Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เพาะเลี้ยงครั่งอาชีพถูกมองข้าม แมลงเศรษฐกิจที่เทวดาดูแลให้

โพสท์โดย กิตตินันท์
หากย้อนถึงวิถีชีวิตเกษตรกรชาว จ.ลำปาง โดยเฉพาะชาว อ.แม่ทะ ซึ่งมีพื้นที่การทำนา และปลูกต้นจามจุรี หรือฉำฉา ตามหัวไร่ปลายนา จะมีการเลี้ยงครั่งมายาวนาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี 
 
 
ระยะหลังมีเกษตรกรชาวนาบางรายถึงกับยกเลิกการทำนา และหันมาใช้พื้นที่นาปลูกต้นฉำฉาเพาะเลี้ยงครั่งในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากมีรายได้ดีกว่าทำนาหลายเท่า เพราะการเลี้ยงไม่ต้องลงทุน และไม่ต้องดูแล ปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เป็นอาชีพที่เทวดาดูแลให้ 
 
      แต่ขณะเดียวกันเกษตรไทยจำนวนไม่น้อยที่มองข้ามการเพาะเลี้ยงครั่ง แม้แต่ภาครัฐก็ยังไม่มีนักวิชาการหรือนักวิจัยคนไหนที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับครั่ง ราวกับว่าอาชีพการเลี้ยงครั่งเป็นอาชีพที่ถูกมองข้าม ทั้งที่ตลาดรับไม่อั้น ทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ 
 
      ข้อมูลจากสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ระบุว่า ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเพาะเลี้ยงครั่งมากที่สุดในโลก แซงหน้าประเทศอินเดียที่กำลังประสบปัญหากับภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะที่ จ.เชียงราย เพาะเลี้ยงครั่งมากที่สุด 
 
      สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรปีละไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท มากกว่ารายได้ที่มาจากการปลูกสตรอเบอร์รี่ใน จ.เชียงใหม่ 
 
      จึงทำให้มีผู้ประกอบการมาสร้างโรงงานแปรรูปครั่ง เพื่อนำไปใช้ในวงการอุตสาหกรรมทำเป็นเชลแล็กทาไม้ ทำสีสำหรับย้อมผ้าไหม ใช้เคลือบผิวอาหาร ช็อกโกแลต ผลิตภัณฑ์ยา ผิวผลไม้ ถนอมอาหาร และใช้ในวงการอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง มีถึง 5 โรงงานด้วยกัน สามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท 
 
      นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ระบุว่า อาชีพการเลี้ยงครั่งเป็นอาชีพเก่าแก่ของชาวลำปาง จะเห็นได้จากการเขาไปอยู่ลำปางมา 38 ปี เห็นเกษตรกรชาวลำปางปลูกต้นฉำฉา และจะเก็บครั้งไปขายทุกปี โดยมีโรงงานของเอกชนในพื้นที่ 5 แห่งรับซื้อไม่อั้นในราคา ก.ก.ละ 100-250 บาท ถือได้ว่าเป็นอาชีพสำคัญอีกอาชีพหนึ่ง 
 
     แต่น่าเสียดายที่อาชีพนี้ถูกลืมไปแล้ว ไม่มีนักวิชาการหรือนักวิจัยคนไหนทำการศึกษาเกี่ยวกับครั่ง และไม่มีหน่วยงานไหนแนะนำและส่งเสริมการเลี้ยงครั่งแต่อย่างใด 
 
     "ทางสภาเกษตรกรฯ เรามองว่า อาชีพการเลี้ยงเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีกว่าทำนา ควรยกระดับขึ้นมาให้มีความสำคัญมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะทราบมาว่าปีที่แล้วราคาครั่งในท้องตลาดสูงถึง ก.ก.ละ 250 บาท เกษตรกรที่เลี้ยงครั่งสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ 
 
     และที่สำคัญเป็นอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะการที่จะเลี้ยงครั่งต้องปลูกไม้ใหญ่ คือต้นฉำฉา สร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผิวโลก เวลาตัดกิ่งเก็บรังครั่ง สามารถขายกิ่งให้แก่โรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวลได้ ที่สำคัญต้นฉำฉาเป็นพืชตระกูลถั่วใบสามารถให้ไนโตรเจนให้แก่ดินด้วย" นายประพัฒน์ กล่าว 
 
      ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสภาเกษตรกรจังหวัดลำปางได้มีมติในการที่จะส่งเสริมเกษตรกรเพาะเลี้ยงครั่ง และได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจะได้นำเอาการเพาะเลี้ยงครั่งมาเป็นยุทธศาสตร์เพื่อจะส่งเสริมให้แก่พี่น้องชาวลำปาง พร้อมกันนี้จะผลักดันให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อจัดตั้งศูนย์วิจัยครั่งที่ลำปางต่อไป 
 
      ด้านนายทองดี อินนันชัย อดีตกำนัน ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง กล่าวว่า เดิมชาวลำปางเก็บครั่งบนต้นฉำฉาเป็นอาชีพเสริม ที่ชาวบ้านไปเก็บตามต้นฉำฉาที่อยู่ตามหัวไร่ปลายนา ระยะหลังตลาดต้องการมากขึ้น ทำให้เกษตรกรบางรายถึงกับใช้พื้นที่นาข้าวมาปลูกต้นฉำฉาเพื่อเลี้ยงครั่งเป็นอาชีพหลัก มีการปลูกต้นฉำฉาเพื่อเพาะเลี้ยงครั่งเชิงพาณิชย์อย่างแพร่หลาย จนปัจจุบันในพื้นที่ จ.ลำปาง มีการผลิตครั่งถึง 90% ของการผลิตครั่งทั่วประเทศ 
 
      ขณะที่ นายจำนงค์ แปงสาย เกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมจากสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง และสำนักงานเกษตรอำเภอแม่ทะ เลี้ยงครั่งภายใต้โครงการยกระดับและติดอาวุธทางปัญญาส่งเสริมอาชีพจังหวัดลำปาง ที่บ้านบ้านแม่ปุง ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง บอกว่า เดิมที่มีอาชีพทำนาปลูกข้าวปีละ 1 ครั้ง ในระหว่างนั้นมีต้นฉำฉาที่หัวไร่ปลายนาหลายต้น พอถึงปลายปีก็ตัดกิ่งเอารังครั่งขายตั้งราคา กก.ละ 80 บาท ตอนหลังราคาข้าวตกต่ำ เมื่อคำนวณกับรายได้ของต่อต้นฉำฉา 1 ต้น มองว่ามีรายได้ดีกว่าขายข้าว จึงตัดสินเอาที่ปลูกนาแปลงแรก 9 ไร่ และแปลงที่อีก 4 ไร่ ปลูกต้นฉำฉา พออายุได้ 3 ปี ก็ปล่อยครั่ง 
 
     ผ่านไป 1 ปีก็เก็บได้แล้ว มีพ่อค้าซื้อเหมาเป็นต้น ในราคาตั้งแต่ต้นละ 5,000-10,000 บาท อย่างปีที่แล้วราคาดีมาก กก.ละ 250 บาท เก็บขาย 25 ต้น ได้เงินมา 1.8 แสนบาท 
 
     "แม้ตอนนี้รัฐบาลรับจำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาท สู้เลี้ยงครั่งไม่ได้ เพราะทำนาต้องลงทุนไร่เกือบหมื่นบาท กำไรไม่กี่บาท ถ้าเลี้ยงครั่ง 1 ไร่ 15 ต้นเก็บขายได้เป็นแสนแล้ว ที่สำคัญครั่งไม่ต้องทำอะไรเลย 
 
     เพียงเอารังครั่งไปแขวนตามกิ่งฉำฉา ปล่อยครั่งจะขยายเอง พื้นที่ 1 ไร่ปลูกได้ 12-18 ต้น ปุ๋ยต้นฉำฉาใส่ เพราะใบเป็นปุ๋ยอยู่แล้ว ไม่ต้องรดน้ำ ใบฉำฉาจะขายก็ได้ราคา กก.ละ 3-4 บาท กิ่งขายให้โรงไฟฟ้าชีวมวล พอต้นแก่นำมาแกะสลัก ทำเฟอร์นิเจอร์ หรือขายต้นแก่ต้นละเกือบหมื่นบาท ทุกอย่างได้เงินหมด" จำนงค์ กล่าวอย่างมั่นใจ 
 
 
 
  ครั่งเป็นแมลงชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Laccifer lacca kerr จัดอยู่ในประเภทเป็นเพลี้ยชนิดหนึ่ง การเจริญเติบโตจากไข่เป็น ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ลักษณะสีแดงตัวเล็กมาก โดยครั่งตัวเมียจะวางไข่ในช่องว่างภายในเซลล์ มีอายุในสภาพไข่ประมาณ 8-20 นาที ไข่นั้นจะถูกฟักเป็นตัวอ่อนหรือเป็นลูกครั่ง ลูกจะคลานออกมาทางช่องสืบพันธุ์ โดยตัวอ่อนหรือลูกครั่ง จะไม่สามารถแยกเพศผู้หรือเพศเมียได้ 
 
      ลูกครั่งจะหาที่ยึดเกาะบนกิ่งไม้ แล้วดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นไม้เป็นอาหาร โดยไม่เคลื่อนย้ายที่อยู่อีกต่อไป แต่จะเกาะเรียงตัวกันประมาณ 220 ตัวในพื้นที่ 1 ตร.ซม. จากนั้นจะขับสารเหนียวออกมาห่อหุ้มตัว และลอกคราบหลายครั้งเจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นครั่งตัวผู้และครั่งตัวเมียเกาะจับกิ่งไม้ 
 
      ประโยชน์ที่ได้รับจากครั่ง คือ ครั่งจะขับสารชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นเหมือนยางหรือชันออกมาไว้ป้องกันตัวเองจากศัตรู การที่ขับถ่ายออกมานี้เรียกว่า ครั่งดิบ สารเป็นสีแดงม่วง ลักษณะคล้ายขี้ผึ้งสีเหลืองแก่ หรือยางสีส้ม ที่มีคุณสมบัติเป็นสมุนไพร เป็นยารักษาโรคโลหิตจาง, โรคลมขัดข้อ นอกจากนี้ยังนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการทำเชลแล็ก แลกเกอร์, เครื่องใช้ เครื่องประดับต่างๆ ย้อมสีผ้า สีโลหะ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น  
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
กิตตินันท์'s profile


โพสท์โดย: กิตตินันท์
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
60 VOTES (4/5 จาก 15 คน)
VOTED: บังไค, Chawap, ginger bread, A Survive, MoreFuture, ซาอิ, Thorsten, เอ๋ง ไม่ดัดจริต, กุ้งฝอย, kraitong
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"หมอเปตอง" lปลือยหุ่นเดินหน้าสู่เวทีอวดอ้าความ (กล้าม) ใหญ่ !!นักการเมืองเยอรมันชวนร่วมทริปlซ็กส์หมู่..หวังกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นข้อมูลจากชาวกัมพูชาเผย 37 เมืองในประเทศไทย เคยเป็นดินแดนของอาณาจักรเขมรโบราณ – มีชื่อเมืองไทยสำคัญอย่างอยุธยา สุโขทัย พิษณุโลก รวมอยู่ด้วยคลิปหลุดกลางกรุง! แก๊งชายรักชายโชว์รักเอ้าดอร์ที่ย่านมักกะสัน ท่ามกลางสายตานักวิ่งรวมภาพตลก มีมฮาๆ และข้อคิดประจำวันนี้ 12/06/68 จ้ากัมพูชาประกาศยุติการนำเข้าอินเทอร์เน็ตจากไทย มีผลตั้งแต่ 13 มิ.ย. 2568'Necronomicon' สารานุกรมวิปลาส และรายชื่อเทพปีศาจบรรพกาลวลีดัง "ส้มหยุด" รันทด!! แม่สิตางศุ์ บัวทอง ไม่เหลือใคร บ้านไม่มี ต้องไปอยู่วัด กินข้าววัดประทังชีวิต...ข่าว เครื่องบินตกกลางอินเดีย Flight AI171 ผู้โดยสาร 242 คน คาดไม่มีผู้รอดชีวิต4 เหตุผล ทำไมนายกห้ามซื้อหวยจังหวัดยอดฮิต น่าอยู่หลังเกษียณ ปลอดภัยจากน้ำท่วม คนแห่ซื้อที่ดินกันแล้ว"ฮุนเซน" โต้กลับ "ไทย" จี้ ปชช.แบนละครไทย..ให้งดออกอากาศในกัมพูชา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ฮุนเซน" โต้กลับ "ไทย" จี้ ปชช.แบนละครไทย..ให้งดออกอากาศในกัมพูชากัมพูชาประกาศยุติการนำเข้าอินเทอร์เน็ตจากไทย มีผลตั้งแต่ 13 มิ.ย. 2568ทาโกะยากิไร้ปลาหมึก! ร้านอาหารญี่ปุ่นอายุกว่า 50 ปี ทนต้นทุนวัตถุดิบไม่ไหว หันมาขาย “ไส้กรอกยากิ” แทน"หมอเปตอง" lปลือยหุ่นเดินหน้าสู่เวทีอวดอ้าความ (กล้าม) ใหญ่ !!"คดีปราบผีที่โหดที่สุดของเยอรมัน" จากบันทึกของศิษยาภิบาล
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ การค้นพบสุสานไบแซนไทน์โบราณในซีเรียกัมพูชาประกาศไม่ง้อไทย!! เลิกซื้อไฟ–อินเทอร์เน็ตจากไทย แถมแบนหนังไทยอีกต่างหากทาโกะยากิไร้ปลาหมึก! ร้านอาหารญี่ปุ่นอายุกว่า 50 ปี ทนต้นทุนวัตถุดิบไม่ไหว หันมาขาย “ไส้กรอกยากิ” แทนชายจีนวัย 35 ปี ใช้ชีวิตสันโดษในถ้ำกว่า 4 ปี ลั่นการทำงานและการแต่งงาน “ไร้ความหมาย
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง