ผมมาตอบแทนดาราที่เป็นหอบหืดครับ !!

ทำไมไม่ผ่อนผันตั้งแต่แรก?

ผมเชื่อว่าทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเองแหละครับ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นโรคจริงๆ
ก็ไม่ใช่ว่าวันคัดเลือกก็เดินดุ่มๆ เข้าไปบอกเค้าว่าเราเป็นหอบหืดนะ
แล้วก็ไม่ต้องเป็นทหารเลย คือมันไม่ใช่ครับ คิดผิดแล้วครับ

ถึงแม้ว่าเราป่วยจริง ก็ต้องไปตรวจร่างกายกับทางโรงพยาบาลของทหารครับ
(ย้ำอีกรอบนะครับ ว่าเป็นโรงพยาบาลของทหาร เท่านั้น!!)
การเข้าไปตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลทหาร
ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนไปขอใบรับรองแพทย์เพื่อทำใบขับขี่อะไรทำนองนั้นนะครับ

กระบวนการตรวจสุขภาพ ต้องทำในช่วงเวลาที่กำหนด
ซึ่งก็จะเป็นระยะเวลาหลายเดือนก่อนการเกณฑ์ทหารด้วยครับ
เพราะเราต้องตรวจสอบว่าเป็นโรคจริงมั้ย?
และก็ต้องดำเนินการทางด้านเอกสารต่างๆ อีกมากมายครับ
โดยการตรวจทั้งหมด ก็จะเกิดจากหมอที่เป็นทหารครับ

ถ้าหากคิดว่ากระบวนการต่างๆ ไม่น่าเชื่อถือ หรือมีช่องทางให้สามารถใช้เส้นสายได้จริง
อันนี้เราก็ต้องมาดูครับว่า ใครมีส่วนที่ผิดบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นคนป่วย(?) หมอ โรงพยาบาล ค่ายทหาร กรมแพทย์ทหาร
อันนี้ก็ต้องว่ากันไปตามถูกตามผิด และก็ควรที่จะจัดการให้ถูกต้องในทุกระดับชั้น
ไม่ว่าจะเป็นการลงโทษทางวินัยทหาร หรือการลงโทษทางสังคมก็ตามครับ

ก็ไม่อยากให้ออกตัวแรงกันครับ ถ้าเค้าป่วยจริง และควรได้รับการยกเว้นจริง
ก็ถือว่าเรากำลังกล่าวหาทั้งคนที่ทำเรื่องยกเว้น และกล่าวหากรมการแพทย์ทหารด้วยครับ

และไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถ้าเราป่วยจริง เรามีสิทธิ์อยู่แล้ว
เราจะเลือกใช้สิทธิ์ตอนไหนก็ได้ ถูกมั้ยครับ?
ผมเชื่อว่า ไม่ใช่ทุกคน และทุกเรื่องหรอกครับ ที่เราจะใช้สิทธิ์ตั้งแต่ครั้งแรก




ทำไมยังเห็นคนใกล้ตัวที่เป็นหอบไปเป็นทหารอยู่เลย?

เรื่องนี้มีอยู่ 2 ประเด็นครับ คือ

1. ไม่ได้รักษาสิทธิ์ / ไม่ใช้สิทธิ์ : ไม่ว่าจะทราบหรือไม่ทราบเรื่องการยกเว้นก็ตาม
ถ้าหากเราไม่ใช้สิทธิ์ ก็สามารถจับใบดำใบแดง หรือสมัครทหารได้ตามปกติ
การเป็นทหารไม่ได้ห้ามคนเป็นหอบหืดเป็น แต่ก็เป็นโรคที่ได้รับการยกเว้นครับ
อันนี้เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนซึ่งเราก็ควรที่จะเคารพการตัดสินใจของคนคนนั้น
และหลังจากการใช้สิทธิ์นี้ เค้าจะไปทำอะไรที่เสี่ยงตายจากโรคดังกล่าว ก็เป็นเรื่องของเค้าครับ

2. เรื่องงานในอนาคต : การที่เราใช้สิทธิ์ยกเว้นในส่วนนี้ ในใบของทหารจะเขียนว่าเราป่วย
ซึ่งก็มีผลต่อการทำงานในอนาคต ซึ่งงานบางอย่างหรือบางที่ ก็จะไม่รับเข้าทำงานครับ
ทำให้คนเป็นจำนวนมากอีกเช่นกัน ที่ยอมจะไปเกณฑ์ทหาร เพื่อปกปิดโรคที่เป็นอยู่นั่นเอง





เป็นทหารสบาย?

ผมแอบสงสัยครับว่า คนทั่วไปคิดว่าการเป็นทหารเกณฑ์มันสบายจริงๆเหรอครับ?
ทหารที่เราได้เห็นๆกัน น่าจะเป็นทหารที่ผ่านการฝึกมาแล้วครับ นั่นก็คือเราเห็นช่วงที่เค้าสบายแล้ว
การฝึกทหารใหม่ ก็ได้อยู่แต่ในหน่วยฝึกทหารใหม่ครับ ไม่ได้ออกมาข้างนอกเท่าไหร่
จะเหนื่อย จะเป็นจะตายยังไง คนข้างนอกก็ไม่ได้เห็นหรอกครับ ถ้าไม่เข้าไปดู

ทหารใหม่ กล่าวคำปฏิญาณ
"ไม่มีอะไร ที่ทหารใหม่ ทำไม่ได้ ทำไม่ไหว ทำไม่ทัน
ตายใน สนามรบ เป็นเกียรติของทหาร ตายเสียดีกว่า ที่จะละทิ้งหน้าที่"

ทหารใหม่ ร้องเพลงขณะวิ่งตอนเช้า
"จากยอดดอยแดนไกลใครจะเห็น ยากลำเค็ญเพียงใดใจยังมั่น
จะปกป้องผองภัยชั่วนิรันดร์ สิ้นชีวันก็ยังห่วงหวงแผ่นดิน...."

ฟังแล้วรู้สึกอย่างไรครับ? พอจะเห็นภาพมั้ยครับว่าคนที่จะพูดประโยคนี้ จะร้องเพลงนี้ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง?
ทางกรมแพทย์ทหาร ก็คงคิดมาดีแล้วล่ะครับ ว่าใครที่เหมาะสม ใครที่ไม่เหมาะสม

สภาพการฝึกทหารใหม่ มันก็มีความสุ่มเสี่ยงอยู่ไม่ใช่น้อยครับ ที่จะทำให้โรคกำเริบได้
หากคุณมาป่วยตอนฝึกทหาร ใครจะมาคอยสังเกตคุณ? มาคอยดูแลคุณครับ?
ไม่มีครับ!!! มันไม่เหมือนกับตอนอยู่ข้างนอกนะครับ

พูดกันตรงๆก็คือ มันเป็นภาระครับ!!!!
เสียเวลาต้องมาดูแลคนป่วย ไหนจะต้องฝึก ไหนจะคนที่แข็งแรงแล้วมาป่วยในค่ายอีก
ขนาดคนแข็งแรงๆยังป่วยได้ นับประสาอะไรกับหัวใจ....
ว่างๆ ก็ลองไปดูที่โรงพยาบาลในค่ายทหารได้ครับ ว่ามีใครป่วยเป็นอะไรกันบ้าง
นี่ทหารจะต้องรับคนป่วย เพื่อจะมาป่วยหนักเพิ่มขึ้นอีกในค่ายทหารเหรอครับ ตลกครับ

แต่ในโลกของความเป็นจริงเข้าไปอีก !!!!
มันก็มีจริงๆครับ ที่คนป่วยสมัครเข้ามาเป็นทหาร และยอมทนกับการฝึกทหาร
เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษในการรักษาอาการป่วยของตัวเองในอนาคต

และในโลกของความเป็นจริงอีกเรื่องก็คือ...
ถ้าไปฝึกแล้วเราตาย ก็ไม่มีใครรับผิดชอบอะไรได้ครับ
ดังนั้นป่วย ก็รับการยกเว้นไปครับ อย่าไปแคร์ใครครับ




รู้สึกเสียดายครับ ที่ไม่ได้เป็นทหาร?

ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เป็นติ่งดาราครับ และก็ไม่เคยเป็นดาราด้วยเหมือนกัน
ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าการที่เราจะพูดประโยคนี้ออกมา มันจะมาด้วยปัจจัยใด
แต่ถ้าเป็นผม อยู่ๆก็คงไม่พูดประโยคนี้ออกมาหรอกครับ มันดูสุ่มเสี่ยงและไม่เซฟตัวเองเลย

ผมคาดเดาว่า ต้องมีคนถามก่อนครับ ประมาณว่า...
"ได้รับการยกเว้นแบบนี้ รู้สึกเสียดายมั้ยครับที่ไม่ได้เป็นทหาร?"

ถ้าจะให้ตอบว่า "ไม่เสียดายเลยครับที่ไม่ได้เป็นทหาร" ก็คงจะดูตลกดีครับ
เป็นผมก็คงจะเลือกตอบสิ่งที่มันดูดีกว่า นั่นก็คือ "เสียดายที่ไม่ได้เป็นทหาร" อยู่แล้ว

แต่จริงๆ คงต้องถามกลับกับสังคมครับ
ว่าคาดหวังอะไรจากคำตอบของดาราคนนั้นกันแน่?
ในเมื่อในใจเราเชื่ออยู่แล้วว่าเค้าโกหก?

ซึ่งผมว่ามันก็ตลกดีครับ ที่ถ้าเราทำเรื่องยกเว้นทหาร
แล้วก็มีคนมาถามว่า "เสียดายมั้ยครับ ที่ไม่ได้เป็นทหาร?"
แล้วมันก็ตลกเข้าไปอีกครับ ที่เราจะต้องมาตอบว่า "เสียดายครับ ที่ไม่ได้เป็นทหาร"

5555555



จริงๆผมอยากจะเขียนเรื่องนี้เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ชายทุกคน ที่จะต้องผ่อนผันกับเรื่องนี้ในอนาคต
และก็อยากจะให้ทุกๆคน มองเรื่องนี้ในมุมมองที่กว้างมากขึ้น หลายมุมมากขึ้นด้วยครับ