เฮลั่น!!! คดีตัวอย่าง ฟ้องชนะบริษัทรถยนต์ชื่อดัง หลังจากซื้อรถมาแล้วเสียใช้งานไม่ได้ บริษัทไม่ยอมเปลี่ยนคันใหม่!!!
กลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 57 หลังจาก นายนนท์ชัย ราชภุชงค์ นำรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ที่ซื้อมาเพียง 3 เดือน และส่งซ่อมแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ทางศูนย์แก้ปัญหาให้ไม่ได้ จึงนำมาจอดหน้าศูนย์บริการของบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง ใน จ.นครศรีธรรมราช เป็นรถยนต์กระบะเครื่องยนต์เบนซิน ติดตั้งระบบแก๊สเอ็นจีวีจากโรงงานผู้ผลิต หลังประสบปัญหาใช้ระบบแก๊สไม่ได้ บางครั้งทั้งระบบแก๊ส และน้ำมันทำงานพร้อมกัน และเข้าเกียร์ถอยหลังไม่ได้ จึงมาเจรจากับบริษัท ซึ่งไม่สามารถตกลงกันได้จึงนำไปสู่การฟ้องร้อง บริษัทขอคืนรถยนต์กระบะตอนเดียว ที่ซื้อด้วยเงินดาวน์ กว่า 1 แสนบาท และได้นำรถยนต์คันนี้ไปประท้วง ขอคืนรถและเรียกเงินดาวน์คืน ที่หน้าบริษัทเมื่อกว่า 1 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่บริษัทผู้จำหน่ายรับเพียงซ่อมแซมให้เท่านั้น โดยปฏิเสธที่จะรับคืนรถและคืนเงินดาวน์ หลังจากนั้นผู้ซื้อได้ยื่นฟ้องบริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์ บริษัทผู้ผลิต และบริษัทไฟแนนซ์ผู้ถือกรรมสิทธิ์ให้นางนุชนารถ เช่าซื้อ
ต่อมาศาลชั้นต้นได้พิจารณายกฟ้อง ขณะที่นางนุชนารถได้ยื่นอุทธรณ์ และขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3 คือบริษัทไฟแนนซ์ที่ให้เช่าซื้อเนื่องจากเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง มีสถานะเป็นเพียงบริษัทผู้ให้เช่าซื้อ ที่รับโอนกรรมสิทธิ์มาจากบริษัทผู้จัดจำหน่าย
ล่าสุดศาลอุทธรณ์ภาค 8 แผนกคดีผู้บริโภค ได้รับอุทธรณ์ และพิจารณาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยสาระสำคัญของคำพิพากษา สรุปความได้ว่า ที่จำเลยที่ 1 (ตัวแทนจำหน่าย) และที่ 2 (บริษัทผู้ผลิต) โฆษณาไว้จึงเป็นการชำรุดบกพร่อง ที่เสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์ของโจทย์ในอันมุ่งจะใช้เป็นปกติ
โจทย์จึงชอบที่จะบอกเลิกสัญญาโดยคืนรถยนต์แก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยหาจำต้องให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 เปลี่ยนชิ้นส่วนบกพร่องนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 472
พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันรับคืนรถยนต์คันพิพาทจากโจทก์ และร่วมกันชำระเงิน 191,868 บาท แก่โจทย์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องคดี เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทย์ และร่วมกันชำระเงินค่าเช่าซื้อที่โจทย์ชำระแก่จำเลยที่ 3 ไปโดยหักเป็นค่าใช้ทรัพย์เดือนละ 5 พันบาท นับแต่วันทำสัญญาเช่าซื้อไป จนกว่าโจทก์จะส่งมอบรถยนต์แก่จำเลยที่ 1 หรือที่ 2
และให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันชำระค่าเช่าซื้อที่เหลือแก่จำเลยที่ 3 ในนามโจทก์ กับให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันชำระค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาล ที่ได้รับการยกเว้นทั้งหมดในนามโจทย์ มาวางต่อศาลและชำระค่าทนายความรวม 8 พันบาท"
ประเภท : เศรษฐกิจ