ทรัมป์เดินเกมยกเครื่องแรงงานรัฐ ศึกใหม่ระหว่างฝ่ายบริหารกับระบบราชการ
การเดินหน้า “ยกเครื่องแรงงานของรัฐบาลกลาง” กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของฝ่ายบริหารประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่จากข้าราชการสหรัฐฯ หลายล้านคน แต่รวมถึงนักการเมือง นักวิชาการ และสหภาพแรงงานทั่วประเทศ เพราะนี่ไม่ใช่การปรับโครงสร้างเล็ก ๆ หากเป็นความพยายามเปลี่ยนสมดุลอำนาจระหว่างรัฐบาลกลางกับข้าราชการอย่างเป็นระบบแก่นของการยกเครื่องครั้งนี้อยู่ที่แนวคิดซึ่งทรัมป์และทีมงานพูดชัดมาตลอดว่า รัฐบาลกลาง “ใหญ่ เทอะทะ และเคลื่อนไหวช้าเกินไป” ในสายตาฝ่ายบริหาร การปฏิรูประบบแรงงานจึงถูกวางให้เป็นเครื่องมือทำให้รัฐทำงานเร็วขึ้น มีความรับผิดรับชอบมากขึ้น และอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายการเมืองมากขึ้น
หนึ่งในประเด็นที่สร้างแรงสั่นสะเทือนมากที่สุด คือการปรับสถานะของข้าราชการบางกลุ่ม โดยเปิดช่องให้ฝ่ายบริหารสามารถปลด ย้าย หรือปรับตำแหน่งได้ง่ายขึ้น โดยอ้างเหตุผลเรื่องประสิทธิภาพและความจงรักภักดีต่อนโยบายรัฐบาล แนวคิดนี้ถูกสนับสนุนจากฝ่ายที่เห็นว่าข้าราชการระดับสูงจำนวนหนึ่งกลายเป็น “รัฐซ้อนรัฐ” ที่ขัดขวางเจตจำนงของผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ฝ่ายคัดค้านมองว่านี่คือความพยายามแทรกแซงระบบราชการอย่างอันตราย เพราะข้าราชการรัฐบาลกลางถูกออกแบบมาให้มีความเป็นกลาง ทำงานต่อเนื่องไม่ว่าผู้นำทางการเมืองจะเปลี่ยนไปอย่างไร การทำให้ตำแหน่งงานไม่มั่นคง อาจนำไปสู่บรรยากาศความกลัว การเอาใจการเมือง และการตัดสินใจที่ไม่ยึดผลประโยชน์สาธารณะเป็นหลักสหภาพแรงงานภาครัฐออกมาแสดงความกังวลอย่างเปิดเผย โดยเตือนว่าการยกเครื่องแรงงานในลักษณะนี้ อาจทำลายหลักประกันการจ้างงาน ลดอำนาจต่อรองของลูกจ้าง และเปิดทางให้การเมืองเข้ามาครอบงำการทำงานของหน่วยงานรัฐมากเกินไป หลายฝ่ายยังมองว่า การปฏิรูปที่เกิดขึ้นเร็วและแรง อาจนำไปสู่การฟ้องร้องทางกฎหมายในระยะยาวฝ่ายบริหารทรัมป์โต้กลับว่า ระบบเดิมไม่ตอบโจทย์โลกปัจจุบัน ข้าราชการที่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพแทบไม่สามารถถูกลงโทษหรือปลดออกได้ และนั่นคือภาระของผู้เสียภาษี การยกเครื่องแรงงานจึงถูกอธิบายว่าเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน ผ่านผู้นำที่พวกเขาเลือกมาสิ่งที่ทำให้ประเด็นนี้ซับซ้อนขึ้น คือผลกระทบที่อาจลามไปไกลกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน เพราะหากโครงสร้างแรงงานถูกเปลี่ยนสำเร็จ ผู้นำในอนาคตไม่ว่าจะมาจากพรรคใด ก็อาจใช้กลไกเดียวกันนี้เพื่อจัดระเบียบระบบราชการตามแนวคิดของตนเอง นั่นทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า การปฏิรูปครั้งนี้คือการเพิ่มประสิทธิภาพ หรือกำลังเขียนกติกาใหม่ของรัฐอเมริกัน
ในระยะสั้น การติดตามการยกเครื่องแรงงานของรัฐบาลกลางภายใต้ทรัมป์ จึงไม่ใช่แค่การดูว่ามีกี่ตำแหน่งถูกปรับหรือใครถูกปลด แต่คือการเฝ้าดูทิศทางของอำนาจรัฐ ว่ากำลังขยับเข้าใกล้การควบคุมโดยฝ่ายการเมืองมากขึ้นเพียงใด และเส้นแบ่งระหว่าง “รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง” กับ “ระบบราชการอิสระ” จะถูกขีดใหม่อย่างไรสำหรับสหรัฐอเมริกา นี่อาจเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สำคัญที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และสำหรับโลกภายนอก มันคือสัญญาณว่า แม้แต่ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องระบบราชการมั่นคง ก็ยังไม่พ้นแรงสั่นสะเทือนจากการเมืองยุคผู้นำแข็งกร้าว
อ้างอิงจาก: bbc cnn
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ทหารช่าง นาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ชายแดนตราด
สูญเสียขาที่ 8 "จ่าทหารเรือ" เหยียบกับระเบิดกัมพูชาขณะลาดตระเวนที่ จ.ตราด
สาวไทยปากแจ๋ว! ซัดสื่อไทยปล่อยข่าวเว่อร์..เธออยู่ปอยเปตก็ปกติดี ไม่โดนจับเป็นตัวประกัน
เด็ก 5 ขวบจุดไฟเผากระดาษทิชชูเล่น ทำวิลล่าหรูวอด
หลายพื้นที่ที่ทหารไทยสามารถยึดคืนได้สำเร็จ
อึ้งกันทุกคนพิพิธภัณฑ์ เก็บเรื่องราวความเป็นไทย
แนะนำ! เว็บไซต์ ai สามารถวาดรูป [l8+](สร้างฟรี) ผู้ใหญ่เท่านั้น
เด็ก 5 ขวบจุดไฟเผากระดาษทิชชูเล่น ทำวิลล่าหรูวอด
หลายพื้นที่ที่ทหารไทยสามารถยึดคืนได้สำเร็จ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
สูญเสียขาที่ 8 "จ่าทหารเรือ" เหยียบกับระเบิดกัมพูชาขณะลาดตระเวนที่ จ.ตราด






