ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก “พระราชสาส์นทองคำ” กษัตริย์พม่า
รูปภาพจาก : der-goldene-brief.gwlb.de
ยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนพระราชสาสน์ของกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรพม่าพระองค์หนึ่ง เป็นมรดกโลก สลักลงบนแผ่นทองคำแท้ 99.99% อายุเกือบ 260 ปี
พระราชสาส์นทองคำที่พระเจ้าอลองพญา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์อลองพญา ทรงมีถึงพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งบริเตนใหญ่ เมื่อเดือน ค.ศ.1756 ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในฐานะเอกสารสำคัญของโลก หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไล้ท์ออฟเมียนมาร์รายงาน
พระราชสาส์นทองคำ ทำขึ้นจากแผ่นทองคำแท้เกือบ 100% ยาว 55 ซม. หนา 12 ซม. ประดับด้วยทับทิมล้ำค่าอีก 24 เม็ด พับม้วนบรรจุลงในภาชนะทรงกระบอกมีฝาปิด ที่ทำจากงาช้าง
พระราชสาส์นถูกย้ายจากพิพิธภัณฑ์หลวงในฮาโนเวอร์ ไปเก็บในพิพิธภัณฑ์ของหอสมุดก็อดฟรีด วิลเฮม ไลบ์นิซ ในเมืองเดียวกัน มาเป็นเวลากว่า 50 ปีตั้งแต่ก่อตั้ง แต่ช่วงเวลา 250 ปี ไม่ได้มีผู้ใดให้ความสำคัญเนื่องจากไม่มีใครอ่านภาษาพม่าโบราณออก
กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้ให้การสนุบสนุนเงินทุนให้พิพิธภัณฑ์ฯ จัดทำพระราชสาส์นทองคำฉบับดิจิตอลสามมิติขึ้นมาเมื่อปี 2013 และทำออกมาเป็นหลายภาษา เก็บไว้ในเยอรมนี 1 ฉบับ อังกฤษ 1 ฉบับ และส่งไปยังพม่าเพื่อตั้งแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงเนปีดอ อีก 1 ฉบับ
นักวิชาการชาวฝรั่งเศสที่ศึกษาเรื่องนี้เมื่อปี 2009 ได้พบคำตอบว่า พระราชสาส์นของพระเจ้าอลองพญา นำไปยังกรุงลอนดอนโดยบริษัทอีสต์อินเดียของอังกฤษ เนื้อหาเป็นการเสนอเปิดสัมพันธไมตรีอย่างเป็นทางการ และทรงเสนอให้บริษัทของอังกฤษ ใช้ท่าเรือที่สร้างขึ้นที่เมืองพะ ริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี พระองค์ยังมีพระราชดำริพระราชทานที่ดินจำนวนหนึ่งสำหรับให้บริษัทนี้ ตั้งสถานีการค้าขึ้นในพม่า ขึ้นที่นั่นอีกด้วย