ไม่จ่ายไม่จบ?!! เด็กหญิง ป.6 เรียนดีเกรด 3.96 แต่ไปสมัคร ม.1 ไม่ได้ เหตุไม่มีเงินจ่าย รร.เดิม 15,000
เกิดเรื่องน่าเศร้าใจในระบบการศึกษาไทยขึ้น ว่าทำไมเด็กเรียนดีแต่ฐานะไม่พร้อมจึงไม่ได้รับการสนับสนุน เมื่อเด็กหญิงที่เรียนดีถึงขนาดได้เกรด 3.96 เมื่อจบชั้นประถมศึกษา แต่แล้วกลับสมัคร ม.1 ไม่ได้ เหตุเพราะขาดเอกสารที่ รร.เดิมยังไม่ออกให้ เนื่องจากค้างเงินที่ต้องจ่ายให้โรงเรียนจำนวน 15,000 บาท ผู้ที่ได้ทราบเรื่องต่างก็ข้องใจทำไมไม่ออกเอกสารให้ไปสมัคร ม.1 ได้ก่อน และเรื่องค้างจ่ายค่อยผ่อนจ่ายและประณีประนอมกันไป?
โดยเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากคุณ ธนู ทองสม ประธานเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนโรงเรียนวิเชียรมาตุ จ.ตรัง ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตนพร้อมสมาชิกเพื่อนๆ ได้ร่วมกันบริจาคเงินจำนวน 15,000 บาท ให้กับครอบครัว ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เพื่อนำไปจ่ายให้โรงเรียนเก่าของ ด.ญ.เอ ซึ่งเป็น รร.รัฐระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ที่ทางครอบครัว ด.ญ.เอ ติดค้างโรงเรียน โดยที่ ด.ญ.เอ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษานี้ แต่ทางโรงเรียนไม่มอบหลักฐานใบระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) ให้ ซึ่งหากขาดใบระเบียนแสดงผลการเรียน ก็จะไม่สามารถสมัครเรียนต่อในชั้น ม.1 ได้
คุณธนูกล่าวว่า หลังจากที่ ด.ญ.เอ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนแห่งนี้ ได้เกรดเฉลี่ย 3.96 ต่อมาสมัครสอบเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง และสอบได้ห้องวิทยาศาสตร์โอลิมปิคอีกด้วย
โดยเหตุการณ์ในวันมอบตัว ผู้เป็นมารดาได้พา ด.ญ.เอ เดินทางมามอบตัว แต่ทางโรงเรียนไม่สามารถรับมอบตัวไว้ได้ โดยมีเหตุผลว่า เด็กขาดหลักฐานใบระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น เด็กถึงกับนั่งร้องไห้โฮอยู่บริเวณบันได หน้าห้องวิชาการ ส่วนมารดาของ ด.ญ.เอ ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
คุณธนูได้เล่าว่า "วันนั้นผมมาทำธุระที่โรงเรียนวิเชียรมาตุ ในฐานะประธานเครือข่ายผู้ปกครอง เห็นน้องเอนั่งร้องไห้ จึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่าทางโรงเรียนไม่รับมอบตัว ผมได้สอบถามลูกชาย ทราบว่า น้องเอ เรียนอยู่ห้องเดียวกัน เรียนเก่งคู่กับลูกชายตนมาโดยตลอด ส่วนน้องเอสอบเข้าโรงเรียนวิเชียรมาตุ ห้องวิทยาศาสตร์โอลิมปิคได้ น้องเป็นเด็กขยัน เรียนดี และยังเป็นตัวแทนนักเรียนเข้าแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมภาคใต้ จนได้รางวัลมาแล้ว"
คุณธนูยังกล่าวอีกว่า ครอบครัวของน้องเอมีฐานะยากจน พ่อแม่แยกทางกัน น้องอาศัยอยู่กับแม่และยาย โดยแม่มีอาชีพขายเสื้อผ้าในตลาดเทศบาลนครตรัง เมื่อเป็นเช่นนี้ตนจึงได้เข้าพบ นายมนทิพย์ ทรงกิตติพิศาล ผู้อำนวยการโรงเรียนวิเชียรมาตุ เพื่อขอผ่อนผันกับน้องเอ อีกอย่างวันนั้นตรงกับวันศุกร์อีกด้วย
เมื่อสอบถามทางมารดาน้อง ทราบว่า ค้างค่าธรรมเนียมกับโรงเรียนเดิม จำนวน 15,000 บาท ตนจึงตัดสินใจขอบริจาคเงินจากพรรคพวกเพื่อนฝูง จำนวน 5,000 บาท และตนออกเงินเอง 10,000 บาท นำไปจ่ายให้กับทางโรงเรียนที่น้องเรียน ที่สุดก็ได้ใบระเบียบแสดงผลการเรียน มอบตัวเข้าเรียนโรงเรียนวิเชียรมาตุได้ ซึงขณะนี้โรงเรียนก็ได้เปิดเรียนมาแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ และตอนนี้ ด.ญ.เอ ก็ได้เข้าเรียนตามปกติแล้ว
สำหรับเด็กหญิงเอ เป็นเด็กที่เรียนเก่ง เกรดเฉลี่ย ป.6 ได้ 3.96 และสอบเข้าเรียน ม.1 ของโรงเรียนเป็นห้องเรียนพิเศษ วิทยาศาสตร์โอลิมปิค เป็นเด็กดีมีความรับผิดชอบสูง มีอัธยาศัยที่ดี แต่ทางบ้านมีฐานะยากจน
เมื่อเข้าสู่ระบบโรงเรียน ทางโรงเรียนก็สามารถจัดหาทุนการศึกษาช่วยเหลือได้เต็มที่ โดยโรงเรียนมีเครือข่ายผู้ปกครองและชมรมศิษย์เก่าที่เข้มแข็ง และคิดว่าเด็กจะเรียนหนังสือได้อย่างมีความสุข ผอ.โรงเรียนวิเชียรมาตุตรัง กล่าว
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับ ด.ญ.เอ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ทางโรงเรียนของรัฐที่เด็กเรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 กระทำไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นโรงเรียนรัฐบาล ที่จะต้องส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กนักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาจนจบภาคบังคับ
แต่ทำไมทางโรงเรียนจึงเอาเงินมาเป็นปัจจัยหลัก และเหตุผลสำคัญไม่มอบใบ ปพ.1 ให้กับเด็ก ทั้งๆ ที่เด็กเรียนจบหลักสูตร และเป็นเด็กเรียนเก่ง มีนิสัยดี และยังเป็นตัวแทนนักเรียน เข้าแข่งขันทำชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียนมาแล้วอีกด้วย
เรื่องที่น้องเอเจอนี้อาจไม่ใช่กรณีแรก และอาจไม่ใช่กรณีสุดท้ายด้วย