แด่รักแท้นิรันดร์!! เมื่อคุณตาบอกคุณยาย “.”ถ้าจะตายเราก็ขอตายพร้อมกัน ผมจะไม่ทิ้งเธอไปไหนจะดูแลเธอตลอดไป” วอนชาวเน็ตช่วยแชร์..ช่วยเหลือคุณตาด้วย
.เมื่อเมียของตาเป็นมะเร็ง คุณตาพูดว่า ….”ถ้าจะตายเราก็ขอตายพร้อมกัน ผมจะไม่ทิ้งเธอไปไหนจะดูแลเธอตลอดไป”
คุณตา บุญยัง ดีจำเนียร ชายชรา อายุ 75 ปี อาศัยอยู่กับภรรยา ที่แกเก็บมาเลี้ยงเมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดยแกตั้งชื่อภรรยาว่าจันทร์ ภรรยา พิการซ้ำซ้อน เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และ เป็นดาวซิมโดรม คุณตาเล่าว่า พบภรรยา เก็บเศษอาหารกิน และเธอนั่งร้องให้อยู่คนเดียว คุณตาเลยพามาอยู่ด้วยกัน คุณตาไม่รู้ว่า เธอเป็นใครมาจากไหน ตัวเธอเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ด้วยความเวทนา คุณตาจึงดูแลเธอและเลี้ยงดูเธอ ตั้งแต่นั้นมา
เนื่องจาก ไม่ทราบว่าภรรยา พื้นเพเป็นใคร มาจากไหน อีกทั้งภรรยาพิการ#คุณตาจึงไม่ได้พาภรรยาไปทำบัตรประชาชน และปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนบัดนี้
ส่วนตัวของคุณตาเอง ก็ไม่ได้ไปทำบัตรประชาชน ตั้งแต่บัตรหมดอายุไปตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว ทำให้คุณตา และ ภรรยา ไม่สามารถใช้สิทธิ์ในการรักษาได้ รวมทั้งไม่ได้รับเบี้ยคนพิการ และ คนชราด้วย …บางคนอาจคิดว่า มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆหรือ….คำตอบคือ …ใช่….หลายคนมีคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ เพราะความไม่รู้ และไม่มีคนแนะนำ
สภาพที่เราเห็น ภรรยาคุณตาคือ มีร่างกายซูบผอม ดูไร้เรี่ยวแรง น้ำมูกเลอะหน้าตาเหมือนเด็กๆ คุณตาต้องคอยพยุง ให้ภรรยาเกาะ เวลาเดินตลอด
เดิมที คุณตามีอาชีพ เก็บของเก่าขาย มีรายได้ วันละ 80-100 บาท พอได้ใช้จ่าย ประทังชีวิตกับภรรยาสองคน แต่เนื่องจากอายุที่มากขึ้น หัวเข่ามีอาการปวด ก้าวขาไม่ค่อยออก จึงไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม คุณตามีโรคประจำตัวคือความดันสูง บางครั้งมีอาการปวดท้องจนแทบทนไม่ไหว แต่คุณตาไม่ได้ไปหาหมอ เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน และไม่มีเงิน จึงได้ทนทรมานกับโรคภัยมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนอาหาร ที่นำมาประทังชีวิต คุณตาขอมาจากศาลเจ้า พอได้กินประทังความหิว กับภรรยา
บ้านที่คุณตาอยู่ มีสภาพทรุดโทรม แทบทุกส่วนผุพัง ไม่ได้รับการซ่อมแซม เนื่องจากฐานะยากจนมาก คุณตาไม่มีไฟฟ้า และ น้ำประปาใช้ ยามค่ำคืน คุณตา ใช้เทียนจุดเพื่อให้แสงสว่าง เมื่อจะอาบน้ำ ก็ใช้น้ำคลองอาบชำระร่างกาย (น้ำคลองสกปรกมาก) ส่วนห้องอาบน้ำไม่มี ที่กั้น และห้องน้ำมีเพียงโถนั่ง ที่ไกล้จะพัง บ้านหลังนี้ ปลูกมาหลายสิบปี บนที่คนอื่น ซึ่งตอนนี้ เจ้าของที่ ได้ฟ้องร้องขับไล่ ชาวชุมชนแถวนั้นให้ออกไป …เหตุการณ์นี้ ทำให้คุณตามีความทุกข์ใจ และนอนหลับไม่เคยเต็มตาเลยซักวัน หากโดนไล่ที่จริงๆ จะย้ายไปอยู่ที่ไหนเล่า หรือจะอาศัยนอนที่ศาลเจ้า เพราะไม่มีเงินค่าเช่าให้เขา
ความทุกข์ของคุณตา ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เนื่องจากนางจันทร์ ภรรยาของคุณตา ที่พิการ แทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เมื่อหลายปีก่อน เธอป่วยเป็นเนื้องอกในมดลูก อาการหนักมาก นอนทรมานเพราะไม่ได้รับการรักษา …จนประธานชุมชนสุขสำราญ สงสารและเวทนา จึงพาเธอไปรักษาโดยใช้สิทธิ์ผู้ป่วยฉุกเฉิน และใช้ตำแหน่งเป็นประกัน รักษา ผ่าตัดมดลูกที่ ร.พ ตากสิน ซึ่งตัดก้อนเนื้อออกไปได้ 6 กิโล แม้จะผ่าตัดเนื้องอกออกไปแล้ว แต่ ความโชคร้ายกลับซ้ำเติมเธอหนักเข้าไปอีก เพราะหมอตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็ง ปากมดลูก จึงทำเรื่องส่งตัวไปที่ ศิริราช
เพราะความยากจน เงินไม่มี ไม่มีบัตร ไม่มีสิทธิ์ในการรักษา การเดินทางลำบาก เธอจึงไม่ได้ไปรักษาอีก จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้
ตาบุญยัง แม้จะรักภรรยาแค่ไหน แต่แกไม่รู้จะแก้ปัญหาชีวิตที่รุมเร้ายังไง แกจึงพูดทั้งน้ำตาบอกเราว่า ผมไม่เอาเขาไปรักษา เพราะผมรู้ว่า เมียผมเป็นโรคมะเร็ง รักษายังไงก็คงตายอยู่ดี สายตาของตา มีความเจ็บปวดอยู่ข้างใน (เรารู้ว่าสิ่งที่ตาพูด ตาพูดเพียงเพื่อประชดชีวิต แต่ใจจริงแล้วตาอยากหาทางรักษาภรรยามาก แต่เพราะความจน จึงหมดหนทางช่วยเหลือ)
ตาบอกว่า ผมไม่มีเงินรักษา แม้แต่ค่ารถผมยังไม่มี ผมอายุเยอะแล้ว จะพาเขาไปไหนก็ลำบาก ผมเองก็เดินแทบไม่ไหว บางทีผมเห็นเขาปวดทรมาน ผมก็ได้แต่กุมมือเขาไว้ กอดเขาไว้ ..ถามเขา จันทร์ เป็นอะไร ทนเอานะ ทนเอา …มันแค้นใจจริงๆ….ที่ผมช่วยอะไรเขาไม่ได้ ผมสงสารเขาเหลือเกิน เกิดมาก็พิการ พ่อแม่ก็ไม่มี ยังต้องมาป่วยแบบนี้อีก …น้ำตาไหล สะอื้น
ตอนนี้ผมปวดหัวเข่า ปวดท้องมากทุกวัน ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ไม่กล้าไปตรวจ ไม่กล้าไปหาหมอ..ถ้าจะตาย ก็ขอตายด้วยกันทั้งสองคน ผมไม่อยากให้เค้าลำบาก ถ้าไม่มีผม เค้าจะอยู่ยังไง…..ใครจะดูแลเค้า ใครจะหาข้าวหาน้ำให้เค้ากิน…ร้องให้…
เราบอกคุณตาว่า…คุณตาคะ หนูจะช่วยตานะคะ…ตาสะอื้น ตะโกนออกมาด้วยความอัดอั้น และน้อยเนื้อต่ำใจว่า…มีคนมาหา บอกว่าจะช่วยเป็นสิบคน มาแล้วก็ไป ไม่เคยช่วยผมได้ซักคน…ไม่มีเลย ไม่มี….ร้องให้หนัก…และเดินไปทำใจ
เรารอจนคุณตา สงบสติอารมณ์ได้แล้ว จึงปรึกษา กับประธานชุมชนว่า จะพาคุณตาไปทำบัตรประชาชนใหม่ คุณตาจะได้มีสิทธิ์รักษา และได้เบี้ยคนชรา 700 บาทตามสิทธิ์ ส่วนภรรยาของคุณตา เราโทรสอบถาม กระทรวงสิทธิ์ฯ ได้รับคำแนะนำให้ หาคนหรือ ญาติพี่น้องมายืนยันตัวตน ภรรยาของคุณตา และแจ้งเกิดใหม่ นั่นคือทางออก ในการรับสิทธิ์รักษา และได้บัตรประชาชน และอาจได้เบี้ยคนพิการ 800 บาท มาบรรเทาความเดือดร้อน
#คุณตาจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น ความหวังครั้งสุดท้ายในชีวิต ชายชราวัย 75 ในการทำบัตรประชาชน เพื่อรับสิทธิ์ในการรักษา และรับเงินเบี้ยคนชรา เดือนละ 700 บาท จะเป็นจริงไหม นั่นคือสิ่งที่ ทุกคนต้องช่วยกัน
#ก่อนกลับ #เราคุกเข่าข้างๆคุณตา และมอบเงินให้คุณตา ไว้ใช้จำนวนหนึ่ง แต่คุณตา นั่งตัวแข็งไม่ยอมรับ เราจึงบอกคุณตาว่า คุณตาคะ รับไว้เถอะค่ะ หนูสัญญาว่า จะกลับมาช่วยตาให้ได้….
พอพูดเท่านั้นล่ะ คุณตาร้องให้เสียงดังเหมือนเด็กๆ…ด้วยความตื้นตันใจ ที่มีคนมาช่วย…เราเองก็ตื้นตันไม่ต่างจากคุณตา มันจุกที่คอหอย แบบอธิบายไม่ถูก หนูเข้าใจความรู้สึกคุณตาค่ะ…หนูจะทำตามที่หนูรับปากกับตาให้ได้ หนูสัญญา….
#ฝากแชร์ไปถึง ผู้รู้ และผู้มีจิตเมตตา ช่วยแนะนำ วิธีช่วยเหลือคุณตา และภรรยา เรื่องบัตร และ การรักษา ให้ด้วยเถอะค่ะ สงสารคุณตาเหลือเกิน
ขอบคุณที่มา Phechpanpee Coe