เรื่องน่ารู้! ก่อนลาออกจากงาน ไปทำธุรกิจส่วนตัว มนุษย์เงินเดือนควรรู้
เป้าหมายในชีวิตของมนุษย์เงินเดือนหลายคนคือต้องการจะหลุดพ้นจากวงจรเช้าทำงาน เย็นกลับบ้าน ลันลาวันเย็นศุกร์ เสาร์-อาทิตย์นอนทั้งวัน ด้วยหวังที่จะออกไปทำธุรกิจส่วนตัว โดยที่ไม่รู้ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าไอ้ธุรกิจที่จะไปทำนี้ดี มีอนาคตแค่ไหน มองเห็นแต่ข้อดีที่ว่าไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร ไม่ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานเย็นกลับบ้านแบบหมดพลัง
แล้วสิ่งที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ออกไปทำส่วนมากก็คงหนีไม่พ้นเป็นร้านต่างๆนาๆเหมือนที่ใครต่อใครทำกันไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย พอรู้ตัวอีกทีก็มีแต่ร้านเหล่านี้อยู่เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด บางร้านก็รุ่ง บางร้านก็ร่วง ถ้าอายุยังน้อยก็สามารถที่จะกลับเข้าสู่วงการมนุษย์เงินเดือนได้อีกครั้ง แต่ถ้าอายุมากแล้วความเสี่ยงก็สุงตามไปด้วย ต้องคิดให้เยอะไหนจะค่าเทอมลูก ไหนจะค่ากินค่าใช้ต่างๆก็จะตามมาด้วยหนี้สินรุงรังมาดูกันว่า ธุรกิจที่เป็นที่นิยมของปีนี้กัน
1. เปิดร้านค้าออนไลน์ ขายของในอินเตอร์เน็ต ตลาดใหญ่ที่มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางที่สะดวก ซื้อง่าย ขายคล่อง ซึ่งต้องเป็นของใช้ที่ตีตลาด เป็นที่ต้องการ แต่ก็ต้องแข่งขันกับผู้ขายมากรายที่นำกลยุทธ์ด้านการโฆษณาบนสื่อออนไลน์มาเรียกลูกค้า เหล่านี้ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องเฝ้าร้าน หากสินค้าติดตลาด โฆษณาดี แหวกแนว ก็อยู่รอดได้ไม่ยาก
2. เปิดร้าน กาแฟ ร้านเหล้า ร้านอาหาร ร้านไอศครีม ร้านเบเกอรี่การเปิดร้านค้า ต้องมีกลยุทธ์ทางการตลาด รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง อย่างที่เราได้ยินมาในวิชาการตลาด สิ่งเหล่านี้ต้องนำมาใช้ ทั้งการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า ทำเล ช่องทางการค้าขาย ศึกษาคู่แข่ง ราคาสินค้า จุดเด่นสินค้า และการทำโปรโมชั่น แต่ที่สำคัญต้องมีความรู้ในตัวสินค้านั้นจริงๆ ส่วนใหญ่ร้านที่ประสบผลสำเร็จ ก็มักจะได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้ากันแบบปากต่อปาก โดยเฉพาะโลกออนไลน์ หากร้านไหนติดตลาด ก็มีโอกาสเฮง และ รวย ได้
3. ร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ร้านถ่ายเอกสาร ร้านเกมส์ ร้านคอมพิวเตอร์ ต้องยอมรับว่า ธุรกิจเหล่านี้ ใช้เงินลงทุนสูง และต้องทำใจเช่นกันว่า กว่าจะได้รับเงินทุนกลับมานั้นก็เหนื่อยพอตัว เพราะค่ากำไรจากการถ่ายเอกสารนั้นน้อยนิด ไม่คุ้มค่าเหนื่อย ต้องเปิดบริการเสริม เคลือบบัตร เข้าเล่ม ซึ่งก็ต้องใช้อุปกรณ์ และบุคลากรเพิ่ม คำนวณให้ดีว่า ทำแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ ขณะที่ร้านคอมฯที่เปิดส่วนใหญ่ ก็แข่งขันในเรื่องชั่วโมงบริการ 10 บาท 20 บาท กำไรอาจจะไม่พอใช้สำหรับค่าบำรุงรักษา ซ่อมคอมฯตัวที่เสีย ก็เป็นได้
4. ขายของเฉพาะอย่าง ที่มีคู่แข่งน้อยราย แต่เป็นที่ต้องการของตลาด กรณีนี้มีโอกาสสูงที่จะประสบผลสำเร็จ เพราะมีคู่แข่งน้อยราย หากสินค้าดี มีคุณภาพย่อมเป็นที่ต้องการ ยกตัวอย่างกรณี หนุ่มหนุ่มบุรีรัมย์ จบป.ตรี สมัครงานได้เงินเดือน 7 พัน หันมาขายหมูปิ้ง ข้าวจี่ปลาร้าบอง อาหารพื้นบ้าน ด้วยสูตรเฉพาะที่คิดขึ้นเอง ใครจะเชื่อว่าทำแล้วรุ่ง ยิ่งในช่วงหน้าหนาว รายได้งาม เฉลี่ยวันละ 8,000–10,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าใครจะหาจังหวะโอกาสที่เหมาะสมได้ก่อนกัน
ส่วนธุรกิจมาแรงของปีนี้ และปีหน้าที่คาดว่าจะมีอนาคตในอีกหลายปีได้แก่
ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม
ธุรกิจเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว
ธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสาร
ธุรกิจการศึกษา และธุรกิจท่องเที่ยว
ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต
ธุรกิจเครื่องดื่ม
ธุรกิจถุงมือยาง ถุงมือตรวจโรค และธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง
ธุรกิจสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (แนวดิ่ง) และธุรกิจร้านกาแฟ
ธุรกิจประมงน้ำจืดและธุรกิจจำหน่ายบิ๊กไบค์
ธุรกิจดาวร่วงในปีหน้า ใครที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจเหล่านี้ควรจะคิดให้ดีก่อนเพราะธุรกิจเหล่านี้จะซบเซามากๆในปีหน้า
ธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์
ธุรกิจหัตถกรรมทั่วไป
ผักผลไม้อบแห้ง
สิ่งทอผ้าผืน (งานไม่เน้นฝีมือ)
ร้านค้าดั้งเดิม (โชว์ห่วย)
ยางพารา
โทรทัศน์สีรุ่นธรรมดา (จอตู้)
ข้าว
ส้วมนั่งยอง
รถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์)
การออกไปทำธุรกิจส่วนตัวเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ทำเองได้เอง ทำเท่าไหรได้เท่านั้น แต่มันก็มีข้อเสียที่ต้องคิดให้ดี คือต้นทุนที่ไม่ใช่แค่ลงทนแต่หมายถึงการที่จะสามารถอดทนต่อสภาวะขาดทุนได้นานแค่ไหน(สายป่าน) และอีกหลายๆปัญหาที่ประดังเข้ามานั่นหมายความว่าคุณต้องเป็นคนแก้ปัญหาเองด้วยเหมือนกัน เพราะฉนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจอะไรขอให้คุณเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในระหว่างที่เป็นมนุษย์เงินเดือนให้มากที่สุดไม่ได้หมายความว่านานที่สุดนะ และก้าวออกไปทำอย่างมั่นใจ
** ฝากกด Follow และกด Vote ให้กำลังใจแก่ จขกท. ด้วยนะครับ