น้ำฝน ซัด พุทธะอิสระ "พระรูปเดียว" ที่สงฆ์ทั้งประเทศเกลียด
นึกว่าน้ำฝน "ย้ายวัดหนี" ไปซะแล้ว เพราะเห็นเงียบผิดปกติไปเป็นปี ทั้งๆ ที่น้ำฝนนั้นเป็นคนเสียงดัง และชอบความดัง เรื่องทำอะไรเงียบๆ ถือว่าผิดวิสัยของน้ำฝน คราวก่อนก็ตะลุมบอนกับ "พุทธะอิสระ" จนเข็มขัดกระเด็นมาแล้ว เพราะยกพลเข้าวัดอ้อน้อย จะขอจับ "ของดี" ของพุทธะอิสระเพื่อ "ตรวจฉี่"มีหรือพุทธะอิสระจะยอม เลยย้อนศรเล่นงานถึง "พี่ใหญ่-เจ้าคุณชัยวัฒน์" เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ลามไปถึง "ป๋าเหนาะ" แห่งภูเขาทอง เลยต้องยอมกลืนเลือด "ตัดไฟแต่ต้นลม" สั่งยุบกองพระวินยาธิการจังหวัดนครปฐมของน้ำฝนทิ้ง ส่งผลให้น้ำฝน "ไร้เก้าอี้" ซึ่งใหญ่คับนครปฐม เคยคุมพลมาอารักขาให้มหาเถรสมาคม ซึ่งประชุมกันที่พุทธมณฑลมาหลายรอบแล้ว สรุปว่ายกนั้นน้ำฝนแพ้หมดรูป
น้ำฝนแพ้นั้นยังถือว่าไม่น่าสนใจ เพราะยังมีสะเก็ดแผลใหญ่ลามไปถึงผู้ใหญ่ระดับ"สังฆราช" ด้วยซี นั่นก็คือ รถหรู-จากัวร์ จากอเมริกา ได้มาคราวน้ำฝนมาทำพิธี "ขอขมากรรม" ที่แอลเอ ด้วยความรักความชอบและคอลเล็คชั่น น้ำฝนจึงสั่งตรงเข้าไทย และไปสะดุดตา "ดีเอสไอ" เข้า ก็เลยตรวจสอบ สอบไปสอบมา ปรากฏว่า "เจอชิ้นใหญ่กว่า" นั่นคือรถเบนซ์ ทะเบียน ขม.99 ของสมเด็จช่วง วัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ถ้าจะบอกว่า สมเด็จช่วง "ร่วง" จากเก้าอี้ เพราะน้ำฝน ก็คงว่าได้ไม่ผิด เพราะรูปคดีมันออกมาเช่นนี้
น้ำฝนแพ้นั้นยังถือว่าไม่น่าสนใจ เพราะยังมีสะเก็ดแผลใหญ่ลามไปถึงผู้ใหญ่ระดับ"สังฆราช" ด้วยซี นั่นก็คือ รถหรู-จากัวร์ จากอเมริกา ได้มาคราวน้ำฝนมาทำพิธี "ขอขมากรรม" ที่แอลเอ ด้วยความรักความชอบและคอลเล็คชั่น น้ำฝนจึงสั่งตรงเข้าไทย และไปสะดุดตา "ดีเอสไอ" เข้า ก็เลยตรวจสอบ สอบไปสอบมา ปรากฏว่า "เจอชิ้นใหญ่กว่า" นั่นคือรถเบนซ์ ทะเบียน ขม.99 ของสมเด็จช่วง วัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ถ้าจะบอกว่า สมเด็จช่วง "ร่วง" จากเก้าอี้ เพราะน้ำฝน ก็คงว่าได้ไม่ผิด เพราะรูปคดีมันออกมาเช่นนี้
วันก่อน น้ำฝน ร่วมวงลิเกของเจ้าคุณเสนาะที่วัดสระเกศ ถึงบทโศก ลูกพี่-หัวหน้าคณะ ผูกคอตายไปอย่างช็อคซีนีม่าร์ วันนี้ ผันตัวเองมาอยู่วง "ปากน้ำ" ก็ไม่รู้ว่าหัวหน้าวง คือ สมเด็จช่วง จะร่วงหรือรุ่ง พรุ่งนี้ ดีเอสไอก็จะประกาศผลแล้ว