คสช.จัดหนัก“ทักษิณ”เป็นนักโทษหนีคดีไม่ยอมรับกฎหมายไทยมองแต่ตนเองและตระกูลไม่ได้มองประเทศ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พล.อ.ประวิตรไม่สนทักษิณวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญเชื่อดิสเครดิตรัฐบาลไม่ได้ คสช.จัดหนักจวกทักษิณมองแต่ตนเองและตระกูลชี้ทำไมเราให้ความสำคัญกับนายทักษิณที่มีสถานะเป็นนักโทษหนีคดีและไม่ยอมรับกฎหมายไทย ไม่ได้มองประเทศและประชาชนในภาพรวมถือเป็นทำลายประเทศบิดเบือนข้อเท็จจริง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 มีนาคม 2559 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของนายทักษิณ ในส่วนของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ทำงานของเราไปให้ดีที่สุด ดังนั้นไม่ต้องห่วง เพราะนายทักษิณ ไม่ได้เข้ามาอยู่ในนี้ ซึ่งนายทักษิณมีสิทธิ์จะพูด แต่บางอย่างก็ไม่ควรพูด ตนอยากให้สังคมช่วยกันดู

รัฐมนตรีกลาโหมเชื่อว่าการออกมาวิพากษ์วิจารณ์จะไม่ส่งผลทำให้งานของรัฐบาลและคสช.สะดุด พวกเราตั้งใจทำงานและประชาชนส่วนใหญ่ก็พอใจเพราะเราทำให้กับคนที่ยากจน ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ก็รู้สึกเหนื่อย ส่วนตนก็ยอมรับว่าแย่เหมือนกัน

เมื่อถามว่า นายทักษิณวิจารณ์ว่าร่างรัฐธรรมนูญให้อำนาจกับฝ่ายตุลาการมากเกินไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นความคิดของนายทักษิณ ซึ่งควรจะรู้ว่าในขณะนี้บ้านเมืองของเราต้องแก้ไขปัญหา เพราะที่ผ่านมามีความขัดแย้งจึงต้องดูว่าจะทำอย่างไรที่จะต้องมีในส่วนที่เป็นผู้ที่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาต่างๆให้รอดพ้น เพื่อเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่มาติดอยู่จนไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ก็ต้องมองเห็นว่าสิ่งใดควรจะมี เพราะจะต้องมีกุญแจเพื่อไขให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้

ส่วนประเด็นที่มาของ ส.ว.นั้น พล.อ.ประวิทย์กล่าวว่าก็ให้ทาง กรธ.ดำเนินการไป ตามความคิดของตนคิดว่าต้องทำเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านในช่วง 5 ปีต่อไปทั้งในส่วนของ ส.ส.เลือกตั้งและส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง เพื่อเปลี่ยนผ่านตรงนี้ให้ได้และต่อไปในอนาคตเมื่อเราทำยุทธศาสตร์ชาติ 5 ปีผ่านไปแล้ว เริ่มต้นการปฏิรูป ทุกอย่างก็จะเดินไป และการเลือกตั้งก็จะอยู่ในกรอบ

“เป็นความตั้งใจดีของผม อยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงาน เพราะที่ผ่านมาทะเลาะกันมาเยอะ อยากให้พอกันได้แล้ว ส่วนกรธ.จะดำเนินการอย่างไรก็เป็นหน้าที่เขา ถ้าเขาคิดดีกับผม เขาก็ทำไป แต่มองว่าทาง กรธ. อยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้าเช่นกัน ส่วนจะเหมือนผมหรือไม่นั้นไม่ทราบ สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นที่ให้ คสช. ไปนั่งเก้าอี้ ส.ว.นั้น ก็ไม่เป็นอะไร ไม่ได้ไปกันทั้งหมด แล้วแต่คณะกรรมการคัดสรรที่จะได้มา หรือเขาอาจจะไม่เอาเลยก็ได้ ส่วนผมและนายกรัฐมนตรีจะรับนั่งเป็นส.ว.หรือไม่นั้น ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาจะให้เป็นหรือไม่ ผมเลือกตัวเองไม่ได้ เพราะมีคณะกรรมการคัดสรรอยู่”พล.อ.ประวิตร กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายทักษิณ ออกมาพูดว่าอาจจะมีมวลชนออกมาเคลื่อนไหวเรื่องร่างรัฐธรรมนูญนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะออกมา เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนในการดำเนินการ หากไม่เอาร่างรัฐธรรมนูญไม่ต้องออกมาเคลื่อนไหว เพียงแค่ไปลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้นก็จบ ไม่ต้องออกมาทำให้เกิดความวุ่นวาย

เมื่อถามว่าได้สื่อสารไปถึงนายทักษิณหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้สื่อสาร เพราะไม่รู้จะสื่อสารทางไหน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าการออกมาพูดของนายทักษิณ ถือเป็นการเปิดหน้าเจรจากับรัฐบาล และ คสช. หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า คงไม่ใช่ ตนไม่ทราบและให้เหตุผลไม่ได้ ส่วนจะเป็นการดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่นั้น เชื่อว่ารัฐบาลมีเครดิตดีอยู่แล้ว เพราะทั่วโลกยอมรับ

ถามว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ระบุว่าอยากให้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร กรณีเสนอเรื่องที่มาของ ส.ว. พล.อ.ประวิตรตอบว่า เรื่องนี้ต้องทำเป็นหนังสือแน่นอน ถ้าทาง คสช.เห็นด้วย โดยในหนังสือจะแสดงการให้เหตุผลข้อดีและข้อเสีย ถ้านายมีชัยไม่เอาก็ต้องให้เหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงไม่เอา แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้มีธง

ต่อข้อถามเหลืออีก 2 สัปดาห์ที่ กรธ.จะทำข้อสรุปร่างรัฐธรรมนูญ คสช.ห่วงอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ห่วงในเมื่อนายกฯตั้ง กรธ. แล้ว ก็ต้องมั่นใจว่า กรธ. ทั้ง 21 คนมีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และคงจะมีการหารือกันเพื่อทำให้ดีที่สุด คงไม่มีใครจะทำร่างรัฐธรรมนูญไม่ดี

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คสช.จัดหนักทักษิณมองแต่ตัวเองและตระกูล

วันที่ 11 มีนาคม 2559 ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญว่า ทำไมเราให้ความสำคัญกับนายทักษิณที่มีสถานะเป็นนักโทษหนีคดี และไม่ยอมรับกฎหมายไทย สิ่งที่นายทักษิณพูดเป็นการมองแต่ตัวเองและตระกูลของตนเอง ไม่ได้มองประเทศและประชาชนในภาพรวม

นอกจากนี้ยังทำร้ายบ้านเมืองด้วยการให้ข้อมูลบิดเบือนต่อสื่อมวลชนต่างประเทศ สิ่งที่เป็นความต้องการอย่างแท้จริงและเป็นปัญหาของนายทักษิณคืออยากกลับประเทศไทย แต่ไม่อยากอยู่ภายใต้กฎหมายไทย อยากให้ประชาชนเคารพ แต่ไม่เคารพประชาชน 

อย่างไรก็ตาม การเคารพกฎหมายเป็นนโยบายของ คสช.ในการรักษาสภาพความสงบ รวมถึงสนับสนุนการบริหารงานราชการแผ่นดินของรัฐบาลและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณแสดงความเห็นเรื่องส.ว.ที่มาจากการสรรหา  พ.อ.ปิยพงศ์ตอบว่าช่วงนี้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ยังปรับปรุงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 29 มี.ค.นี้ คงจะมีความชัดเจนมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่ากรธ.คงมองการนำพาประเทศไปสู่ความสงบร่มเย็น มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นประชาธิปไตย อีกทั้งร่างรัฐธรรมนูญเพื่อระงับยับยั้งปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตเป็นการทำให้ไม่เกิดปัญหาขึ้นใหม่ในอนาคต ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรต้องรอความชัดเจนหลังวันที่ 29 มี.ค.นี้ 

เมื่อถามต่อว่ามีการมองว่าคสช.พยายามจะต่อท่ออำนาจไปด้วยส.ว.สรรหา พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า สิ่งที่คสช.มองประเด็นหลักคือการรักษาสภาพความสงบให้แก่บ้านเมืองและอำนวยให้การบริหารราชการแผ่นดินในส่วนที่เกี่ยวข้องมีความมั่นคงไม่กระทบต่องานบริหารราชการแผ่นดินและเมื่อไปสู่โรดแม็พมีการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลต้องมีสถานะที่มั่นคงและไม่เกิดปัญหาที่จะเกิดความรุนแรงภายในข้างหน้ามากกว่า

เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าคสช.เห็นด้วยกับที่มาของส.ว.ลากตั้งพล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ตนยังไม่มีรายละเอียดต้องมีความชัดเจนหลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ออกมาก่อน

3 พลเอก “เปรม-ประวิตร-พะจุณณ์”

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กับผู้ใหญ่ในคสช. มีปัญหาความขัดแย้งกัน  พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า พล.อ.เปรมเป็นหลักของประเทศชาติ เป็นผู้ที่มีคุโณปการแก่บ้านเมืองเป็นประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ 

ส่วนพล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และอดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานเสียสละทุกอย่างเพื่อชาติบ้านเมือง ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ต่างกันแต่ทำงานอย่างทุ่มเทเพื่อดูแลชาติบ้านเมืองให้ฝ่าฟันวิกฤติไปได้ 

เมื่อถามว่าข่าวที่ออกมาเกิดจากความขัดแย้งเรื่องฝากเด็กใช่หรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ไม่มีในเรื่องนี้ ไม่เคยได้ยิน อีกทั้งเชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีคุณธรรมสูงยิ่งในการให้ว่าไปตามทำนองคลองธรรมในการเจริญก้าวหน้าในหน่วยต่างๆ

ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับพล.ร.อ.พะจุณณ์ เป็นเรื่องไปตามข้อมูลกฎหมายไม่ได้เกี่ยวกับความขัดแย้ง ขอให้มั่นใจว่าในสถานการณ์ขณะนี้ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทะเลาะกันไม่ได้