื่อด้วยการทำท่าเหมือนคนจมน้ำ"เสก โลโซ" แตกหัก "อากู๋" ปมสัญญาทาส!?..อดีตเคยอวย "แกรมมี่" แต่ตอนนี้ไม่ใช่!นโยบายของทรัมป์ มีผลอย่างไรต่อทิศทางทองคำรวมคำขวัญวันเด็ก ตั้งแต่คำขวัญปี 2540 ถึงปัจจุบัน 2568
ตั้งกระทู้ใหม่