เจ้าหน้าที่แจงจำเป็นต้องเก็บเงินหนุ่มหน้าฝรั่ง เพราะสาเหตุนี้...!

5 ตุลาคม 2558 (14:27) โพสท์โดย แมน ๆ เตะบอลกัน

หลังเป็นประเด้นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล กรณีที่ มีหนุ่มหน้าฝรั่งนายหนึ่งได้โพสต์ข้อความสงในเฟชบุ๊ค อ้างตัวว่าเป็นคนไทยแต่กลับถูกปฎิบัติตัวเหมือนคนต่างชาติ โดยถูกเรียกเก็บค่าตัวเข้าชมสระมรกตที่กระบี่ ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า ! ระบุว่า

"ขอกด NO like! เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้ (3ตุลาคม2558)ไปเที่ยวสระมรกตที่กระบี่ ไปกับเพื่อน 3 คนแต่ละครั้งที่ผมไปเที่ยวสระมรกตก็จ่าย 20 บาท (ยี่สิบบาทถ้วน)
"พอครั้งนี้เมื่อถึงป้อมจ่ายตั๋ว เจ้าหน้าที่ชายบอกเพื่อนผมว่าคนละ 20 บาท ผมก็ชักแบ็งค์ 20 เหมือนกันแล้วเค้าบอกว่าไม่ได้ คุณต้องจ่าย 200 บาท ผมบอกว่าทุกครั้งที่ผมมาก็จ่าย 20 เอง เค้ามองหน้าแล้วบอก 200 บาท เพื่อนก็บอกว่าผมเป็นคนภูเก็ตด้วยกัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมจะเอาแต่ตังค์อย่างเดียว พวกเราเลยกลับเลย

"ขอถามว่าการทำแบบนี้เมื่อผมเป็นคนภูเก็ตพูดอ่านไทยได้ร้องเพลงชาติและสรรเสริญพระบารมีด้วย นี้มันต่างอะไรกับการเหยียดสีผิวสมัยโบราณครับถ้าใครรู้จักผู้ใหญ่ใจดีที่ดูแลการบริหารแถวนั้น ฝากแชร์ให้เค้าด้วยครับ สิ่งแบบนี้ที่จังหวัดผมซึ่งพัฒนาแล้วระดับต้นๆ ของประเทศก็ไม่เกิดครับ แล้วในที่ที่อยากพัฒนาตามสิ่งแบบนี้จะช่วยไหมละครับ ถ้าคุณเกิดโตและใช้ชีวิตแถวนี้ ทุกคนถือว่าคุณคือคนใต้ แม้จะติดเชื้อชาติอะไรมาบ้างครับ สุขสันต์วันเสาร์ แด่เพื่อนผู้อ่านทุกคนนะครับ"

ล่าสุด ได้มีคำชี้แจง จากผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ออกมาแล้ว โดยนายวุฒิพงษ์ ชูสังราช หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาประบางคราม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่มีผู้นำมาเผยแพร่ผ่านสังคมออนไลน์เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ซึ่งกลุ่มเจ้าของโพสต์ข้อความเดินทางมา 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง1 โดยหนึ่งในนั้นเป็นชายชาวต่างชาติ 1 คน เมื่อทั้ง 3 ไปที่ประตูทางเข้าซึ่งเป็นช่องเก็บค่าธรรมเนียมเจ้าหน้าที่ ก็เก็บค่าธรรมเนียมคนไทย 2 คนแรก 20 บาท ส่วนอีก 1 คน เก็บ 200 บาท เนื่องจากเห็นว่าเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พ.ศ.2545 ที่ระบุการจัดเก็บค่าธรรมเนียมชาวต่างชาติเป็น 10 เท่า ของคนไทย หรือ จำนวน 200 บาท ทำให้ทั้งสามคนเปลี่ยนใจ และเดินทางกลับทันที แต่ก็ไม่ได้มีการพูดอะไรรุนแรง กระทั่งมีการโพสต์ภาพและข้อความในภายหลัง

ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่เมืองไทยมานานแต่เขาก็เป็นคนต่างชาติ และยังไม่ได้สัญชาติไทย จึงต้องเก็บในอัตราชาวต่างชาติ ไม่มีข้อยกเว้น และขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบ ไม่ได้มีการเห็นแก่เงินตามที่มีการกล่าวหา"

ที่มา: http://tnews.teenee.com/etc/127546.html

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม