ทำไม กฟผ. จึงเสนอโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ มาดูครับ
หลายคนคงสงสัยว่าทำไม กฟผ. ถึงต้องมาสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ที่จังหวัดกระบี่ เพราะกระบี่ มีโรงไฟฟ้าตั้งอยู่แต่เดิมแล้วครับ
อีกอย่างเพราะเป็นกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ฝั่งอันดามัน ด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยวนี่แหละ
ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูงมากขึ้นทุกปี แต่ถึงยังไงก็ต้องพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากภาคกลางผ่านสายเชื่อมโยงภาคกลาง-ภาคใต้อยู่ดี
อีกอย่าง โรงไฟฟ้าเก่าดั่งเดิม ใช้น้ำมันเตากำลังผลิต 315 เมกะวัตต์ และใช้เส้นทางเดินเรือขนส่งถ่านหิน
เส้นทางเดียวกันและกินน้ำลึกเท่ากับเรือน้ำมันเตาในปัจจุบัน โดยไม่ต้องขุดลอกร่องน้ำ อืมตรงนี้น่าสนใจของเก่าใช้นานแล้วด้วยนะ
ดังนั้นถ้าคิดดีๆ มันก็ไม่น่าจะสร้างผลกระทบต่อการใช้พื้นที่ของโรงไฟฟ้าและการขนส่งถ่านหินจริงไหมครับ เพราะทุกอย่างอยู่บนพื้นที่เดิมทั้งสิ้น
- อีกอย่างคือโรงไฟฟ้าในภาคใต้ที่มีทั้งหมดในปัจจุบัน ผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้นะครับ เท่าที่ผมรู้ ตอนนี้ กฟผ.
ยังต้องการสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้แห่งอื่นๆ เช่น โรงไฟฟ้าเทพา รวมทั้งสนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเต็มตามศักยภาพ
เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้เพียงพอในพื้นที่และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
หลายคนอาจจะถามแล้วถ้าไม่สร้างละ .....ก็ถ้าไม่สร้างก็ต้องมาเอาจากภาคกลางลงไปไงครับ และแน่นอนภากกลางเองก็
ใช้เองก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว ถ้ายังต้องส่งไปให้ภาคใต้อีก มีหวังไฟได้ดับกันค่อนประเทศ(ผมพูดในกรณีที่ไม่ต้องซื้อไฟฟ้าในต่างประเทศนะครับ)
อธิบายมาแค่นี้พอจะเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยครับว่า ที่ต้องสร้างก็เพื่อ ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในภาคใต้เท่านั้น ไฟฟ้าที่ได้จากโรงไฟฟ้าทุกโรง
รวมทั้งโรงไฟฟ้ากระบี่ จะเชื่อมต่อเข้าระบบไฟฟ้าที่สถานีไฟฟ้าแรงสูง เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังความต้องการใช้ไฟฟ้าในระบบ
ส่วนหลายๆคนที่กังวลเรื่อง ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เลยไม่อยากให้สร้าง มาดูนี้ครับ
จากข้อเท็จจริงในปัจจุบัน โรงไฟฟ้าถ่านหินไม่ได้ส่งผลกระทบการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับเมืองและประเทศท่องเที่ยวของโลก
ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเช่นกัน ซึ่ง กฟผ. ได้นำสื่อมวลชน และชุมชนไปดูงานโรงไฟฟ้าถ่านหินหลายครั้ง
ทั้งที่มีสถานที่ตั้งอยู่ในเมืองสำคัญๆ อุทยานแห่งชาติทางทะเล และชุมชน ทั้งที่ ญี่ปุ่น เยอรมนี มาเลเซีย เกาหลีใต้ ฯลฯ ซึ่งได้ประจักษ์ว่า
โรงไฟฟ้าสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและไม่สร้างผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยที่ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
ก็เนี้ยแหละครับ ผมว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็พัฒนาไปไกลมากๆ ประวัติศาสตย์ และประสบการณ์ทำให้เราเรียนรู้ครับ คุณคิดว่า
เค้าจะทำให้ประวัติศาสตย์ หรือสิ่งที่เคยพลาดซ้ำลอยเหรอครับผมว่าไม่นะ แต่ถ้าเรายังกลัว เราไม่ยอมก้าวออกจาก ตรงนั้น
เราก็คงย้ำอยู่กับที่จริงไหมครับ อีกอย่างการคิดค้นอะไรที่จะทำให้การผลิตไฟฟ้าไม่เป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อมและ
ที่สำคัญการท่องเที่ยวก็ต้องใช้ไฟฟ้ามาก อย่างที่สมุยไฟดับคราวนั้น วุ่นวายกันทั้งเมือง พวกคุณอาจจะไม่รู้ แต่เชื่อผมเถอะโครตวุ่นวายเลย
อยู่ตรงนั้นนะวันนั้นพอดี อีกอย่างผมหวังว่าสิ่งที่ผมหาข้อมูลมามันน่าจะพอมีประโยชน์บ้างลองเปิดใจและทำความเข้าใจดูนะครับ
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/EGAT.PRD?fref=ts