ทฤษฎีการรู้จักกัน
ทฤษฎีการรู้จักกัน
ฉันเชื่อในทฤษฎีการรู้จักกัน ที่ฉันเชื่อมาตลอด
การที่เราจะรู้จักใครซักคน มันเป็นเรื่องยาก ยากมากจริงๆ
มันเป็นอะไรที่เราไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมเราถึงรู้จักคนๆนี้
มันเป็นเรื่องของอะไรก็ไม่รู้ ที่มีคนเรียกว่า "พรหมลิขิต"
แต่ฉันไม่ชอบคำนั้น ฉันว่ามันเป็น "ทฤษฎีการรู้จักกัน"
เป็นชื่อทฤษฎีที่ฉันคิดของฉันขึ้นมาเอง
ไม่รู้หรอก ว่าทฤษฎีมันเป็นยังไง คิดขึ้นมาเอง ดูเป็นคำพูดเก๋ๆ
แต่เชื่อมันอย่างสุดจิตสุดใจ
อย่างที่ Quote ไว้ข้างต้น
การที่เราได้รู้จักใครซักคน
มันยากนะ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ไม่ต้องอะไรมากหรอก แค่รู้จักชื่อนี่แหละ
เอาแค่ในประเทศไทย 62-63 ล้านคนเนี่ย
ไม่อะ แค่ในกรุงเทพก็พอ 6-8 ล้านคน
ให้ตายเถอะ มันเป็นจำนวนที่เยอะอยู่นาาาา
สงสัยมั้ยล่ะ ที่จู่ๆก็มารู้จักกันได้ โดยสถาบันที่เรียกว่า โรงเรียน หรือ มหาลัย
ก็ยังไม่แปลก แต่ที่แปลกกว่านั้นคือ ทำไมเรารู้จักไม่ทั้งหมดในนั้น
ทั้งๆที่เราอยู่สถาบันเดียวกัน
เราอาจเคยนั่งดูหนังข้างๆใครที่เรารู้จัก แต่ตอนนั้นเรายังไม่รู้จักกันมาก่อนก็ได้
เราอาจเคยยิ้มให้กัน อาจเคยเดินสวนกันมาก่อนก็ได
มันยากแค่ไหนกับการที่ได้รู้จักกับคนๆหนึ่ง
มันดีมากแค่ไหนที่เราได้รู้จักกัน
บางคนเรียกมันว่า "ชะตาฟ้าลิขิต" "พรหมลิขิต" หรืออะไรก็ตามแต่เหล่านี้
แต่สำหรับเรา มันคือ ทฤษฎีการรู้จักกัน
อย่างน้อย ถ้าพรุ่งนี้เราไปเจอกันข้างนอก เีราก็ยิ้มให้คุณได้
อย่างน้อย เราก็ไม่ต้องปล่อยใ้หคนอีกคนเดินสวนกันท่ามกลางโลกใบนี
อย่างน้อย ครั้งหนึ่งเราก็เคยพูดคุยกัน จับมือแบ่งปันความอบอุ่น
ยากแค่ไหน กับการที่คุณจะได้รู้จักใครสักคน
อย่าเลย อย่าพยายามที่จะลืมคนรู้จักของคุณ
อย่าโกรธกันเลย อย่าพยายามที่จะตัดเค้าออกไปจากชีวิตคุณ
นี่เป็นอีกสาเหตุที่จะบอกตัวเองไม่ให้โกรธใคร ไม่ให้เกลียดใคร...
แค่การรู้จักกันก็ยากมากแล้วจริงๆ
อย่าให้เวลาแค่ไม่กี่นาที ความโกรธเล็กๆของคุณ
ทำลายสิ่งที่สร้างขึ้นมาด้วยกันอย่างยากลำบาก
ถึงวันนี้... สำหรับบางคนที่รู้จักอาจจะต้องแยกทางเดินกันต่อไป
ก็ไม่มีใครรู้อีกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
เราอาจจะได้เดินสวนกันอีกครั้ง...
อาจจะหยุดเพื่อพบกัน เพื่อทักทาย...
อาจจะแค่ยิ้ม แล้วเดินผ่านไป...
หรืออาจจะหยุด และเดินไปเส้นทางใหม่พร้อมๆกัน...
ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดใน "ทฤษฎีแห่งการรู้จักกัน"
ไม่มีบทสรุป และคำตอบที่แน่นอนสำหรับทฤษฎีนี้ในชีวิตของฉัน และแน่นอนของคุณเหมือนกัน
ใครจะรู้?
อย่าปล่อยให้เมืองนี้เป็นเมืองเหงาๆ ที่มีเพียงคนเดินสวนกันไปกันมา
ทำเมืองของคุณให้มีชีวิต ยิ้มให้กับคนที่เดินผ่าน
เพราะคุณไม่มีโอกาสรู้เลยว่า วันข้างหน้าเขาเหล่านั้นจะได้เป็นคนรู้จักของคุณหรือเปล่า
ไม่มีใครรู้อนาคต ไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าเขาอาจกลายเป็นคนสำคัญในชีวิตของคุณ
ขอบคุณที่เราได้รู้จักกัน
ขอบคุณที่ทำให้เราได้จากกัน
ขอบคุณที่ทำให้เราพบกัน
ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทฤษฎีของมันเถอะ...
ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เราไ้ด้รู้จักกัน
|