สหรัฐฯ ยึดเรืออีกลํานอกชายฝั่งเวเนซุเอลา ขณะที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์เพิ่มแรงกดดันต่อการากัส
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับเวเนซุเอลากลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังจากสหรัฐฯ ดำเนินการ ยึดเรืออีกหนึ่งลำนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา ท่ามกลางบรรยากาศที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลการากัสอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิงการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคงการยึดเรือล่าสุดเกิดขึ้นในน่านน้ำใกล้ชายฝั่งเวเนซุเอลา โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เรือดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และเกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าหรือทรัพยากรที่สร้างรายได้ให้รัฐบาลเวเนซุเอลา การดำเนินการครั้งนี้จึงถูกอธิบายว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสกัด “เส้นเลือดทางการเงิน” ที่หล่อเลี้ยงรัฐบาลในกรุงการากัสแม้รายละเอียดของเรือและสินค้าในเรือลำดังกล่าวจะยังไม่ถูกเปิดเผยทั้งหมด แต่แหล่งข่าวในฝ่ายบริหารสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชัดว่า การยึดเรือนี้ไม่ใช่เหตุการณ์โดดเดี่ยว หากแต่เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์กดดันระยะยาว ที่มุ่งจำกัดความสามารถของเวเนซุเอลาในการค้าขายกับต่างประเทศ โดยเฉพาะในภาคพลังงานและการขนส่งทางทะเล
สำหรับรัฐบาลทรัมป์ เวเนซุเอลายังคงถูกมองว่าเป็น “รัฐปัญหา” ในซีกโลกตะวันตก ทั้งจากประเด็นประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศคู่แข่งของสหรัฐฯ อย่างรัสเซียและจีน การเพิ่มแรงกดดันต่อการากัสจึงไม่ใช่เพียงเรื่องทวิภาคี แต่เป็นส่วนหนึ่งของภาพใหญ่ด้านภูมิรัฐศาสตร์นักวิเคราะห์มองว่า การยึดเรือในลักษณะนี้มีนัยสำคัญมากกว่าการบังคับใช้กฎหมายธรรมดา เพราะเป็นการส่งสัญญาณว่า สหรัฐฯ พร้อมใช้มาตรการเชิงรุกในภูมิภาคของตนเอง และไม่ลังเลที่จะขยายขอบเขตการคว่ำบาตรจากบนกระดาษ ไปสู่การปฏิบัติจริงในทะเล
ในฝั่งเวเนซุเอลา รัฐบาลการากัสออกท่าทีไม่พอใจต่อการกระทำของสหรัฐฯ โดยมองว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยและการใช้อำนาจฝ่ายเดียว พร้อมกล่าวหาว่าวอชิงตันกำลังใช้มาตรการบีบบังคับทางเศรษฐกิจเพื่อสร้างแรงกดดันทางการเมือง ทั้งที่ประชาชนเวเนซุเอลาเป็นฝ่ายได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างไรก็ตาม ในมุมของฝ่ายบริหารทรัมป์ ข้อโต้แย้งดังกล่าวไม่ใช่เหตุผลที่จะชะลอการดำเนินการ เพราะสหรัฐฯ เชื่อว่า การปล่อยให้รัฐบาลเวเนซุเอลามีช่องทางหารายได้ต่อไป เท่ากับการยืดอายุของระบอบที่วอชิงตันมองว่าไร้ความชอบธรรมผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงชี้ว่า การยึดเรือซ้ำ ๆ ในน่านน้ำใกล้เวเนซุเอลา อาจทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นในระยะสั้น แต่ก็สะท้อนแนวโน้มชัดเจนว่า สหรัฐฯ กำลังเลือกใช้ “แรงกดดันแบบจับต้องได้” แทนการพึ่งพาเพียงมาตรการทางการทูตหรือแถลงการณ์ประณามในอีกด้านหนึ่ง หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า ยุทธศาสตร์นี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในเวเนซุเอลาหรือไม่ หรือจะยิ่งผลักให้รัฐบาลการากัสพึ่งพาพันธมิตรนอกภูมิภาคมากขึ้น และทำให้สมรภูมิการเมืองในลาตินอเมริกาซับซ้อนกว่าเดิมสิ่งที่ชัดเจนคือ การยึดเรือลำล่าสุดไม่ได้เป็นเพียงข่าวเหตุการณ์หนึ่งวัน แต่เป็นสัญญาณว่า ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับเวเนซุเอลากำลังก้าวเข้าสู่ช่วงที่เข้มข้นขึ้น และภายใต้การนำของฝ่ายบริหารทรัมป์ วอชิงตันกำลังส่งข้อความถึงการากัสอย่างตรงไปตรงมาว่า แรงกดดันจะยังไม่หยุด และเกมนี้ยังอีกยาว
อ้างอิงจาก: bbc cnn
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
เด็ก 5 ขวบจุดไฟเผากระดาษทิชชูเล่น ทำวิลล่าหรูวอด
สาวไทยปากแจ๋ว! ซัดสื่อไทยปล่อยข่าวเว่อร์..เธออยู่ปอยเปตก็ปกติดี ไม่โดนจับเป็นตัวประกัน
สูญเสียขาที่ 8 "จ่าทหารเรือ" เหยียบกับระเบิดกัมพูชาขณะลาดตระเวนที่ จ.ตราด
กระถางต้นไม้จิ๋วบนโต๊ะทำงาน เรื่องเล็กๆ ที่ช่วยให้ใจเราเบาลงโดยไม่รู้ตัว
หลายพื้นที่ที่ทหารไทยสามารถยึดคืนได้สำเร็จ
อึ้งกันทุกคนพิพิธภัณฑ์ เก็บเรื่องราวความเป็นไทย
แนะนำ! เว็บไซต์ ai สามารถวาดรูป [l8+](สร้างฟรี) ผู้ใหญ่เท่านั้น
เด็ก 5 ขวบจุดไฟเผากระดาษทิชชูเล่น ทำวิลล่าหรูวอด
หลายพื้นที่ที่ทหารไทยสามารถยึดคืนได้สำเร็จ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
สูญเสียขาที่ 8 "จ่าทหารเรือ" เหยียบกับระเบิดกัมพูชาขณะลาดตระเวนที่ จ.ตราด





