ญาติ นปช.เผาศาลากลางอุบลฯ เผย “ณัฐวุฒิ” เพิ่งลงมาช่วยเหลือ
ญาติ นปช. จ.อุบลราชธานี ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ระบุ นายณัฐวุฒิ, นพ.เหวง และนางธิดา เพิ่งเข้ามาให้การช่วยเหลือและดูแล แต่ก่อนหน้านี้นั้นไม่เคยมีโทรศัพท์หรือการติดต่อสอบถามแต่อย่างใด
กรณีศาลฎีกามีคำตัดสินคดี 13 นปช.อุบลราชธานี สั่งจำคุก แกนนำ นปช.อุบลราชธานี ตลอดชีวิต และลดหลั่นกันลงมาในคดีเผาศาลากลาง จ.อุบลราชธานี เมื่อปี 2553 ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา แกนนำ นปช. ทั้ง นางธิดา ถาวรเศรษฐ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ ได้เดินทางไปเยี่ยมที่เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี
โดยช่วงหนึ่ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำได้ให้สัมภาษณ์สื่อว่า จากการพูดคุยกับทุกคนก็ยังมีกำลังใจดีอยู่ พร้อมรับปากว่าจะดูแลไม่ทอดทิ้งกัน และได้ร่วมร้องเพลงแสงแห่งศรัทธา เพื่อยืนยันว่า ทุกคนยังเป็นแสงดาวแห่งประชาธิปไตย ส่วนกลุ่มที่มีโทษหนักก็เตรียมให้ทนายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษเป็นกรณีไป
ขณะที่ กลุ่มมวลชนในต่างจังหวัดที่ถูกดำเนินคดีก็มีเสียงสะท้อนว่า แกนนำในส่วนกลาง ทอดทิ้ง ไม่สนใจ ปล่อยให้สู้คดีเองเพียงลำพัง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ ทีมข่าวสปริงนิวส์ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อพูดคุยกับ ผาสุข ทาบุดดา ภรรยาอาจารย์ต้อย และจำรูญศักดิ์ จันทมัย อดีต นปช.จ.อุบลราชธานี
ผาสุข ทาบุดดา ภรรยาอาจารย์ต้อย กล่าวถึง แกนนำ นปช. ที่เดินทางมาเยี่ยมที่เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี ว่า ตนก็เสียใจ และไม่รู้ว่าจะต้องพูดคำไหนออกมาดี เพราะยังไงก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้แล้ว แต่ตนก็ยังดีใจที่แกนนำ นปช.ยังมาดูแลอยู่ และให้ความสนใจ โดยก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีการโทรศัพท์หรือติดต่อสอบถามมาแต่อย่างใด
ด้าน จำรูญศักดิ์ จันทมัย อดีต นปช.จ.อุบลราชธานี ก็กล่าวถึง แกนนำ นปช. ที่เดินทางมาเยี่ยมที่เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี เช่นกัน ว่า สำหรับคุณสนอง เกตุสุวรรณ ตั้งแต่ที่โดนคดีมานั้น มี 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรกโดน 33 ปี 4 เดือน ซึ่งที่ตนได้รับความอนุเคราะห์และการช่วยเหลือจากอาจารย์ธิดาอยู่เรื่องหนึ่ง คือ ทางภรรยาของคุณสนอง เกตุสุวรรณ ไปกู้เงินดอกร้อยละ 20 ตอนนั้น ตนได้เอาเรื่องนี้ไปกล่าวกับท่านอาจารย์ธิดา ท่านก็โปรดเมตตาช่วยมา 20,000 บาท นั่นคือสิ่งที่ตนได้รับและได้สัมผัสด้วยตัวของตนเองครั้งเดียว แต่ส่วนประเด็นฝ่ายแกนนำจะติดต่อประสานกับทั้ง 4 ท่านหรือไม่ ตนไม่ทราบ