“คีอานู รีฟส์” กับ “คมความคิด”
ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศหยิบยก ข่าวของ “คีอานู รีฟส์” ขั้นมารายงานเป็นกระแสที่คึกโครม เนื่องจากการปรากฏตัวครั้งล่าสุดของเขาในวัยกว่า 50 ปี เข้าไปแล้ว แต่ความหล่อเหลาของเขาแทบจะคงเดิม
แฟนหนังชาวไทย จำนวนไม่น้อยที่ชื่นชมทั้งความรูปหล่อ และฝีมือการแสดงของนักแสดงรูปหล่อ รุ่นใหญ่คนนี้ ซึ่งเขาจุดพลุตัวเองให้กลายเป็นดาราดังระดับโลกด้วยภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ The Matrix เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน หนังเรื่องนี้ ทำรายได้ถล่มทลาย box office ที่ 463.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (16,222 ล้านบาท) และได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิง และได้รับรางวัล Academy Awards
Giphy
แต่ความเป็น “คนดัง” ที่มีจิตใจไม่ธรรมดาของ “คีอานู รีฟส์” ได้สร้างความประทับใจให้แก่ทุกคน เมื่อเขากลับบริจาคเงิน 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2,800ล้านบาท) จากรายได้ที่เขาได้รับ 114 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (3,990 ล้านบาท) ให้แก่ทีมงานเทคนิคพิเศษ และทีมงานช่างแต่งหน้า
และเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในฉากการถ่ายทำที่อยากจะรู้จักชื่อของทุกคน และอยากที่จะทักทายพวกเขาทุกคนอย่างจริงใจ และพูดคุยกับทุกคนตรงนั้นเหมือนกับทุกคนเป็นเพื่อนกับเขา แถมยังเคยควักเงินของตัวเองจ่ายค่าตัวให้ดาราคนอื่น เพื่อให้งบประมาณการสร้างหนังไม่บานปลาย ทำให้ทุกคนต่างบอกว่าเขาเป็นคนที่นิสัยดีที่สุดใน Hollywood
เขาบอกเสมอว่า เขาทำชีวิตของเขาให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขาสัมภาษณ์กับ Hello! Magazine ในปี 2003 ว่า เงินเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะนึกถึง เขามีความสุขกับการใช้ชีวิตกับสิ่งที่เขามีอยู่แล้ว
แม้ปัจจุบันคีอานู รีฟส์ จะมีค่าตัวในการแสดงมากกว่า 100 ล้านเหรียญ(3,500 ล้านบาท) ต่อเรื่อง แต่เขาเลือกที่จะเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเหมือนคนทั่ว ๆ ไป นั่นทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เข้าถึงได้ ติดดินอย่างแท้จริง นอกจากนั้น เขายังลุกให้ที่นั่งแก่ผู้หญิงอย่างทันทีขณะที่เขากำลังนั่งอยู่ในรถไฟใต้ดิน
ความใจดีของ คีอานู รีฟส์ ยังถูกพูดถึงเสมอในเหตุการณ์ เขาต้องดูแลน้องสาวของเขา Kim ที่พบว่าเธอเป็นลูคิเมีย ตลอดช่วงระยะเวลาดังกล่าว เขาได้บริจาคเงินจำนวนมากให้แก่องค์กรการกุศลด้านโรงมะเร็ง ศูนย์วิจัย และโรงพยาบาลหลายแห่ง เขายังได้จัดตั้งองค์กรการกุศลของเขาเอง แต่เลือกที่จะไม่ใช้ชื่อของเขาในการจัดตั้ง รวมถึงองค์กรการกุศลอื่น ๆ ที่เขาช่วยเหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็น Stand Up to Cancer และ Sick Kids
แต่ใครจะเชื่อว่า จิตใจอันยิ่งใหญ่ ของพระเอกคนดัง ที่วางตัวเรียบง่ายธรรมดาถึงเพียงนี้ ถูกบ่มเพาะจากจุดเริ่มต้นชีวิต และเส้นทางที่แสนเจ็บปวด โดยที่เขาไม่ได้คร่ำครวญให้ใครเห็น
พ่อของเขาทิ้งครอบครับไปตอนที่เขาอายุได้เพียงแค่สามขวบ ตัวเขาเองยังมีความผิดปกติในการอ่าน โรงเรียนจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับเขา เขาออกจากโรงเรียนด้วยการที่ไม่ได้ใบประกาศนียบัตร แต่ตอนนี้เขากลับเป็นนักอ่านตัวยง
เมื่อโตเป็นหนุ่มและเริ่มอาชีพนักแสดง เขาได้สนิทกับ River Phoenix ซึ่งเขาบอกว่า เพื่อนสนิทคนนี้ของเขาเป็นทั้งเพื่อน และนักแสดงที่นิสัยดี ทั้งคู่เข้ากันได้อย่างดี แต่ Phoenix เสียชีวิตหลังจากที่ใช้ยาเกินขนาดเมื่ออายุได้ 23
ต่อมาในปี 1998 เขาได้พบ Jennifer Syme และทั้งคู่ตกหลุมรักกัน ในปี 1999 เธอตั้งครรภ์ แต่เรื่องราวกลับเลวร้าย เมื่อลูกของพวกเขาคลอดออกมาเสียชีวิตในตอนที่เธอตั้งครรภ์ได้แปดเดือน ทั้งคู่ต้องแยกจากกันจากสาเหตุดังกล่าว แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้
เรื่องราวเลวร้ายไปมากกว่านั้น เมื่อ 18 เดือนหลังจากนั้น Syme เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเสียน้องสาวไปด้วยโรคลูคีเมีย เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ Parade Magazine ในปี 2006 ว่าความเศร้าโศกมันเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบสิ้น แต่มันก็คือบทเรียนที่เราต้องผ่านไปให้ได้ และสิ่งนี้จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม
แม้จะดูเหมือนว่าเขาผ่านสิ่งเหล่านี้มาด้วยตัวเขาเอง เขาก็ไม่ได้โทษเขากับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงตัวเขาเองด้วยที่เลือกที่จะไม่จมอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับกัน เขาพยายามที่จะมองโลกให้เป็นสถานที่ที่สวยงาม
เขาบอกว่าความหมายของชีวิต คือ การได้นอนอยู่บนเตียงกับคนรัก ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ใช้เวลากับเพื่อน คุยเรื่องราวต่าง ๆ เรียนรู้ โลก พื้นดิน ย้อนเรื่องราวในอดีตกับเพื่อนเก่า ครอบครัวด้วยไวน์ และอาหารดี ๆ และมีความสุขกับการใช้ชีวิต ชอบเวลาที่อยู่ในทะเลทราย ในธรรมชาติ อยู่ในพื้นที่พิเศษในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นขึ้นไปบนต้นไม้ หรือบน
WSJ
และนี่คือชีวิตหล่อๆ ของพระเอกรูปหล่อคนดัง ที่สามารถใช้เป็นตัวอย่างให้แก่พวกเราได้เป็นอย่างดี แชร์เรื่องนี้ให้เพื่อนคุณด้วยนะครับ
ดาราคนโปรดผมเลยครับ
ที่มา: Biography | Moviepilot