สันธนะ เป็นใคร?

สันธนะ ประยูรรัตน์ หรือชื่อเล่นว่า “รองต่อ” เกิด พ.ศ. 2502 เป็นบุตรคนที่ 3 จากพี่น้อง 6 คนของ พล.ต.ต. สมชาย และ นางนิตยา ประยูรรัตน์ 

• สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก จากนั้นเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 17 และเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 33 

• ต่อมาไปเรียนที่วิทยาลัยตำรวจ เอฟ.บี.ไอ. ประเทศสหรัฐอเมริกา และจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ และปริญญาโทนิติศาสตร์มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง 

• เริ่มงานราชการในสายตำรวจ เมื่อปี พ.ศ. 2535 ในตำแหน่งสารวัตร สังกัดกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจสันติบาล ก่อนจะขึ้นเป็นรองผู้กำกับการในหน่วยต่าง ๆ 

• ในภายหลังลาออกจากราชการ ถูกลงโทษให้ออกจากราชการเนื่องจากกระทำผิดวินัยร้ายแรง คม ชัด ลึก+1

• มีธุรกิจส่วนตัวหลายบริษัท และเป็นกรรมการในบริษัทต่าง ๆ ซึ่งมีรายได้และมูลค่าที่น่าสนใจในสายธุรกิจ 

เหตุการณ์/คดีเด่น

1. คดีหมิ่นประมาทกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
   สันธนะถูกฟ้องโดยชูวิทว่า ในช่วงเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ได้แจ้งความกล่าวหาโรงแรมหนึ่งของกลุ่มบริษัทต้นตระกูล (ของชูวิท) ว่า “เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาและเปิดเกินเวลา” 

   • ศาลอาญาพิพากษาให้จำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา 

   • รายละเอียด: ศาลระบุว่า แม้จะมีบางประเด็นเป็นข้ออ้างเรื่องประโยชน์สาธารณะ แต่จำเลยได้ให้ข่าวแก่สื่อมวลชน และกล่าวหาโดยไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ทำให้เสียชื่อเสียงแก่โจทก์ 

   • 

   • 

2. การจับกุมล่าสุด
   เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส. บช.น. ได้เข้าตรวจค้นและจับกุมนายสันธนะ ในคอนโดหรูย่านถนนวิทยุ กลางกรุงเทพฯ 

   • สืบจากกรณีเมื่อปี พ.ศ. 2564 ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วม “อุ้มรีดเรียกค่าไถ่” ชาวต่างชาติ (ชาวไต้หวัน) ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ 

   • ขณะจับกุม เจ้าตัวอ้างว่า “ถูกหักหลังจากฝ่ายการเมืองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” และว่าเป็นคดีเก่า ไม่ได้หลบหนี พร้อมยืนยันว่าเข้าให้ความร่วมมือมาโดยตลอด 

3. ธุรกิจและทรัพย์สิน
   จากการตรวจสอบ บริษัทจดทะเบียนพบว่าสันธนะเป็นกรรมการบริษัทหลายแห่ง เช่น บริษัทภัตตาคารมังกรทะเล จำกัด บริษัท วินเนอร์ คลับ บีเคเค จำกัด เป็นต้น มีผลประกอบการเป็นหลายล้านบาท 

วาทะ/คดีที่โดดเด่น

• ในคดีกับชูวิท ศาลให้เหตุผลว่า “จำเลยให้สัมภาษณ์สื่อหลายแขนง ซึ่งล้วนเป็นเท็จ … จำเลยรู้อยู่แล้วว่านักข่าวจะนำเสนอข่าวสู่สาธารณะ” 

• เมื่อตอนถูกจับ สันธนะกล่าวว่า:

  “ผมไม่ได้หลบหนีและเข้าให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี … ทำไมต้องนำกำลังตำรวจมาเยอะขนาดนี้เหมือนไปถ่ายทำละคร” 

สันธนะ ประยูรรัตน์ เป็นอดีตนายตำรวจชื่อดัง มีการศึกษาและการทำงานในตำแหน่งสำคัญในสายตำรวจ ก่อนจะถูกลงโทษให้ออกจากราชการ และมีบทบาทในธุรกิจส่วนตัวอย่างมีนัยสำคัญ . . .
ในช่วงหลังมีคดีความทั้งทางอาญาและแพ่ง รวมถึงข้อกล่าวหาใหญ่ เช่น อุ้มรีดเรียกค่าไถ่ชาวต่างชาติ และคดีหมิ่นประมาทกับชูวิท ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์และสถานะทางสังคมของเขาอย่างมาก