วิธีการหลุดพ้นวัฏจักรเดือนชนเดือน
จริงๆ แล้วการเป็นสาวออฟฟิศก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องติดอยู่ในวัฏจักรของมนุษย์เงินเดือนเสมอไป
บทความนี้เรามาดูกันว่า “การบริหารเงินเดือน” ให้หลุดจากวัฏจักรการใช้เงินแบบเดือนชนเดือน มีเงินเก็บสะสม มีเงินออม ไม่ให้การเงินของเราเป็นพิษจะทำได้อย่างไรบ้าง
สิ่งสำคัญ คือ เราเริ่มต้นสักที่ใดที่หนึ่ง เริ่มต้นเดือนใหม่ พอเงินเดือนเข้าก็หาสมุดเล่มเล็กๆ มาจดบันทึกรายรับ - รายจ่าย เพื่อเป็นการฝึกวินัยในการใช้เงินของตัวเอง คนส่วนใหญ่ใช้เงินเยอะ เสียเงินไปมากกับการที่เราไม่ได้ตรวจดูควบคุมการใช้จ่ายของตัวเอง หากเราทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย เมื่อรวมรายสัปดาห์ รายเดือนเราจะเห็นว่าเราใช้เงินสิ้นเปลืองไปกับอะไรบ้าง และสามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนไหนลงได้บ้าง มีอะไรที่สมควร และไม่สมควรจ่าย พอเรารู้แล้ว ต่อไปก็สามารถหักห้ามใจ ตัดทิ้งแล้วนำเงินที่เหลือไปเก็บออมต่อไปได้นั่นเอง
วิธีนี้อาจจะดูเด็กๆ ล้าสมัย น่าเบื่อ แต่การออมแบบง่ายๆ นี้สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของรากฐานการออมเงินที่ดีของเราได้ ไม่ว่าเราจะมีเงินเหลือเท่าไหร่ ก็นำมาหยอดลงกระปุกได้ทันที เคล็ดลับง่ายๆ คือ อย่าซื้อกระปุกใบเดียว ให้ซื้อหลายๆ กระปุกเพื่อการออมหลายๆ ส่วน เช่น กระปุกที่หนึ่งเป็นเงินเก็บสำหรับทริปหน้าวันหยุดยาว กระปุกที่สองออมเงินสำหรับซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณพ่อ หรือคุณแม่ กระปุกที่สามเป็นเงินเก็บสำหรับทำบุญ เป็นต้น
ทีนี้เรามาลองคำนวณดู ว่าในวันหนึ่งๆ เราใช้เงินประมาณเท่าไหร่ โดยเฉลี่ยแล้วให้แจงเงินออกเป็นก้อนสำหรับใช้ประจำวัน อาจจะแบ่งเงินออกเป็นรายวัน แล้วแลกเป็นแบงก์ร้อยใส่ซองแยกเป็นวันๆ เอาไว้เขียนวันที่กำกับไว้เลยเพื่อให้ง่ายต่อการหยิบใช้ หากวันไหนใช้เงินไม่หมด ส่วนนั้นก็นำไปหยอดกระปุกได้เลย หรือเราอาจจะเก็บเงินส่วนหนึ่งเผื่อฉุกเฉินไว้ในกระเป๋าบ้างก็ได้ แต่จะต้องนำออกมาใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
สาวๆ นักช็อปทั้งหลาย เห็นของใหม่ๆ เทรนด์ใหม่ๆ ก็อดไม่ได้จะต้องหาซื้อมาจนได้ วิธีแก้ง่ายๆ คือ การเพิ่มโบนัสนักออม ด้วยการหักเงิน 10% จากยอดที่เราใช้ช็อปปิ้งเอาไปหยอดกระปุก จะช็อปเท่าไหร่ก็หยอด 10% ของเงินที่ช็อปไปให้ได้เท่านั้น อาจจะช่วยให้คุณคิดยั้งใจก่อนจะควักเงินใช้ได้เหมือนกัน
(เป็นสาวออฟฟิศนักช็อปแบบมีเงินเก็บทำอย่างไร อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่https://www.krungsri.com/bank/th/KrungsriGuru/Money-Tips/november-2014/10-tips-for-shoppers.html)
สมัยนี้เทรนด์การรับประทานอาหารแบบคลีนกำลังมาแรง แถมยังเป็นเทรนด์ที่มีผลดีต่อสุขภาพของเรา และสุขภาพกระเป๋าสตางค์อีกด้วย การกินคลีนไม่ได้จะต้องซื้อของแพงๆ มาทานเสมอไป เริ่มต้นได้เพียงค้นหาเมนูง่ายๆ ในโลกอินเทอร์เน็ต จดวัตถุดิบ แล้วซื้อของสดมาทำเตรียมห่อไปรับประทานที่ทำงาน ประหยัดได้หลายต่อเลยทีเดียว
หากคุณต้องซื้อของชิ้นใหญ่ เช่น โทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี ชุดเครื่องนอน หรือเฟอร์นิเจอร์ มีวิธีการซื้อง่ายๆ คือ ให้ลองมองหาโปรโมชั่นผ่อน 0% ก่อนซื้อก็ให้คำนวณเงินให้ดีก่อนว่าคุณจะผ่อนสั้น - ยาวแค่ไหน ยอดรายเดือนเท่าไหร่ ผ่อนไหวหรือไม่ และพยายามวางแผนไม่ให้ชนกับรายจ่ายอื่นๆ ในแต่ละเดือนของเรานั่นเอง
อีกตัวอย่างที่สามารถช่วยให้สาวออฟฟิศสามารถตั้งเนื้อตั้งตัว ไม่ต้องกลัวลำบากยามเกษียณได้ คือ “การช็อปปิ้งการลงทุน” ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เช่น แก้ว แหวน เงิน ทอง สร้อยคอทองคำ ทองแท่ง หรือการลงทุนในสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ เช่น การลงทุนกองทุนหุ้น การลงทุนพันธบัตรรัฐบาล การลงทุนกองทุนรวมต่างๆ หากวางแผนดีๆ การช็อปปิ้งเลือกการลงทุนแบบนี้ก็สามารถทำให้เงินทองเพิ่มพูน สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของเรา และครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง
บ้านเรายังไม่ให้ความสำคัญกับการทำประกันชีวิตมาเท่าใดนัก แต่ความไม่แน่นอน และสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ การป้องกันความเสี่ยง การวางแผนประกันชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สาวออฟฟิศไม่ควรมองข้าม วันนี้อาจจะหน้าที่การงานดี เงินทองไหลมาเทมา หากบังเอิญสะดุดปัญหาสุขภาพ อุบัติเหตุทำให้ไปทำงานไม่ได้ หรือถึงขั้นเสียชีวิตกะทันหันใครจะดูแล การทำประกันชีวิตมีทั้งแบบออมทรัพย์และอีกหลายประเภทที่เป็นหลักค้ำประกันความให้กับเรา ครอบครัวและคนใกล้ชิด