รถตู้มรณะ
ภาพความโกลาหล เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา บนถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี เป็นวินาทีเป็นวินาทีตายของผู้โดยสารในรถตู้สายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ทะเบียน 10-3760 หลังรถตู้เกิดเฉี่ยวชนกับรถกระบะ และรถจักรยานยนต์ ก่อนพลิกคว่ำเสียหลักกระแทกกับกองเสาไฟฟ้าจนเกิดไฟลุกท่วมทั้งคัน
การช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากรถ จึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องทำงานแข่งกับเวลา หลังมีข้อมูลว่า รถตู้คันดังกล่าวใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง
ไม่มีใครคาดคิดว่า รถตู้คันนี้จะพาผู้โดยสารไปส่งไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ผู้โดยสาร 4 คน ต้องสังเวยชีวิตเพราะไม่สามารถหนีออกมาจากซากรถได้ทัน ส่วนที่เหลือก็บาดเจ็บสาหัส ถึง 6 คน เพราะหลายคนกระเด็นออกมานอกรถ หนึ่งในนั้นมีคนขับ รวมอยู่ด้วย
แม้คดีนี้ จะยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน แต่ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนบอกตรงกันว่า รถตู้คันดังกล่าว ขับมาด้วยความเร็วสูง และจุดที่เกิดเหตุนี้ ก็เป็นจุดอันตรายที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ส่วนนี่..คือเหตุการณ์ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน เมื่อรถตู้โดยสารที่ได้รับว่าจ้างให้เดินทางไปร่วมฉลองความสำเร็จให้กับบุตรชายของกำนันตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ที่จังหวัดชลบุรี แต่ไม่ทันข้ามคืน ความสุขเปลี่ยนเป็นความเศร้า เพราะขณะกำลังเดินทางกลับ รถตู้มรณะ ได้พรากชีวิตไปพร้อมญาติ ๆ อีก 4 คน หลังคนขับหลับใน บังคับรถตกถนน พุ่งชนต้นไม้ บนถนนสาย 41 ขาล่องใต้ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
และก่อนหน้านี้ เกิดอุบัติเหตุกับรถตู้โดยสาร ที่ใช้ความเร็วสูง บนท้องถนนให้เห็นหลายต่อหลายคดี เคราะห์ดีที่แม้จะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ผู้โดยสารหลายคนก็บาดเจ็บ เพราะต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงกับการเดินทางด้วยรถตู้โดยสาร ที่ว่ากันว่ามีความเข้มงวดเรื่องการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมาโดยตลอด
มุมมองของนักวิชาการที่ศึกษาระบบขนส่งสาธารณะและความปลอดภัยทางถนน จากทีดีอาร์ไอ เห็นว่า การใช้ความเร็วสูง ถือเป็นปัจจัยหลัก เมื่อรวมกับการละเลยที่จะตรวจสอบความพร้อมตัวรถ จึงทำให้รถตู้ กลายเป็นบ่อเกิดแห่งความสูญเสีย
นอกจากนี้ ดร.สุเมธ ยังเห็นว่า รถที่ดัดแปลงเชื้อเพลิงมาใช้ก๊าซ ยังมีความเสี่ยงไฟลุกไหม้ได้มากกว่า รถที่ออกมาจากโรงงาน แม้การดัดแปลง หรือติดตั้งถังก๊าซจะได้มาตรฐาน แต่มีโอกาสที่ระบบจะเกิดการลัดวงจรได้เมื่อรถประสบอุบัติเหตุ จึงเห็นว่ารัฐและผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยบนรถ อย่างเข็มขัดนิรภัย ที่ต้องติดตั้งมากับเบาะอย่างมีมาตรฐานด้วย
ความนิยมเดินทางโดยใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ ยังเป็นทางเลือกที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าสะดวกและคล่องตัวกว่าการเดินทางในระบบขนส่งทั่วไป รถที่ต้องเดินทางระยะไกล จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้สูงกว่าระยะใกล้ เจ้าของรถตู้ รวมทั้งผู้ขับขี่จึงต้องหมั่นตรวจความพร้อมของอุปกรณ์ความปลอดภัยภายในตัวรถ เช่น เข็มขัดนิรภัย หรือถังดับเพลิง และจะต้องไม่มีเบาะที่นั่งขวางประตูฉุกเฉินเพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุเช่น ไฟไหม้หรือรถชนผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถจะไม่สามารถออกมาได้ รวมทั้งต้องไม่ให้รถตู้โดยสารต้องเร่งทำรอบ ก็เป็นอีกหนทางที่นักวิชาการรายนี้เห็นว่าจะช่วยลดความสูญเสีย และช่วยลบภาพคราบมัจจุราชบนท้องถนน หรือรถตู้มรณะ ให้ลดน้อยลงได้
ที่มา : http://www.newsconnect.co.th/truth-proof/detail.php?episode=65#youtube