สวย-อึด-ถึก สาวอุดรฯ ดาวคณะแม่พิมพ์ของชาติ อดีตเด็กแว๊นมอไซด์ ส่งของเช้ายันมืด
เพิ่งจะสวมชุดครุยรับปริญญาให้พ่อกับแม่ได้ภาคภูมิใจ สำหรับว่าที่แม่พิมพ์ของชาติ เนียม พัชรินทร์ หงษ์สิงห์ทอง ดีกรีดาวคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สาวสวยลูกอีสานแห่งเมืองอุดรฯ เจ้าของเฟสบุ๊ค meeniiamzz ที่ชีวิตต้องเปลี่ยนสถานะจาก แม่พิมพ์ กลายมาเป็น แม่ค้า (ออนไลน์) ที่กำลังมาแรงแบบชนิด สวย…รวย…ปัง ติดอันดับเบอร์ต้นๆ ของจังหวัดอุดรธานี แต่กว่าที่เธอจะมาถึงจุดนี้ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเธอต้องตัดสินใจค้นหาชีวิตของตัวเอง ว่าอยากเป็น คุณครู หรืออยากจะเป็นอะไรกันแน่น ด้วยการเริ่มลองเสี่ยงดวง ใช้เงินเก็บหมื่นกว่าบาท ผันตัวเองไปเป็นแม่ค้าขายของ ในช่วงที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย แต่การเป็นแม่ค้า บวกกับการเป็นนักศึกษา และพ่วงตำแหน่งดาวคณะฯ ที่คนทั้งมหาวิทยาลัยจดจำเธอได้ กลับทำให้เธอต้องเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งในช่วงที่ต้องไปเป็นคุณครูฝึกสอน เธอเกือบจะทำให้พ่อกับแม่ต้องเสียใจ เพราะเคยตัดสินใจไม่คิดจะเรียนต่อให้จบเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ
“เนียมเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านค่ะ ความหวังทุกอย่างก็อยู่ที่ตัวเนียมหมดเลย พ่อกับแม่หวังในตัวเนียมมาก อยากให้ชีวิตเราประสบความสำเร็จ เลยผลักดันให้มาเรียนครู เพื่อจะได้รับราชการ เนียมก็เลยเลือกเรียน คณะครุศาสตร์ เอกเคมี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จริงๆ ครอบครัวเราเป็นครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ร่ำรวย แต่ท่านสามารถส่งเสียให้เราได้เรียนตามปกติ เราขอเท่าไหร่ ก็ได้เท่านั้น อยากได้อะไร พ่อกับแม่ก็หามาให้ แต่เนียมก็เห็นพ่อกับแม่ลำบากทุกๆ ครั้งในการหาเงินมาให้เรา เนียมเลยคิดว่าเราต้องทำอะไรสักอย่าง โดยที่เนียมจะไม่ต้องขอเงินพ่อกับแม่อีกแล้ว และสามารถส่งเสียตัวเองเรียนได้ พร้อมๆ กับดูแลท่านทั้งสองคน
ตอนนั้นเนียมเริ่มขึ้นปี 2 ประมาณ 4 ปีที่แล้ว ช่วงนั้น Facebook มาแรงมากๆ ต่อจาก Hi5 เนียมกับเพื่อนอีกคนก็นอนคุยกันตามประสาเด็กหอ เออ! ...มาขายของในเน็ตกับกูไหม เห็นคนขายของในเน็ตเขารวยๆ กันทั้งนั้น แต่จะขายอะไรดี เราสองคน นอนคิดแล้ว คิดอีก และด้วยความที่เนียม กับเพื่อนเป็นคนรักสวยรักงามอยู่แล้ว เลยตัดสินใจเลือกขายครีม เนียมเลยเอาเงินเก็บที่มีอยู่ประมาณหมื่นกว่าบาทมาลงทุน ซึ่งก็เป็นเงินที่พ่อกับแม่ให้ไว้ใช้ยามฉุกเฉินจริงๆ แล้วพอได้มาขายของ ก็ขายดีมาก ขายผ่านเฟสบุ๊ค แพ็คของส่งไปไปรษณีย์เองจนมือด้านไปเลย ช่วงเวลานั้นเรียนไปด้วย ขายของไปด้วย มีความสุขมาก เพราะเนียมเห็นยอดเงินที่เข้ามาอยู่ตลอดเวลา บางวันไปเรียน เนียมจะแบกลังขึ้นไปบนตึกด้วย คนก็จะมองด้วยสายตาแปลกๆ กันทั้งตึก ด้วยความที่เนียมเป็น ดาวคณะฯ คนก็จะจำเราได้เยอะ ถามว่าเวลานั้นห่วงสวยไหม ไม่เลยค่ะ เดินหิ้วของ แบกของ พะรุงพะรัง เหมือนคนบ้าหอบฟาง แล้วที่เนียมต้องเอาของขึ้นตึกไปเรียนด้วย เพราะเราไม่มีรถยนต์ มีแต่มอเตอร์ไซด์ ก็ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน ถ้าฝนตกของก็เละ ของหายขึ้นมา ก็เรื่องใหญ่อีก ก็เลยต้องหอบของไปเรียนด้วยบ่อยมาก
แล้วเวลามีคนสั่งของเข้ามาเยอะๆ ด้วยความที่ยังไม่มีรถยนต์ใช้ เนียมก็ต้องสวมวิญญาณเป็นเด็กแว๊นมอเตอร์ไซด์ไปส่งของเอง แล้วต้องยกเอาลัง 3-4 ลังใหญ่ๆ ขึ้นมอเตอร์ไซด์ไปด้วย ฝนตก แดดออก เช้าแค่ไหน มืดแค่ไหน ก็ต้องไปส่งของ บางคนสั่งของชิ้นเดียว แล้วนัดไปส่งของไกลมาก เนียมก็แว๊นไปส่งของให้ถึงที่เลย ถือได้ว่าเป็นช่วงที่ทดสอบความอึด และความถึกของเนียมมาก ยิ่งช่วงเวลาหัวค่ำ เนียมต้องขับมอเตอร์ไซด์ไปส่งของ อยู่ๆ มีใครก็ไม่รู้ ขับมาประชิด มาแซวๆ อ้าว! จะไปไหนน้อง เราก็จะตกใจมาก ไม่กล้าหันไปดู ก็รีบบิดหนีเลยค่ะ แล้วยิ่งช่วงนั้นมีข่าวดังๆ ว่ามีคนโดนถีบมอเตอร์ไซด์ล้มแล้วโดนปล้น ก็ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ พ่อกับแม่ก็เป็นห่วงเรื่องนี้มาก เป็นแบบนี้อยู่ 5-6 เดือน สุดท้ายก็เลยเอาเงินเก็บที่ได้จากการขายของ มาดาวน์รถยนต์คันแรก แล้วก็เริ่มทำแบรนด์เป็นของตัวเอง และมีหน้าร้านเล็กๆ ในช่วงที่เรียนปี 4 โดยที่เนียมไม่ได้รบกวนเงินของพ่อกับแม่ตั้งเริ่มผันตัวมาขายของ
ชีวิตเนียมเป็นแบบนี้มาจนถึงปี 5 แล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่เนียมต้องออกไปฝึกสอน ช่วงนั้นยอมรับว่าเหนื่อยมาก ท้อมาก ในใจคิดว่าจะรอดไหมเนี่ย ต้องตื่นเช้ามากทุกวัน อยู่ในกฎเกณฑ์ ต่างๆ นาๆ เอาจริงๆ เมื่อก่อนชอบอาชีพครูนะค่ะ เลยมาเรียนเป็นครู ยังลังเลเลยว่าเป็นครู ก็ขายของได้ ทำควบคู่กันไปได้ แต่พอได้ฝึกสอนในสถานที่จริงๆ รู้เลยว่าอาชีพนี้ไม่เหมาะกับเนียม แต่เด็กๆ นักเรียนที่เนียมไปสอนทุกๆ คนน่ารักมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเนียมทำหน้าที่ของตัวเองได้ไม่เต็มที่ เพราะเราใจจดใจจ่อกับการทำธุรกิจของเรา ตอนนั้นฝึกสอนได้เทอมเดียว คิดว่าจะดร็อปแล้ว ไม่ไหวแล้ว แต่แม่บอกว่า อดทนไว้นะลูก เหลืออีกไม่กี่เดือน ก็จะจบแล้ว เนียมก็ฮึดขึ้นมาอีกครั้ง เพราะไม่อยากให้ใครมองว่า เราไม่อดทน มาดูถูกว่าเราเรียนไม่จบ เนียมอยากให้พ่อกับแม่ภูมิใจ และอยากใส่ชุดครุยรับปริญญาพร้อมกับเพื่อนๆ จนวันที่รอคอยก็มาถึง วันที่ฝึกสอนจบครบสองเทอม เนียมได้เกรด A ทั้งสองเทอม กรี๊ดลั่นบ้านเลยค่ะ เนียมจบด้วยเกรดเฉลี่ย 3.43 และจบพร้อมเพื่อนๆ ภายใน 5 ปี ตามหลักสูตร
เนียมบอกได้เลยว่าถ้าเราทำในสิ่งที่เรารัก เราตั้งใจ เราก็จะทำมันออกมาได้ดี บางอย่างเราต้องยอมรับ ว่าได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง อย่างอาชีพการเป็นครู เนียมก็รักนะคะ แต่เราไม่สามารถทำอะไรให้ดี ได้ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันได้ แต่ถึงยังไงแม่ค้าอย่างเนียม ก็มีดีกรีใบปริญญาวิชาชีพครูนะคะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนียมไม่ได้จะมาบอกว่าตัวเองเก่ง หรือดีกว่าใคร แต่เนียมโชคดีที่เจอโอกาสดีๆ แล้วรีบคว้ามันเอาไว้ แล้วทุกๆ อย่างล้วนมาจากความขยัน อดทน เพียรพยายามของเราทั้งนั้น ตอนนี้เนียมคิดว่าตัวเองประสบผลสำเร็จในระดับนึง มีบ้าน มีรถ มีอาคารพาณิชย์ มีที่ดิน มีที่นาทำกิน มีเงินเก็บในบัญชี เนียมไม่ได้มาอวดรวย แต่ชีวิตความเป็นอยู่ในตอนนี้ เนียมสามารถเลี้ยงผู้ที่ให้กำเนิด และคนครอบครัว ให้อยู่ได้อย่างสุขสบาย
คนเราทุกคนมีจุดเริ่มต้นด้วยกันทั้งนั้น และมีต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกัน เราอย่าไปคิดเรื่องที่มันบั่นทอนจิตใจตัวเอง ว่าทำไมเราถึงไม่มีอย่างเขา ทำไมเราทำไม่ได้อย่างเขา สิ่งที่เราทำได้ เขาอาจจะทำไม่ได้เช่นเดียวกัน ไม่มีใครเก่งไปซะทุกเรื่อง Nobody’s perfect ชีวิตคนเราถ้ามีความกตัญญู รู้คุณคน ขยัน ไม่มีวันอดตายแน่นอน จากเงินร้อยก็สามารถกลายเป็นเงินล้านได้ ถ้ามีความพยายาม แล้วโอกาสดีๆ ก็ไม่ได้มีมาหาเราบ่อยๆ ถ้าเราปล่อยไว้นานๆ มันก็จะหลุดลอยหายไปได้ มันจะน่าเสียดายเปล่าๆ ค่ะ”