หนุ่มปั่นจักรยานพลาดเฉี่ยว จยย.รับจ้างล้ม ก่อนถูกรถบรรทุกสิบล้อทับแล้วหลบหนีไป แต่มีกล้องหน้ารถพลเมืองดีจับภาพไว้ได้ จ.นนทบุรี
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 17 พ.ค.59 ร.ต.อ.นิพนธ์ พลสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีรถจักรยานปั่นถูกรถบรรทุกเฉี่ยวชนมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดใกล้ปั๊มน้ำมันบางจากถนน ประชาชื่น – นนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างของนายประพต แก้วพิลา อายุ 22 ปีชาวหมู่ 5 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ สภาพศรีษะแตกกระจาย ข้างศพยังพบรถจักรยานปั่นแบบฟิคเกียร์ ล้มอยู่ ขณะเดียวกันเหตุการณ์นี้มีกล้องหน้ารถของน.ส.กมลลักษณ์ พันธุ์เจริญ อายุ 28 ปี ที่ขับรถยนต์ส่วนตัวตามหลังมาและสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ซึ่งพบว่ารถจักรยานปั่นของผู้เสียชีวิตนั้นได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถ จยย.รับจ้างก่อนที่จะล้มลงและถูกรถบรรทุกสิบล้อ ทะเบียน 97-4723 กทม ที่อยู่ด้านข้างนั้นทับจนเสียชีวิต ซึ่งในที่เกิดเหตุมีญาติและกลุ่มเพื่อนนักปั่นจักรยานในชมรมหลังทราบข่าวได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุด้วยความเสียใจ
จากการสอบถามน.ส.กมลลักษณ์ ฯเจ้าของรถที่ติดตั้งกล้องหน้ารถและสามารถบันทึกภาพไว้ได้นั้น เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุได้ขับรถติดตามรถจักรยานปั่นคันดังกล่าวอยู่ห่างๆเนื่องจากรถยนต์ที่ใช้เส้นทางบนถนนมีจำนวนมากซึ่งรถ จักรยานและรถ จยย.สามารถวิ่งไปตามช่องและแซงรถทั่วไปได้ ขณะนั้นพบเห็นรถจักรยานปั่นกำลังปั่นแซงรถบรรทุกเกิดไปเสียหลักเฉี่ยวกับรถ จยย.รับจ้างที่วิ่งคู่กันจึงทำให้รถจักรยานปั่นและ จยย.เกิดล้มลงทั้งคู่ ร่างของคนขี่รถจักรยานกระเด็นเข้าไปช่วงล้อหลังของรถบรรทุกจึงทำให้ถูกทับหลังจากเกิดเหตุรถบรรทุกและ จยย.นั้นได้ขับขี่หลบหนีไปทันที
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าในเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้พร้อมทั้งสอบปากคำน.ส.กมลลักษณ์ ฯพลเมืองดีที่กล้องหน้ารถสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้พร้อมทั้งอยู่รอเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลและหลักฐานซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่จะทำการติดตามผู้ขับขี่รถบรรทุกและผู้ขับขี่รถ จยย.คันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เข้ามาให้ปากคำอีกครั้งพร้อมทั้งจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งภาพนั้นสามารถจับภาพทะเบียนรถไว้ได้อย่างชัดเจน จากนั้นจึงได้มอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตร ต่อไป