สวนเลนกันมาเป็นฝูง จนกลายเป็นยังกับทางวันเวย์ สุดท้ายติดแหงกไปไหนไม่ได้ทุกทาง
ปกติเวลาฝนตก รถมันก็จะติด แต่เมื่อวานนี้ผมขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านจุดนี้ ดูไปดูมาจริงๆแล้วที่รถมันติดอาจจะไม่ใช่เพราะฝนตกหรอก แต่เป็นเพราะนิสัยหรือสันดานในการขับขี่ของผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งหลายมากกว่า
ตรงนี้คือจุดตัดระหว่างถนนกำแพงเพชร 7 กับ ซ.พัฒนาการ 25 ซึ่งมีลักษณะเป็นสามแยก แต่ละเส้นเดินรถสองทาง ฝั่งละ 2 เลน เท่ากับทั้งหมด 4 เลนแบบหลวมๆ (อันนี้เป็นภาพจากกล้องหลัง กล้องหน้าไม่ได้ลงไว้เพราะว่ามีน้ำฝนเกาะหน้าเลนส์ดูไม่รู้เรื่อง)
สิ่งที่เจอเมื่อคืนคือรถติดแหงกหางแถวยาวสะสมขึ้นเรื่อยๆ แล้วพอไปถึงตรงจุดที่ติดก็พบว่าทางที่ควรจะเป็นช่องทางสำหรับรถวิ่งทางตรงของแต่ละฝั่งก็จะมีรถที่จะเลี้ยว ไม่ว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือขวามาใช้ช่องทางสำหรับเลี้ยว ทั้งๆที่ถ้าพวกนี้ไปต่อท้ายแถวช่องเลี้ยวของตัวเอง ทางตรงของเส้นกำแพงเพชร 7 นั้นไม่ได้ติดอะไรเลย แต่พอรถเลี้ยวมาวิ่งทางตรงและเลี้ยวไม่ได้ มันก็พลอยทำให้รถที่จะวิ่งตรงไปไม่ได้อีก
เท่านั้นยังไม่พอ ตรงจุดที่เป็นทางตัดกันที่เป็นเส้นเหลือง ก็ไม่มีใครยอมใคร ตัวเองเห็นข้างหน้าไปไม่ได้ แทนที่จะหยุดเพื่อไม่บังทางอีกฝั่ง ก็มาจอดทับเส้นเหลือง ทำให้สุดท้ายแล้วไม่มีฝั่งไหนไปได้เลย
เท่านั้นยังไม่พอ พอท้ายแถวแต่ละฝั่งเห็นข้างหน้าตัวเองสองเลนติดแหงก ถนนอีกฝั่งนึงมีพื้นที่เว้ยเฮ้ย ก็เปิดเลนมักง่ายสวนกันขึ้นมา สวนกันมาจนเต็มพื้นที่ แล้วยังไงล่ะ สวนมาแต่ก็ไปไหนไม่ได้ แล้วไอ้ข้างหลังเห็นข้างหน้าขึ้นมาก็ขึ้นมาตามๆกันอีก จนสุดท้ายยังกับถนนวันเวย์ นี่ดูในคลิปช่วงหลังๆ ยังกับว่าผมเป็นฝ่ายวิ่งสวนเลนเลยนะครับ ทั้งๆที่จริงๆไม่ใช่ ทางนี้วิ่งได้สองเลน แต่กลายเป็นว่ามีรถทางโน้นอัดสวนกันเข้ามาจนเต็มพื้นที่ไปหมด
ไอ้แบบนี้ต่อให้รถทางตรงฝั่งตรงข้ามมันรอจนรถเลี้ยวที่แซงมาเลี้ยวในฝั่งตัวเองไปได้ ก็ไม่สามารถไปต่อข้างหน้าได้อยู่ดีเพราะจะเจอกับกำแพงรถมักง่ายทั้งหลายอีกยาวเหยียด
สุดท้ายมันก็ติดขัดกันไปทุกทางกลายเป็น Dead Lock ตัวเองทำให้อีกฝั่งนึงไปไม่ได้ ในขณะเดียวกันตัวเองก็ไปไม่ได้เพราะอีกฝั่งนึงไปไม่ได้ไปด้วย ไม่มีใครไปได้
ผมผ่านจุดนี้ตอนทุ่มกว่าๆ ไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วสถานการณ์คลี่คลายยังไงและคลี่คลายตอนไหน แต่เห็นแล้วมันหดหู่จริงๆ คือถ้าเอาง่ายๆนะ ไม่เปิดเลนมักง่ายขึ้นมา เห็นข้างหน้าไปไม่ได้ก็หยุดก่อนทับเส้นเหลือง รถจะเลี้ยวก็วิ่งในช่องทางเลี้ยว ทำกันได้สามอย่างนี้ ต่อให้มันมีทางนึงติดไปไหนไม่ได้ มันก็ยังไม่ถึงกับว่าติดมันทุกทางแบบนี้
สุดท้ายแล้วปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯอย่าไปโทษนั่นโทษนี่ให้เสียเวลาเลยครับ มันมาจากนิสัยการขับขี่ของผู้ใช้รถทุกท่านที่ใช้ถนนร่วมกันนี่แหละ